พิษ น้ำท่วม กระทรวงเกษตรฯสรุป ไร่นาเจ๊งแล้วกว่า 1 ล้านไร่ ในพื้นที่39 จังหวัด จากพิษฝนถล่มหนักในรอบเกือบ 2 เดือน ระบุขณะนี้มี 9 จังหวัดที่จมบาดาล ด้านกาญจนบุรี-ราชบุรีเตือนชาวบ้านอยู่ริมน้ำระวัง หลังเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณระบายน้ำเพิ่มขึ้น ส่วนนครนายกฝนตกหนัก น้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่บ้านนาหลายจุด

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ว่า ปัจจุบันเกิดสถานการณ์อุทกภัย 9 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย, กาฬสินธุ์, อุบลราช ธานี, นครพนม, บึงกาฬ, ชัยภูมิ, ลพบุรี, ปราจีนบุรี และเพชรบุรี ส่วนพื้นที่เฝ้าระวัง 7 จังหวัด ได้แก่ จ.นครพนม หนองคาย พัทลุง จันทบุรี ตราด พิษณุโลก และกาญจนบุรี จังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 21 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี, กาฬสินธุ์, เชียงใหม่, ตราด, ตาก, นครพนม, น่าน, บึงกาฬ, พะเยา, พังงา, เพชรบุรี, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ยโสธร, เลย, สกลนคร, สุราษฎร์ธานี, อำนาจเจริญ, อุตรดิตถ์, อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด

น้ำท่วม ส่งผลกระทบ

สำหรับผลกระทบด้านการเกษตรและการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นช่วงภัย น้ำท่วม ระหว่าง 12 ก.ค. ถึงปัจจุบัน จำนวน 39 จังหวัด แบ่งเป็นด้านพืช 32 จังหวัด เกษตรกรได้รับผลกระทบ 155,989 ราย พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 1,087,212 ไร่ แบ่งเป็นนาข้าว 833,631 ไร่, พืชไร่ 101,957 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 151,624 ไร่ ด้านประมง 27 จังหวัด เกษตรกรได้รับผลกระทบ 9,611 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้รับผลกระทบ ได้แก่ บ่อปลา บ่อกุ้ง ปู หอย จำนวน 10,078 บ่อ รวมพื้นที่ 6,643 ไร่ กระชัง 900 กระชัง รวมพื้นที่ 16,414 ตร.ม.

ด้าน ปศุสัตว์มี 14 จังหวัด เกษตรกรได้รับผลกระทบ 11,076 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 200,653 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 33,005 ตัว สุกร 3,346 ตัว แพะ 1,254 ตัว สัตว์ปีก 163,048 ตัว แปลงหญ้า 898 ไร่ การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 25 เครื่อง ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นครพนม สกลนคร บึงกาฬ และชัยภูมิ สนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำ 50 เครื่อง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นครพนม สกลนคร และอุบลราชธานี สนับสนุนเสบียงสัตว์ 513,400 ก.ก. อพยพสัตว์ไปยังพื้นที่สูง 47,332 ตัว ดูแลสุขภาพสัตว์ 4,316 ตัว

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชล ประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรีว่า สถานการณ์น้ำคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยลำดับ แม้น้ำในเขื่อนแก่งกระจานจะยังเกินความจุอ่างฯ แต่ยังคงเหลือพื้นที่น้ำท่วมที่อ.บ้านแหลม

สำหรับพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่คือหมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 3 ต.บ้านแหลม พื้นที่ 2,692 ไร่ หมู่ 9 ต.บางครก พื้นที่ 1,202 ไร่ และหมู่ 6 ต.ท่าแร้ง พื้นที่ 1,464 ไร่ รวมพื้นที่น้ำท่วมในอ.บ้านแหลม 5,355 ไร่ ระดับน้ำท่วมสูง 20-50 ซ.ม. ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร แต่ทางสัญจรยังคงใช้การได้ตามปกติ สาเหตุที่ยังคงมีน้ำท่วมในอ.บ้านแหลม เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ อีกทั้งเป็นทางออกทะเลซึ่งได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูง

จากกรณีมีฝนตกเหนือเขื่อนแก่งกระจานทำให้น้ำลงขึ้นแก่งกระจานมาก กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำออกท้ายเขื่อนลงแม่น้ำเพชรบุรี ส่งผลให้มีน้ำเอ่อล้นฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ 2 ฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี โดยเฉพาะต.ท่าไม้รวกซึ่งอยู่เหนือเขื่อนเพชร เอ่อล้นฝั่งแม่น้ำเพชรเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำถึง 12 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 13 หมู่บ้าน ทำให้กล้วย มะนาว มะม่วง มะละกอ มะม่วง และพืชล้มลุกครอบคลุมพื้นที่ 1,245 ไร่ เกษตรได้รับผล กระทบ 210 ราย บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 2.5 เมตร ถนนในหมู่บ้านท่วมสัญจรไม่ได้ ชาวตำบลท่าไม้รวกขอให้เขื่อนเพชรระบายน้ำเพิ่ม แต่กรมชลประทานไม่ยอม เกรงว่ามีผลกระทบกับพื้นที่ใต้เขื่อนเพชร โดยวันที่ 5 ก.ย. เวลา 13.00 น. ชาวบ้านนัดรวมตัวกันไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมเพชรบุรี ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอให้เขื่อนเพชรปล่อยน้ำเพิ่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 ก.ย. นายบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าฯกาญจนบุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯ ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ถึงประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอ ผู้อำนวยการอำเภอทุกอำเภอ ให้แจ้งเตือนประชาชน เนื่องจากเขื่อนวชิราลงกรณ จะระบาย น้ำเพิ่มขึ้นวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) วันละ 58 ล้านลบ.ม. ระหว่างวันที่ 4-10 ก.ย. และเขื่อนศรีนครินทร์จะระบายเพิ่มขึ้นวันละ 6 ล้านลบ.ม. เป็นวันละ 28 ล้านลบ.ม. ระหว่าง วันที่ 7-13 ก.ย. ซึ่งอาจส่งผลให้พื้นที่รับน้ำท้ายเขื่อนตามแนวริมลำน้ำได้รับผลกระทบ ประกอบด้วยอ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค อ.เมือง อ.ท่าม่วง และอ.ท่ามะกา

ด้านนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าฯราชบุรี ออกหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 1 ก.ย. 2561 ถึงส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอำเภอที่อยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลองเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเช่นกัน สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากการระบายน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ระหว่างวันที่ 4-13 ก.ย. อ.บ้านโป่ง อ.โพธาราม อ.เมืองราชบุรี อ.ดำเนิน สะดวก และอ.วัดเพลง เพื่อเตรียมรับสถาน การณ์อุทกภัย และดินโคลนถล่ม เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง พร้อมสั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อม จัดชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายชยาวุธกล่าวว่า เขื่อนแม่กลองระบายน้ำลดลง ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณจะเพิ่มการระบายน้ำผ่านสปิลเวย์อีกวันละ 5 ล้านล.บม. และในวันที่ 7 ก.ย. เขื่อนศรีนครินทร์ระบายเพิ่มอีกวันละ 6 ล้านลบ.ม.

เมื่อเวลา 10.00 น. กองช่างเทศบาลนครรังสิต รับแจ้งมีต้นไทรยักษ์อายุกว่า 60 ปี ล้มทับบ้านเรือนประชาชน 4 หลัง ภายในซอยรังสิตนครนายก 13 ซอยย่อย 3 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังจากมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน ตรวจสอบพบต้นไทรขนาดใหญ่อายุกว่า 60 ปี ล้มทับบ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง คือบ้านเลขที่ 63 และ 67

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่าง ต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 20.00 น. ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาต่างๆ ในเขตพื้นที่ ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี รวมกับน้ำฝนที่ตกสะสมถึง 70 ม.ม. เมื่อช่วงเช้าหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่หมู่ 5 หมู่ 7 ต.นิคมสร้าง ตนเอง ต.ท่าศาลา และต.กกโก อ.เมือง ถนนสายพหลโยธิน จากลพบุรีมุ่งหน้าสระบุรี ต้องติดขัดอย่างหนักยาวหลายกิโลเมตร

ส่วนที่หมู่ 5-2 ต.ป่าขะ และวัดทองย้อยบริเวณถนน ทางเข้าน้ำตกศรีกะอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก มีน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบริเวณวัดทองย้อย เมื่อช่วงเวลา 05.00-06.00 น. และน้ำยังคงเอ่อท่วมอย่างต่อเนื่องเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างฉับพลัน ทหารจากโรงเรียนนายร้อย จปร.และกู้ภัยต้องรีบอพยพผู้ป่วยติดเตียง ออกจากบ้านเนื่องระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้น

กรมอุตุฯ เตือน น้ำท่วม ฉับพลัน

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ตะวันออก เฉียงเหนือตอนล่าง กลาง ตะวันออก และใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวัง อันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

อนึ่งช่วงวันที่ 7-9 ก.ย. 2561 ร่องมรสุม ที่พาดผ่านบริเวณประเทศจีนตอนใต้จะมีกำลังแรงขึ้น และมีแนวโน้มเคลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตก เฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตก หนักบางแห่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน