ระทึกก่อการร้ายช็อกโลกที่ตุรกี ตร.มุสลิมลอบเข้าในงานศิลปะ ก่อนจ่อยิงเอกอัครราชทูตรัสเซียเสียชีวิตขณะกล่าวเปิดงาน ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก พร้อมประกาศสรรเสริญพระเจ้าและขออย่าลืมอเลปโปและซีเรีย ที่กลายเป็นสมรภูมิสงคราม สุดท้ายถูกวิสามัญฯ ส่วนอีกเหตุการณ์ที่เบอร์ลิน เยอรมัน ผู้อพยพขโมยรถจากโปแลนด์ พุ่งบดขยี้ประชาชนในตลาดนัดคริสต์มาส เสียชีวิต 12 บาดเจ็บอีก 49 ราย ที่ประเทศไทย รองผบช.น.ประชุมเครียดวางมาตรการดูแลความปลอดภัยสถานทูตตุรกี และสถานทูตรัสเซีย สั่งเพิ่มกล้องวงจรปิดพื้นที่เสี่ยง และคุมเข้มช่วงคริสต์มาสและปีใหม่

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานเหตุการณ์ก่อการร้ายสะเทือนขวัญทั่วโลกติดๆ กันสองเหตุการณ์ในทวีปยุโรป เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่กรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อมือปืนบุกสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ส่วนเหตุการณ์ถัดมาจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง มีคนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งเข้าชนผู้คนในตลาดคริสต์มาส กลางกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี

เหตุการณ์แรกในตุรกี ผู้ก่อเหตุชื่อ นายเมฟลุต เมิร์ต อัลตินตาส ตำรวจหน่วยปราบจลาจล อายุ 22 ปี อาศัยความเป็นตำรวจแฝงตัวเข้าไปยิงนายอังเดรย์ คาร์ลอฟ เอกอัคร ราชทูตรัสเซียประจำประเทศตุรกีเสียชีวิตคาที่ ขณะกล่าวเปิดงานแสดงภาพศิลปะ “รัสเซียในสายตาชาวตุรกี” ที่กรุงอังการา ต่อหน้าบรรดาสื่อมวลชนที่กำลังบันทึกภาพและผู้ร่วมงานที่ส่งเสียงกรีดร้องอย่างเสียขวัญ

นายอัลตินตาส ผ่านด่านตรวจอาวุธเพราะใช้สิทธิตำรวจเข้าไปในงานและไปยืนอยู่ด้านหลังทูตรัสเซีย ก่อนยิงเข้าใส่จนเหยื่อทรุดลงไปกองกับพื้น นายอัลตินตาสจึงตะโกนสรรเสริญพระเจ้า พร้อมตะโกนซ้ำๆ ว่า “อย่าลืมซีเรีย อย่าลืมอเลปโป” และว่า “ผู้ที่สนับสนุนการฆ่าล้างในสงครามนี้จะต้องชดใช้”

ต่อมานายอัลตินตาส ยิงต่อสู้กับหน่วยตำรวจคอมมานโดเป็นเวลา 15 นาที และถูก วิสามัญฯขณะที่ภาพศพของนายอัลตินตาสแพร่ไปตามโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ส่วนคลิปนาทียิงสังหารถูกถอดจากเว็บไซต์ยูทูบ เนื่องจากมีภาพรุนแรง

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า จะยกระดับการต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย และรัสเซียจะติดตามหาผู้อยู่เบื้องหลังมารับโทษ ขณะที่ประธานาธิบดีเรเจ็ป เตยิป เออร์โดอัน ผู้นำตุรกี กล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีจุดมุ่งหมายเพื่อสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับรัสเซีย ซึ่งจะไม่มีทางบรรลุเป้าหมายได้

เหตุสังหารดังกล่าวเรียกเสียงประณามจากบรรดาผู้นำทั่วโลก อาทิ นายบัน คีมุน เลขาธิ การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า รู้สึกรังเกียจการก่อการร้ายที่ไร้เหตุผลดังกล่าว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ กล่าวประณามการสังหารที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกมือปืนว่าเป็นพวกคลั่งศาสนาหัวรุนแรง

ทั้งนี้ นายอังเดรย์ คาร์ลอฟ ถือเป็นเอกอัครราชทูตรัสเซียคนแรกที่ถูกสังหารในตุรกี หลังกงสุลใหญ่ของประเทศอังกฤษเสียชีวิตในเหตุระเบิดเมื่อปี 2546 และกงสุลใหญ่ของอิสราเอลถูกลักพาตัวและถูกยิงเสียชีวิตโดยกลุ่มติดอาวุธเอียงซ้ายเมื่อปี 2514

ด้านนายดิมิทรี เปซคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า คณะผู้สืบสวนของรัสเซีย 18 คน ออกเดินทางไปยังตุรกี เพื่อเข้าร่วมสนับสนุนการสืบสวนข้อเท็จจริงในเหตุสังหารที่เกิดขึ้น ภายหลังผู้นำรัสเซียและตุรกีหารือและตกลงความร่วมมือระหว่างกันทางโทรศัพท์สายตรง

ด้านนายเฟตุลเลาะห์ กูเล็น ผู้นำทางศาสนาของตุรกี ที่พำนักอยู่ในสหรัฐ ผู้ที่ถูกทางการตุรกีกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามก่อการรัฐประหารครั้งที่ผ่านมา แสดงความตกใจและโศกเศร้าต่อเหตุสังหารที่เกิดขึ้น รวมทั้งประณามการก่อเหตุว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย ขณะที่สื่อท้องถิ่นที่สนับสนุนรัฐบาลตุรกี อ้างว่า มือปืนมีความเชื่อมโยงกับนายกูเล็น แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ทางการออกมายืนยัน

นายกูเล็นกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญของตุรกีและต่างชาติเคยเตือนรัฐบาลตุรกีแล้วหลายครั้งถึงความหย่อนยานในมาตรการรักษาความปลอดภัยและการต่อต้านการก่อการร้าย เนื่องมาจากการที่รัฐบาลตุรกีส่งตำรวจหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายไปปฏิบัติภารกิจหลายรูปแบบที่ไม่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2557

ผู้นำทางศาสนาของตุรกี ยังเรียกร้องให้รัฐบาลตุรกีเร่งหาทางออกสถานการณ์สงครามกลางเมืองในซีเรีย โดยระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นถึงบุคคลที่เป็นตัวแทนของประเทศรัสเซีย และจะส่งผลให้ความรุนแรงในสงครามซีเรียยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นราวกับราดน้ำมันใส่กองไฟ

สำหรับเหตุการณ์ในเยอรมนี ผู้ก่อเหตุเป็นหนุ่มจากปากีสถานที่อยู่ระหว่างขอลี้ภัยในเยอรมนี โจรกรรมรถบรรทุกที่ลงทะเบียนในประเทศโปแลนด์ จากนั้นขับฝ่าเข้าไปกลางตลาดนัดช่วงต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสใกล้โบสถ์อนุสรณ์ไกเซอร์วิลเฮล์ม ฝั่งตะวันตกของกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 49 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 4 คน

ฝ่ายสืบสวนสันนิษฐานว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับการก่อการร้าย ขณะที่ผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมไว้ได้ ขณะเดียวกันตำรวจพบบุคคลเชื้อชาติโปแลนด์ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวเสียชีวิตอยู่ที่เบาะข้างคนขับ คาดว่าถูกสังหารระหว่างที่คนร้ายโจรกรรมรถมาก่อการ

นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนี กล่าวยอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และอาจเป็นผู้ที่ขอมาลี้ภัยในเยอรมนี ทั้งนี้ชาวเยอรมันทุกคนขอไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต และหวังว่าผู้บาดเจ็บจะได้รับการช่วยเหลือ

การแถลงของนางแมร์เคิลที่ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เป็นฝีมือของผู้ขอลี้ภัยในเยอรมนี เกิดขึ้นหลังจากผู้นำหญิงทราบกระแสความไม่พอใจของชาวเยอรมันที่เพิ่มขึ้นกับรัฐบาล และนางแมร์เคิลเองที่เคยเปิดประเทศรับผู้อพยพนับล้านคนเข้าประเทศตั้งแต่เมื่อปี 2558 แม้ว่าจะได้รับเสียงชื่นชมในตอนแรก แต่ต่อมาเมื่อเกิดคดีอาชญากรรม จะมีกระแสโจมตีว่าเป็นเพราะการรับผู้อพยพเข้าประเทศดังกล่าว จนทำให้พรรคซีดียูของนางแมร์เคิลพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นติดๆ กัน และอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งที่นางแมร์เคิลลงสมัครรั้งเก้าอี้นายกฯ สมัยหน้า

เดร์ ทาเกสชปีเกล สื่อท้องถิ่นเยอรมัน ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยนั้นมีประวัติอาชญากรรมลักขโมยและเป็นที่รู้จักของตำรวจท้องที่ ขณะที่บริษัทที่รับผิดชอบรถบรรทุกคันนี้ ระบุว่า ทางบริษัทขาดการติดต่อกับพนักงานขับรถไปตั้งแต่เวลา 15.00 น. กระทั่งเกิดเหตุในเวลา 20.00 น.

อย่างไรก็ตาม ต่อมาตำรวจกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ระบุว่า ยังไม่มั่นใจว่าชาวปากีสถานที่จับกุมได้หลังเหตุโจมตีที่ตลาดนัดในกรุงเบอร์ลินเป็นผู้ขับรถพ่วงคันที่ใช้ก่อเหตุทำให้บรรดาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวิตกกังวลว่า คนร้ายตัวจริงอาจยังลอยนวลอยู่และอาจก่อเหตุซ้ำอีก

ด้านทางการฝรั่งเศสเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะตามตลาดนัดเทศกาลคริสต์มาส ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส สั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอด ภัยขั้นสูงสุดและว่า ชาวฝรั่งเศสขอร่วมไว้อาลัยกับชาวเยอรมันในโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวยุโรปทุกคน

ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ กล่าวแสดงความพร้อมสนับสนุนเยอรมนี และกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของพวกคลั่งศาสนาที่สังหารชาวคริสต์ในเทศกาลคริสต์มาส

สำหรับการก่อการร้ายโจมตีด้วยรถบรรทุกเคยเกิดขึ้นมาแล้วในปีนี้ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ในวันชาติฝรั่งเศส 14 ก.ค. ขณะที่ผู้คนเดินอยู่บนถนนคนเดินเพื่อชมดอกไม้ไฟ ผู้ก่อการร้าย ทราบภายหลังเป็นชาวตูนิเซียคลั่งลัทธิสุดโต่ง ขับรถพุ่งชนฝูงชน จนมีผู้เสียชีวิตถึง 86 ราย ซึ่งกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส รวมถึงกลุ่มอัลไคด้า เรียกร้องให้สาวกใช้วิธีเดียวกันนี้ก่อการอีก

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่บช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รรท.รองผบช.น.ดูแลความมั่นคง พร้อมด้วย ตัวแทนจากกองทัพบก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) กรุงเทพมหานคร รองผบก.น.1-9 บก.สปพ. ดูแลงานด้านความมั่นคง ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เพื่อประชุมหารือเกี่ยวกับความมั่นคงในการเตรียมความพร้อมการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่ และการดูแลสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียและสถานเอกอัครราชทูตตุรกี ภายหลังเกิดฆ่าทูตรัสเซียในตุรกี

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมเตรียมความพร้อมในการดูแลความมั่นคงในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ขณะที่เหตุในตุรกีและเยอรมนีกระทบกับเรื่องความมั่นคงทั้งหมด โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. สั่งการให้เรียกประชุมฝ่ายข่าวด้านความมั่นคงสำรวจในการติดตั้งกล้องซีซีทีวีให้ครอบคลุมพื้นที่ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณคลองแสนแสบทั้งหมดมีท่าเรือ 27 จุด

พร้อมสั่งการให้ทางสน.ที่รับผิดชอบตรวจสอบว่ามีพื้นที่รับผิดชอบบ้าง มีกล้องซีซีทีวีและใช้ได้หรือไม่ กลางคืนไฟส่องสว่างเพียงพอหรือไม่ โดยพื้นที่ที่จะจัดให้มีงานเคานต์ดาวน์ มีการจัดงานสวดมนต์ข้ามปีบริเวณแยกราชประสงค์ การละเล่นเครื่องดนตรีไทย การจัดงานไทยไฟต์ และบริเวณสนามหลวงก็มีสวดมนต์ข้ามปี ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนให้มากที่สุดและสร้างความศรัทธากับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาช่วงปีใหม่

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีการวางมาตรการเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอื่นๆ อาทิ กรณีที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับประเทศรัสเซียและประเทศตุรกี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. สั่งการผ่านโทรศัพท์ให้มีการจัดรถวิทยุสายตรวจ 191 ไปประจำ และให้สน.สุทธิสาร รับผิดชอบสถานทูตตุรกี และสน.บางรัก รับผิดชอบสถานทูตรัสเซีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน