มิ้งค์ ออกจากศาลมาสารภาพเต็มปาก โกหกเรื่องท้องกับ “กัปตัน” ยกมือไหว้ขอโทษ หลังเข้าไกล่เกลี่ยตามศาลนัดคดีที่ดาราหนุ่มกับครอบครัวเป็นโจทก์ฟ้องหมิ่นประมาท เจ้าตัวว่าโกหกเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ยังรักกัปตันอยู่ อยากให้กลับมารักกันใหม่ ไม่อยากสูญเสีย แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

มิ้งค์-กัปตัน เดินทางมาศาล

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กทม. นายชลธร คงยิ่งยง หรือ กัปตัน อายุ 20 ปี ดาราหนุ่มสังกัดค่ายนาดาว เดินทางมากับทนายความ เพื่อร่วมการไกล่เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาทในคดีที่ได้ยื่นฟ้อง น.ส.ศวภัทร สุนทรนันท์ หรือ มิ้งค์ อายุ 23 ปี เน็ตไอดอล อดีตแฟนสาว เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 กรณีให้สัมภาษณ์เผยแพร่โฆษณาโดยตอบคำถามเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และกล่าวถึงตัวกัปตัน โจทก์ ให้ถูกเข้าใจว่าเป็นคนไม่ดี มีความสัมพันธ์กับจำเลยจนตั้งครรภ์แล้วไม่รับผิดชอบดูแล เป็นผลทำให้ความนิยมในตัวโจทก์เสื่อมลง ต้องถูกต้นสังกัดที่เป็นผู้บังคับบัญชาของโจทก์ระงับไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมการแสดงต่างๆ ที่ออกสู่สาธารณชน รวมถึงบริษัทต่างๆ ที่เคยจะว่าจ้างโจทก์ก็ระงับไป เป็นผลกระทบต่ออาชีพการงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กัปตันได้มอบให้ทนายความยื่นฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2341/2561 ไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ว่าคดีมีมูลหรือไม่ในวันที่ 8 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น. แต่ก่อนถึงวันนัด ศาลได้นัดคู่ความ 2 ฝ่ายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกันก่อนในวันนี้ (4 ก.ย.) เวลา 09.30 น. โดย มิ้งค์ เน็ตไอดอลสาว จำเลย เดินทางมากับบิดาร่วมการไกล่เกลี่ยที่ศูนย์ประนอมข้อพิพาท ชั้น 7

การไกล่เกลี่ยครั้งแรกวันนี้ ผู้ประนอม ข้อพิพาท และผู้พิพากษา 1 คน ได้จัดให้คู่ความสองฝ่ายพูดคุยกัน โดยช่วงแรกเป็นการพูดคุยพร้อมกันทั้งหมด แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ จึงแยกคุยกันทีละฝ่าย รวมทั้งทนายความ สุดท้ายเมื่อได้ใช้เวลาพูดคุยกันนานร่วม 3 ชั่วโมง ทั้งสองฝ่ายได้ข้อยุติเป็นการไกล่เกลี่ยสำเร็จทันทีในนัดแรก ขณะที่ มิ้งค์ จำเลย และบิดา เดินลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหน้าอาคารศาลอาญาตามเงื่อนไขเจรจาที่ตกลงกัน

มิ้ง ศวภัทร

มิ้ง ศวภัทร แถลงต่อหน้าสื่อ สารภาพโกหก

มิ้งค์ เปิดใจโกหกปมท้อง

มิ้งค์ ศวภัทร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ออกมาพูดความจริงอย่างที่ทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าเรื่องตั้งครรภ์ไม่เป็นความจริง ที่ทำไปเพราะรัก มีความผูกพันหลายๆ อย่าง ไม่อยากสูญเสียเขาไป จึงทำอะไรแบบไม่ได้คิด อยากจะขอโทษทุกฝ่าย ทั้งตัวกัปตัน พ่อแม่ของกัปตัน และหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ที่ต้องเดือดร้อนเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตน มาในวันนี้เพราะอยากจะมาขอโทษจริงๆ รู้สึกผิด ยอมรับ

เมื่อถามว่าทำไมถึงเลือกใช้วิธีนี้ น.ส. ศวภัทรกล่าวว่า คิดว่าเหตุผลนี้อาจจะทำให้เขากลับมารักเราหรืออยู่กับเรา จริงๆ แล้วมัน ก็ไม่ใช่ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พอกระแสมันออกไปเห็นเขาโดนด่าก็ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่ หรือมีคนมาให้กำลังใจเรา เพราะเรื่องนี้ก็ไม่ได้รู้สึกดีใจ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องมันคืออะไร

เมื่อถามว่าทำไมครั้งแรกถึงไม่ตัดสินใจ พูดความจริง น.ส.ศวภัทรกล่าวว่า มันยาก ดันเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย คนเริ่มจับตามอง จับผิด ทำให้เรารู้สึกกลัวกระแสตีกลับ แต่พออยู่ในช่วงที่ได้คิดอะไรมากขึ้น เจออะไรมากขึ้น คิดได้ว่าสุดท้ายความจริงก็คือความจริง ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้

“ขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้ต้องเดือดร้อน แล้วก็ขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ” มิ้งค์-ศวภัทรกล่าว

ต่อมา”กัปตัน”ชลธร ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สิ่งที่ต้องการแล้วรู้สึกโล่งใจขึ้น หลังจากค้างอยู่ในใจมาเป็นเวลาสักพักหนึ่ง การไกล่เกลี่ยก็จบด้วยดี เข้าใจซึ่งกันและกัน อยากให้ผ่านไป ทุกอย่างที่ติดค้างก็จบลง ตอนนี้เริ่มชีวิตใหม่ที่ดีต่อไป ที่ผ่านมาก็มีทั้งสองฝ่ายที่บอกว่าท้องหรือไม่ท้อง เราก็อยากรู้ความจริง ก็ต้องเข้าใจว่าเขาทำไปด้วยความรักที่มีต่อเรา

เมื่อถามถึงการไกล่เกลี่ยพูดคุยอะไรกันบ้าง ได้คุยส่วนตัวหรือไม่ กัปตันกล่าวว่า พูดคุยอยากรู้ว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ พอรู้ก็รู้สึกโล่ง เราก็ต้องใช้เวลาปรับสภาพจิตใจเยอะพอสมควร มาถึงวันนี้รู้สึกเหมือนปลดล็อกแล้ว หลังจากนี้คงไม่มีอะไรติดค้างอีก ไม่โกรธ เพราะทุกคนตัดสินใจทำอะไรก็คงมีเหตุผลของตัวเอง ไม่สามารถไปห้ามความคิดของใครได้อยู่แล้ว เราแค่ต้องมาปรับที่ตัวเรา ส่วนมากไม่ได้คุยส่วนตัว ได้คุยกับท่าน ผู้พิพากษามากกว่า ทางเขาขอโทษแล้วก็โอเค ตนก็พร้อมให้อภัย ทางเราก็อยากขอโทษทุกอย่าง เพราะบางอย่างอาจจะเกิดมาจากเรา

ทนายความของกัปตัน กล่าวเสริมถึงผลการไกล่เกลี่ยในวันนี้ ยืนยันว่าถอนฟ้องทั้งหมด และตอนฟ้องก็ไม่ได้เรียกค่าเสียหาย ข้อตกลงคือให้มิ้งค์มาแถลงต่อสื่อเท่านี้

เมื่อถามถึงตอนที่มีข่าวใหม่ๆ กัปตันและมารดาถูกโจมตีหนักมาก อยากบอกอะไรถึงคนที่โจมตีในช่วงแรก กัปตันกล่าวว่า ค่อนข้างทรุดลงไปเหมือนกัน เหมือนมีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงในชีวิตช่วงที่ผ่านมา แม่ก็ค่อนข้างสาหัส ได้แต่คอยเป็นกำลังใจให้กัน ทุกคนในครอบครัวเจออะไรแบบนี้ก็ต้องคอยให้กำลังใจกันต่อไป ตนยินดีรับทุกคำ ปรับที่ตัวเอง แก้ได้ก็อยากจะแก้

กัปตัน ชลธร

กัปตัน แถลงหลังไกล่เกลี่ย

เมื่อถามว่าความรู้สึกของมิ้งค์ที่ยังรักอยู่ ในส่วนของกัปตันเป็นอย่างไร จะกลับไปมองหน้าคุยกันแบบเพื่อนได้อีกหรือไม่ กัปตันกล่าวว่า หลังจากนี้คงไปใช้ชีวิตของแต่ละคน มีหน้าที่มีงานที่ต้องทำ มีสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามา ส่วนการคุยกันก็ไม่รู้ มีโอกาสก็คงแล้วแต่สถานการณ์ขณะนั้น คนเคยรู้จักกัน เราโตขึ้น ต่างคนต่างมีหน้าที่คงไม่ได้ติดต่ออะไรกัน ครั้งนี้คงเป็นมรสุมใหญ่สุดในชีวิต

เมื่อถามถึงเรื่องการกลับไปทำงานและการใช้ชีวิตต่อไป กัปตันกล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาก็ดีใจที่พี่ๆ หลายคนเชื่อมั่น เห็นว่าเรายังมีความพยายามอยู่ ต้องขอขอบคุณ จากนี้ต้องตั้งใจผลิตผลงานดีๆ ทำชีวิตปกติ ช่วงนี้งานซ้อมค่อนข้างเยอะ อยากให้ทุกคนสนใจผลงานบ้าง

สำหรับบรรยากาศการให้สัมภาษณ์ของทั้งสองมีทีมทนายความและคนใกล้ชิดคอยดูแลกำกับให้เป็นไปตามเงื่อนไขของศาล ซึ่งทั้งสองก็พยายามตอบทุกคำถามของสื่อหลายสิบสำนักที่พยายามสอบถามลงรายละเอียดในประเด็นต่างๆ โดยระหว่างสัมภาษณ์ มิ้งค์มีสีหน้าเศร้าสลด ยิ้มเป็นระยะ ขณะที่กัปตันยิ้มแย้มแจ่มใส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการยื่นฟ้องคดีอาญาหมิ่นประมาทเมื่อวันที่ 1 ส.ค.แล้ว ทีมทนายความยังได้รับมอบหมายจากกัปตันและครอบครัวยื่นฟ้องคดีแพ่งฐานละเมิดกับมิ้งค์อีกหนึ่งคดี กรณีมีการกล่าวหรือไขข่าวหมิ่นประมาทให้แพร่หลาย โดยการฟ้องไม่ได้เรียกค่าเสียหาย เพียงขอให้จำเลยกล่าวคำขอโทษต่อโจทก์ แต่เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายตกลงไกล่เกลี่ยในคดีอาญาได้เป็นผลสำเร็จแล้ว ทีมทนายความของกัปตันระบุว่า เตรียมจะไปยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีแพ่งภายใน 7 วัน เพราะจำเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขแล้วในการแถลงข่าวด้วยการให้สัมภาษณ์ยอมรับข้อเท็จจริงพร้อมขอโทษทุกคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน