กฎหมายเลือกตั้ง – พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.-พ.ร.ป.ว่าด้วยการ เลือกตั้งส.ส. โปรดเกล้าฯ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว วิษณุจุดพลุการเลือกตั้งกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ส่วนการใช้มาตรา 44 คลายล็อกจะเกิดขึ้นตามมา ขณะนี้เตรียมการไว้หมดแล้ว ด้านชทพ.จี้ดำเนินการทันที เพื่อให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้

เด็กใหม่ปชป.โต้หมอผี ชี้มาร์คไม่ต้องลาออก เพราะตอนนี้ก็เป็นเพียงผู้รักษาการเท่านั้น รมต.สำนักนายกฯโต้ปรับบทพิธีกรเฌอปรางทุกอย่างเหมือนเดิม ปลื้มเอเคบี 48 เกิร์ลกรุ๊ป ไอดอลจากญี่ปุ่น-ตัวแม่บีเอ็นเค 48 ของไทย เข้าพบบิ๊กตู่ถึงทำเนียบ ยันเป็นการขอเข้าพบเอง ประชาชาติยื่นจดตั้งพรรคแล้ว วันนอร์ย้ำไม่หนุนนายกฯ คนนอก พุทธะอิสระขึ้นศาลสารภาพซ้อมตร.สันติบาล ศาลนัดพิพากษาปลายเดือนหน้า

  • “บี”รายงานตัว-ขึ้นตรงบิ๊กตู่

เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง เข้ารายงานตัวและรับมอบหมายงานกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. และพล.อ. วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ โดยเข้าพบประมาณ 50 นาที

จากนั้น นายพุทธิพงษ์เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ได้มอบหมายงาน 1.ติดตามผลงานที่รัฐบาลทำไว้แล้ว ซึ่งมีมากพอสมควร จึงอาจเพิ่มเติมเรื่องการสื่อสารในบางส่วนว่ารัฐบาลได้แก้ปัญหาอย่างไร ถึงขั้นตอนใด และจะใช้เวลาเท่าใด 2.ประสานงานแก้ไขปัญหาการรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนในทุกรูปแบบ ทั้งศูนย์ดำรงธรรม และอื่นๆ หากปัญหาใดเร่งด่วนก็จะสรุปส่งนายกฯ โดยให้ทำงานกับ นายกฯโดยตรง ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.เป็นต้นไป

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ อย่ามองว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือเตรียมการเลือกตั้ง ยืนยันไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับการเมือง ที่ผ่านมารัฐบาลมีผลงานมาก แต่ยังไม่มีการสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจเพียงพอ จึงต้องมาสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้ประชาชน แต่ไม่ถึงขั้นเป็นโฆษกประจำตัวนายกฯ

  • คุยปชป.เข้าใจ-จากกันด้วยดี

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับคนในพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ก็เข้าใจ ซึ่งตนอยู่กับพรรคมา 18 ปี ความสัมพันธ์ของตนและคนในพรรคยังเป็นเพื่อนและพี่น้อง กันอยู่ ไม่มีปัญหาผิดใจกัน เอาเรื่องงานเป็น ตัวตั้ง ซึ่งพรรคก็เข้าใจ เพราะเป็นทางที่ตนเลือกแล้ว

เมื่อถามว่าในฐานะแกนนำ กปปส.และมีคดีความ หลายคนจึงมองว่ามีข้อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ทุกคนมองได้เช่นนั้น แต่เรื่องคดีความ ทุกอย่างยังเป็นไปตามกระบวนการปกติ ศาลชั้นต้นนัดตรวจสอบพยานปี 2562 ไม่มีเรื่องใดทำให้ตนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ วันนี้ยังถือว่าบริสุทธิ์ จึงไม่กังวล เหมือนที่หลายคนยังทำงานปกติ เมื่อศาลยังไม่ตัดสิน

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้งนายสกลธี ภัททิยกุล เป็นรองผู้ว่าฯกทม. จากนี้จะแต่งตั้งคนอื่นๆใน 4 แกนนำกปปส. ที่เหลืออยู่ได้แก่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายชุมพล จุลใส มาร่วมงานกับรัฐบาลหรือไม่

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า อย่าคิดว่าทุกคนต้องเหมือนกันหมด แต่ละคนมาเติมเต็มในตำแหน่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ยืนยันว่าเจตนารมณ์และอุดมการณ์ที่เราต้องการปฏิรูปประเทศ แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ขัดกับสิ่งที่รัฐบาลทำเพราะเรามีความตั้งใจเหมือนกัน

  • อ้างภารกิจในนามกปปส.จบแล้ว

รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ ไม่มีเงื่อนไขผูกติดกับการที่พวกเราเป็นกปปส. ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณเอง อดีตเลขาธิการกปปส. ก็ตั้งพรรครวมพลังประชา ชาติไทย (รปช.) ซึ่งไม่มีชื่อพวกตน เมื่อภารกิจของกปปส.หมดไป ทุกคนแยกย้าย และการมาครั้งนี้ ก็ไม่ได้ปรึกษานายสุเทพ มีบุคลากรของรัฐบาลเป็นผู้ติดต่อ ซึ่ง 2-3 ปีมานี้ ตนถอยจากกิจการของพรรคไปมาก เพื่อไปอยู่กับครอบครัว ก่อนหน้านี้มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลทาบทามแต่ตอนนั้นตนไม่สะดวก จึงปฏิเสธไป และเมื่อได้โอกาสจากพล.อ. ประยุทธ์อีกครั้ง ตนจึงไม่มีสิทธิปฏิเสธ เพราะ ถ้าผู้ใหญ่ขอมา 2 ครั้ง จะปฏิเสธทั้ง 2 ครั้งคงไม่เหมาะสม ตนเข้ามาทำงานจริงๆ ไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขอื่น และนายกฯไม่ได้ระบุให้ดูพื้นที่ กทม.เป็นพิเศษ แต่หากมีปัญหาในพื้นที่ใดก็เข้าไปแก้ไขปัญหาได้

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า วันนี้การปลกล็อกยังไม่เกิดขึ้น หากจะต้องกลับไปพรรคประชา ธิปัตย์ เพื่อลงส.ส.เขต โดยตนมีตำแหน่งรองเลขาธิการนายกฯ ลงพื้นที่หาเสียงคงไม่เหมาะ จึงคิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า คงไม่กลับไปสมัครส.ส.เขตกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนจะลงสมัครในนามของพรรคที่สนับสนุนพล.อ. ประยุทธ์หรือไม่นั้น ขอดูตามเนื้องานและความสัมพันธ์ที่ดี หากแก้ปัญหาของประชาชนได้จริง ทำงานด้วยกันอย่างเต็มกำลังถึงค่อยมาตัดสินใจในอนาคต

นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสหพันธรัฐไท กับคนแดนไกลว่า ไม่มี ตนเพิ่งเห็นเรื่องสหพันธรัฐไทจากข่าว ทั้งนี้ การจะรวมกลุ่มกันเพื่อแบ่งแยกรัฐนั้นเป็นไปไม่ได้ และยิ่งบอกว่าคนแดนไกลเข้ามาเกี่ยวโยงยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ตนไม่อยากให้คนที่ไม่ชอบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผูกโยงเรื่องแบบนี้ เพราะนายทักษิณก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่รักประเทศไทยไม่น้อยกว่าใคร อย่าเอาเรื่องที่ไม่พอใจเขา ไม่ชอบเขา มาเชื่อมโยงเขาแล้วให้คนเกลียดชัง นักการเมืองทุกพรรค ทุกคน ต่างก็รักชาติบ้านเมือง อย่าใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยเรื่องแบบนี้อีกเลย

  • โปรดเกล้าฯแล้วพ.ร.ป.ส.ว.-ส.ส.

วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหา วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราช โองการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2561 จำนวนทั้งสิ้น 99 มาตรา โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดไปนับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ.2561 จำนวนทั้งสิ้น 178 มาตรา โดยในมาตรา 2 กำหนดให้พ.ร.ป.นี้ ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กฎหมายเลือกตั้งส.ส. มีมาตราทั้งสิ้น 178 มาตรา มีเนื้อหาที่น่าสนใจ เช่นมาตรา 35 ที่จำกัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นอกจากห้ามลงรับสมัครส.ส.และส.ว.และสมาชิกสภาท้องถิ่น ยังห้ามดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา

มาตรา 70 ระบุถึงการหาเสียงเลือกตั้งด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ สามารถทำได้ตามหลักเกณฑ์ที่กกต.กำหนด จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันก่อนเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ในมาตรา 2 กำหนดให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ดังนั้น การกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 150 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลนั้น จะเกิดขึ้นต่อเมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาของกฎหมายลูกส.ส.ต่อไป ถ้าพิจารณาตามเวลาที่กำหนดแล้ว การเลือกตั้งอาจจะเกิดขึ้นได้ถึงเดือน พ.ค. 2562

  • พ.ร.ป.ส.ว.มีผลบังคับใช้แล้ว

ส่วนกฎหมายลูกส.ว.มี 99 มาตรา สาระสำคัญคือ ในวาระเริ่มแรกกำหนดให้วุฒิสภา ประกอบด้วยส.ว. 250 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์แต่งตั้งตามที่คสช.ถวายคำแนะนำ โดยส.ว.จะมีที่มาตามที่มาตรา 90 กำหนด ดังนี้ 1.ให้กกต. จัดให้มีการเลือกส.ว.ด้วยวิธีการเลือกกันเองของผู้สมัครทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ ให้ได้จำนวน 200 คน ให้เสร็จก่อนวันที่เลือกตั้งส.ส.ไม่น้อยกว่า 15 วัน และส่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวให้ คสช.เป็นผู้เลือกให้เหลือ 50 คน

2.ให้คณะกรรมการสรรหาส.ว.คัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาและการปฏิรูปประเทศ จํานวนไม่เกิน 400 คน และเสนอให้คสช.เลือกให้เหลือ 194 คนเช่นกัน ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้เสร็จไม่ช้ากว่า 15 วันก่อนวันเลือกตั้ง ส.ส. และ3.ให้ผู้ดํารงตําแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นส.ว.โดยตำแหน่ง รวม 6 คน

  • วิษณุจุดพลุการเลือกตั้งกำลังเกิดขึ้น

ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “เทศบาลกับการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น” ตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ภายในสัปดาห์นี้ ตนคิดว่าจะมีการประกาศพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และพร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกฎหมายส.ว.จะมีผลบังคับใช้ทันที แต่กฎหมายเลือกตั้งส.ส.ต้องทอดเวลาไปอีก 90 วันซึ่งตรงกับเดือนธ.ค. จึงจะมีผลบังคับใช้ ส่วนการทิ้งเวลาไว้นั้นเพื่อให้ 60 วันแรกสำหรับกกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง จากนั้น 30 วันให้พรรคการเมืองคัดเลือกผู้สมัครส.ส.

นายวิษณุกล่าวว่า การทำกิจกรรมของพรรค ทำได้ตั้งแต่ช่วง 60 วันแรกที่กกต.จะไปขอความคิดเห็นจากพรรคต่างๆ ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ดังนั้น คสช. จะคลายล็อกให้บางส่วน หลังจากประกาศกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ลงมาแล้ว เมื่อครบ 90 วันแล้ว กฎหมายเลือกตั้งส.ส.เริ่มมีผลใช้จริงก็จะปลดล็อกทั้งหมด ขณะที่การจัดเลือกตั้งส.ส. ต้องมีขึ้นภายใน 150 วัน ถ้านับจากกลางเดือน ธ.ค.2561 จะไปสิ้นสุดเดือน พ.ค.2562 เรื่องกำหนดวันเลือกตั้ง ถ้าใช้วันอาทิตย์เป็นตัวตั้ง และถ้าจะจัดเลือกตั้งภายในกรอบ 60 วัน ก็จะมีการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.2562 ซึ่งกกต.คิดว่าน่าจะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.2562 แต่พรรคการเมืองโวยวายว่าแบบนั้นจะทำให้เขามีเวลาหาเสียงเลือกตั้งน้อย

  • ย้ำเลือกตั้งท้องถิ่นหลังเลือกส.ส.

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่น หลังจากครม.พิจารณากฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ เสร็จเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในสัปดาห์หน้า ตนทราบว่าสนช.อาจตั้งคณะกรรมาธิการชุดเดียวพิจารณาทั้ง 6 ฉบับพร้อมกัน คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 2-3 เดือน และอาจมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือน มี.ค.2562 ทั้งนี้ กกต.แจ้งขอไว้ว่าอยากให้จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นหลังจากเลือกตั้งส.ส.ไปแล้ว 90 วัน

รองนายกฯ กล่าวว่า ถ้าดูจากโรดแม็ปแล้ว ไม่มีทางที่จะเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนเลือกตั้ง ส.ส. แต่อาจเปลี่ยนให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นบางส่วนก่อนก็ได้ แต่คิดว่ามีการเลือกตั้งส.ส.ก่อนแน่นอน ส่วนจะเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อใดนั้น คสช.จะพิจารณาความเหมาะสมแล้วแจ้งกกต.ให้กำหนดวันเลือกตั้ง แต่หากผ่านการเลือกตั้งระดับชาติแล้ว และได้รัฐบาลใหม่ ก็จะไม่มีคสช. ดังนั้น ครม.ใหม่จะเป็นผู้พิจารณาวันจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อแจ้ง กกต.ต่อไป

  • เตรียมมาตรา 44 คลายล็อกไว้แล้ว

จากนั้น นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่า กรอบเวลา 90 วันในการพิจารณาพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.จะครบกำหนดในวันที่ 14 ก.ย.นี้ เพราะเริ่มนับจากวันที่สำนักพระราชวังได้รับร่างกฎหมาย ไม่ได้นับจากวันรัฐบาลนำความกราบบังคมทูล เมื่อถามว่าเมื่อกฎหมายประกาศ แล้ว คำสั่งมาตรา 44 คลายล็อก จะออกตามมาเลยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่แน่ใจ คงไม่ทันที แต่ไม่ควรจะต่างกันมาก ขณะนี้คำสั่งดังกล่าวพิจารณาเสร็จสิ้นหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแต่งตั้งนายพุทธิพงษ์ หากจะเล่นการเมืองต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ต้องออก ไปสมัครตำแหน่งทางการเมืองได้ แต่ต้องระมัด ระวังมากกว่าเดิม เหมือนที่เคยพูดแล้วว่ารัฐมนตรีในทุกรัฐบาล ยังลงสมัครส.ส.และหาเสียงได้ เพราะคนที่ไม่มีตำแหน่งจะต้องระวังเรื่องเดียวคือกฎหมายเลือกตั้ง แต่คนที่มีตำแหน่งทางการเมือง ต้องระวังวินัยของข้าราชการการเมืองด้วย ทั้งนี้ คนในแม่น้ำ 5 สายไม่สามารถลงรับสมัครส.ส.ได้ แต่รับตำแหน่งทางการเมืองได้ เช่น เป็นส.ว. เว้นแต่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ห้ามรับตำแหน่งทางการเมือง 2 ปี

  • ชทพ.จี้ปลดล็อกพรรคการเมือง

นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวหลังกฎหมายเลือกตั้งส.ส.และส.ว.ประกาศในราชกิจจาฯ ว่า ตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 53/2560 ข้อ 8 ระบุให้คสช. ต้องพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกประกาศ คสช. หรือคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรค ดังนั้นเชื่อว่า คสช.คงพิจารณาเรื่อง ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพื่อให้พรรคได้เตรียมความพร้อม เชื่อว่าคงคลายล็อกบางเงื่อนไขเท่านั้น

นายวราวุธกล่าวต่อว่า สิ่งที่ คสช.ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับการทำงานของพรรค คือ การเปิดให้พรรคจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค และการหาสมาชิกพรรค เพราะหากทอดเวลาไปจนกว่าพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับช่วงกลางเดือนธ.ค. อาจทำให้พรรคเตรียมงานไม่ทันและเกิดฉุกละหุก ทั้งนี้ ตนไม่กังวลต่อกรอบเวลาหาเสียงของพรรค ตามที่มีข่าวจะให้เวลา 30 วัน เพราะขั้นตอนดังกล่าวพรรคบริหารจัดการได้

  • ศรีสุวรรณยื่นป.ป.ช.บี้นาฬิกา

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. กล่าวหาพล.อ.ประวิตรกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ป.ป.ช.เพิ่มเติม ก่อนหน้านี้เคยยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้ว 2 ข้อกล่าวหา คือ 1.จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.อันเป็นเท็จ และ 2.กรณีการร่ำรวยผิดปกติ แต่ปรากฏว่าวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ในลักษณะยอมรับความจริงต่อสาธารณะว่ามีและครอบครองนาฬิการาคาแพงจริง

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า แม้ในคำให้สัมภาษณ์จะอ้างว่าได้คืนเจ้าของไปแล้วก็หาได้พ้นความผิดไปไม่ เพราะถือว่าความผิดสำเร็จแล้วตามกฎหมาย และถือว่าได้รับประโยชน์จากบุคคลอื่น ที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ซึ่งขัดต่อมาตรา 103 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 หรือมาตรา 128 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยป.ป.ช. 2561 ประกอบประกาศป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ 2543 โดยตรง

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า แม้พล.อ.ประวิตรจะใช้ข้ออ้างว่าได้คืนนาฬิกาให้กับเจ้าของไปแล้ว ก็หาได้พ้นความผิดในมาตราดังกล่าว แต่เพื่อปิดทางดิ้นออกและไม่ให้ ป.ป.ช.ใช้เป็นข้ออ้างว่าไม่มีข้อกล่าวหาดังกล่าว สมาคมจึงมายื่นคำร้องนี้ดักทางไว้และเร่งให้ป.ป.ช.รีบสรุปสำนวน เพื่อส่งเรื่องให้อัยการยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำเนินการอื่นตามพ.ร.ป.ว่าด้วยป.ป.ช.โดยเร็ว

  • ตั้งพุทธิพงษ์-คสช.โยงกปปส.

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า สมาคมขอคัดค้านการแต่งตั้งนายพุทธิพงษ์ เป็นรองเลขาธิการนายกฯ และการใช้อำนาจของครม.ถือได้ว่าขัดต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 219 วรรคสอง บัญญัติ เนื่อง จากผู้ที่ได้รับแต่งตั้ง ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา ในชั้นศาลในคดีกบฏ ร่วมกับแกนนำ กปปส.อื่นอีกกว่า 30 ราย ซึ่งมีอัตราโทษที่สูง อัน มีมูลเหตุจากการขัดแย้งทางการเมืองทำให้ประเทศถดถอย จนเกิดรัฐประหารของ คสช. ดังนั้น การแต่งตั้งดังกล่าวทำให้สังคมไทยหันกลับไปคิดทบทวนเหตุผลการทำรัฐประหารใหม่ว่า แท้ที่จริง กปปส.กับคสช. มีความสัมพันธ์แนบชิดกันมาก่อนหรือไม่อย่างไร

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การใช้อำนาจของครม.ยังขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรม จึงขอเรียกร้องครม. ทบทวนการแต่งตั้งรองเลขา ธิการนายกฯฝ่ายการเมือง และนักการเมือง อื่นๆ ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา หรือผู้ที่ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายกฯมอบหมายได้

  • พท.อัดเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรง

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประชาชนมีสิทธิตั้งคำถามว่าเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน เหมือนกับการแต่งตั้งนายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ กปปส.ให้ไปรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ การแต่งตั้งแกนนำม็อบชัตดาวน์ประเทศ ชัตดาวน์ระบบราชการ ก่อจลาจลขัดขวางการเลือกตั้ง ยกม็อบไปปิดล้อมหน่วยงานราชการ นำมวลชนไปปิดล้อม สตช.จี้ให้ ผบ.ตร.ลงมารายงานตัว สั่งม็อบปลดป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังทำมาแล้วหรือไม่ ถือเป็นความเหมาะสมและส่งเสริมบรรยากาศการสร้างความปรองดองสมานฉันท์อย่างไร ท่าทีของนายกฯ และหัวหน้า คสช.ที่มีต่อคนที่มีคดีความก่อนหน้านี้ คือกลุ่มคนที่สร้างปัญหาก่อความวุ่นวายให้กับประเทศ แต่กลับแต่งตั้งเอาคนที่มีคดีอุกฉกรรจ์ ทั้งอั้งยี่ กบฏ ก่อการร้าย เข้ามาทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาลหรือไม่

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า คำถามที่สังคมไทยสงสัยว่า ทำไมฝ่ายความมั่นคงและ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในวันที่กปปส.ก่อจลาจล ชัตดาวน์ประเทศ ถึงเกียร์ว่าง ปล่อยให้เหตุ การณ์บานปลาย เพราะมีการแบ่งงานกันทำเป็นกระบวนการตามทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่ ถ้าทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในวันนั้น ประเทศ ไทยอาจไม่มาถึงจุดนี้หรือไม่

“ขณะที่ กกต.กล้าหาญที่จะประกาศวันเลือกตั้งคือวันที่ 24 ก.พ.62 พล.อ.ประยุทธ์ก็ท่องคาถามาตลอดว่าถ้าไม่สงบ ไม่เลือกตั้ง แต่รัฐบาลคสช.กลับประกาศแต่งตั้งคนที่เกี่ยว ข้องกับการนำม็อบก่อจลาจลล้ม และขัดขวางการเลือกตั้งมาเป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ประชาชนนึกไม่ออกว่า จะเป็นการส่งสัญญาณและสนับสนุนให้ประเทศเดินหน้า ไปสู่การเลือกตั้งได้อย่างไร” นายอนุสรณ์กล่าว

  • ฮือฮา AKB 48 ตัวแม่-พบบิ๊กตู่

ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า วันที่ 13 ก.ย. เวลา 09.00 น. จะนำคณะเยาวชนและศิลปิน AKB 48 จำนวน 6 คน ประกอบด้วย 1.อาซาอิ นานามิ 2.ชิบะ เอรี่ 3.อิวาตาเตะ ซาโฮะ 4.โมกิ ชิโนบุ 5.นากานิชิ จิโยริ 6.ซาซากิ ยูคาริ ซึ่งเป็นศิลปินกลุ่ม ไอดอลของประเทศญี่ปุ่น หรือเป็นวงพี่สาวของ BNK 48 ของไทยเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งมาขอพบนายกฯเอง โดยกลุ่มศิลปินดังกล่าวมาเยือนประเทศไทยและเพื่อเตรียมคอนเสิร์ตช่วงปลายปีที่ไทยด้วย

นายกอบศักดิ์กล่าวว่า เชื่อว่าคนที่เป็นโอตะ (แฟนคลับ) ในเอเชีย จะมาชมคอนเสิร์ตที่เมืองไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ การเข้าพบดังกล่าวจะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวและสัมภาษณ์ได้ โดยจะมีการถ่ายทอดสดให้ชมระหว่างการเข้าพบนายกฯทั่วโลก ผ่านเฟซบุ๊กเพจสายตรงไทยนิยม

นายกอบศักดิ์กล่าวถึงข่าวการยกเลิกออกอากาศรายการเดินหน้าประเทศไทยสร้างไทย ของน.ส.เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวง BNK 48 หลังถูกโจมตีจากกลุ่มการเมืองว่า ยังคง มีเช่นเดิมและขอเชิญชวนประชาชนรับชมรายการช่วงที่มีน้องเฌอปราง เป็นผู้ดำเนินรายการในวันเสาร์ที่ 15 ก.ย. เวลา 18.00 น.

  • ยัน”เฌอปราง”ยังทำรายการ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการเผยแพร่ภาพและข้อความ ระบุรายการเดินหน้าประเทศไทย ที่มีน.ส.เฌอปราง อารีย์กุล หรือ เฌอปราง กัปตันวง BNK 48 เป็นผู้ดำเนินรายการ เรื่องกองทุนเสมอภาค จะถูกเปลี่ยนออกและนำตอนอื่นมาออกอากาศแทน เพื่อลดกระแสวิจารณ์ว่า ไม่มีการทำอย่างนั้น สิ่งที่ถ่ายทำไว้แล้วและไม่มีการตัดต่อแล้วมาปรับเปลี่ยนใหม่ เป็นแบบไหนก็แบบนั้น เรายืนยันว่าสิ่งที่ทำให้ประชาชนเกิดความรับรู้ความเข้าใจในข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับประชาชน สังคม และบ้านเมือง เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และทุกคนที่ทำงานเรื่องนี้ก็ตั้งใจทำ เต็มที่ โดยมีนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทำเต็มที่

โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ส่วนศิลปินดาราทุกคนที่มาร่วมงาน ไม่เฉพาะแค่เฌอปรางเป็นคนที่ตั้งใจ เสียสละทำงานเพื่อบ้านเมือง เขามีความคิดสร้างสรรค์ มีความรู้ วิเคราะห์ได้ว่าอะไรเหมาะสม อะไรงามหรือไม่งาม ฉะนั้น ข้อมูลที่เป็นอินโฟกราฟิกที่ออกมาน่าจะมั่วมากกว่า ส่วนรายการที่เฌอปรางเป็นผู้ดำเนินรายการนั้น ตนไม่ทราบว่าเรียงลำดับอย่างไร แต่คิดว่าลำดับการออกอากาศเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

  • บิ๊กตู่ลั่นทนอึดมีกำลังใจต่อสู้

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. เป็นประธานเปิดงานประกาศความร่วมมือ “การสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษา” พร้อมปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การศึกษากับการเตรียมคนไทยในอนาคต”

นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า โลกปัจจุบันเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมยุคที่ 4 รัฐบาลจึงคิดคำและพัฒนาให้เป็น ไทยแลนด์ 4.0 หลายคนยังไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงไหน แล้วไอ้คนที่ไม่รู้ ก็มาออกมาแสดงความเห็นในโซเชี่ยลมีเดียจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จริง แต่ชอบแสดงความคิดเห็นต่างๆออกมา โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องเลย เราจึงกำลังสร้างความเข้มแข็งโดยใช้ระบบการศึกษา ซึ่งจะมีส่วนร่วมพัฒนาคน เราต้องสอนคนให้รักในทางที่ถูก ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย เว้นแต่พวกผู้มีอิทธิพล พวกแสวงหาผลประโยชน์ ต้องเอาไปติดคุก ใครไม่ทำตามกติกาก็ต้องติดคุก โดยผ่านกระบวน การตรวจสอบของกระบวนการยุติธรรม

“เราอย่าหนีความเป็นจริง คิดว่าอาชีพที่ดีที่สุดของวันนี้ ไม่ใช่ทหาร แต่น่าจะเป็นหมอ เป็นได้ทั้งรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง เพราะเป็นคนฉลาด แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับชะตาชีวิตและต้นทุนทางสังคมและครอบครัว ผมถามคุณ ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานว่าจะลงเล่นการเมืองไหม ปฏิเสธทันทีว่าไม่เอา แต่ทำไมคนที่ไม่ทำอะไรเลยอยากจะมาเล่นการ เมือง ผมไม่เข้าใจ เขาประสบความสำเร็จ แต่ไม่ทนทรมาน เหมือนผมทน ถามว่าผมทนไหม ผมทนอึดยิ่งกว่ายางมิชลิน เด้งซ้ายเด้งขวาแต่สู้ได้ ถ้ามีกำลังใจแบบทุกวันนี้ก็สู้ตายไม่กลัว” นายกฯ กล่าว

  • อารมณ์เสียเพราะตามแก้คนตีกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเป็นเพียงผู้นำทางทุกคนเดินไปข้างหน้า มีอุปสรรคอะไร รัฐบาลจะได้แก้ โดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เพราะถือเป็นหน้าที่ และทุกอย่างก็ดีขึ้นแล้ว เวลาตนไปต่างจังหวัด ก็ขอความมั่นใจจากประชาชนอย่าทำร้ายประเทศอีกเลย ตนก็สัญญาในใจว่า จากวันนี้จะไม่ตอบโต้ใครอีกแล้ว แต่อดไม่ได้สักที ตนสัญญาทุกวัน สวดมนต์ก่อนนอน พรุ่งนี้อย่าพลาด อย่าตอบคำถามใคร คำถามสื่อที่ไม่เข้าหู ก็อย่าไปตอบ

นายกฯ กล่าวว่า คนจะมองเรื่องความไม่ไว้ใจ การเอื้อประโยชน์ เมื่อสังคมไม่เข้าใจแล้วตีกัน ตนก็แก้ตามอยู่แบบนี้ ทำให้ตนอารมณ์เสียทุกวัน วันนี้ทุกภาคส่วนต้องระเบิดจากข้างใน จะร่วมมือกันได้อย่างไร ทุกคนต้องรู้จักคำว่ารู้เขารู้เรา แต่บางคนไม่รู้ทั้งเขาไม่รู้ทั้งเรา มัวแต่บ่นมัวแต่พูด ตัดสินเองทุกวัน พวกนี้ไม่มีอาชีพอะไรนอกจากเขียนหนังสือใส่โซเชี่ยล ว่างงาน สนุกไป มันไม่ใช่ มันทำลายและสร้างความขัดแย้งในสังคม ความไม่เข้าใจต่อรัฐบาล ก็ผิดไปหมด ซึ่งเดี๋ยวโดนอีก นายกฯหาเสียง สรุปว่านายกฯไม่สามารถพูดอะไรได้เลยในเมื่อจะเลือกตั้งกัน

  • ถ้าไม่ดุดันวันหลังจะมีปัญหาอีก

“สมัยก่อนใครพูดโครมๆ ผมก็พูดเรื่องการบริหาร การติดตามความก้าวหน้า ช่วยผมพูดด้วย รักนายกฯ รักลุงตู่ อยู่กับนายกฯตลอดหมายถึงนักข่าว รักนายกฯ อยู่กับนายกฯ วันหน้าก็ช่วยซ้ำตลอด บางทีมันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนต้องรู้ว่าความพอดีอยู่ตรงไหน อะไรเป็นข้อเท็จจริง อะไรที่แหย่กันได้บ้างก็ว่าไป การประชุมบางครั้ง ผมก็ต้องดุบ้าง จะให้ผมเป็นรัฐบาลที่พูดแต่คำว่าครับ ให้เป็นคนนุ่มนวล มันจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ มันไม่เกิด บางอย่างผมต้องชี้นำบ้าง ถ้าจะเอาแบบนุ่มนวล แบบตามใจถูกใจ วันหน้าก็มีปัญหาอีก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การปฏิรูปทุกอย่าง ถ้าไม่แก้ไขกฎหมายก็ไปไม่ได้ทั้งหมด กฎหมายบ้านเรามีเกือบแสนฉบับ แต่ทุกคนไปดูรัฐธรรมนูญอย่างเดียว ไปดูอยู่มาตราเดียว นายกฯเมื่อไรจะติดคุก มัวแต่สนใจเรื่องไม่เป็นสาระ ยังไงตนก็ยืนตรงนี้ ก็ต้องยอมรับตนอยู่แล้วหรือไม่ใช่ ตนจะได้กลับ ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยแรงศรัทธา ไม่เช่นนั้นเราจะต่อสู้กับอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ เราต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่เวลาตนต้องสู้รบปรบมือกับใคร ก็ช่วยมาอยู่ข้างหลังตนด้วยแล้วกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพูดจบ มีเสียงปรบมือให้นายกฯ ค่อนข้างดัง โดยนายกฯ กล่าวขอบคุณเมื่อทุกคนให้เกียรติตน ตนก็ให้เกียรติแล้วจะทำงานให้เป็นร้อยเท่าพันทวีทุกวัน

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นรองเลขาธิการนายกฯ โดยโบกมือพร้อมกล่าวว่า”เป็นความหมายว่าลาก่อนๆ”

  • จุติลั่นหนุนมาร์คหัวหน้าต่อ

วันเดียวกัน นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค มารักษาการหัวหน้าพรรค โดยให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากหัวหน้าพรรคว่า เป็นข้อเสนอของนายสัมพันธ์ ในฐานะอดีตสมาชิกพรรค ตนในฐานะเลขาพรรคยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น แต่ยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรค ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาทำงานไม่เคยหยุด ตนเป็นเลขาฯจดทุกปัญหาที่นายอภิสิทธิ์ลงพื้นที่เจอกว่า 100 ปัญหา ซึ่งปัญหาทั้งหมดเรานำมาประมวลเป็นนโยบายพรรค ดังนั้น ตนจึงสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ทำงานเป็นหัวหน้าพรรคต่อ เนื่องจากเป็นคนที่ใส่ใจปัญหาของประชาชน เป็นคนทำงาน และทันต่อยุคสมัยในการบริหารประเทศ

  • นราพัฒน์ยันไม่ต้องลาออก

ที่จ.พิจิตร นายนราพัฒน์ แก้วทอง อดีตส.ส.พิจิตร พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเดียวกันว่า นายอภิสิทธิ์ จะลาออกทำไม เพื่ออะไร ตอนนี้นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว เนื่องจากหมดวาระไปแล้ว เป็นแค่รักษาการหัวหน้าพรรค เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งรอ คสช. ว่าจะปลดล็อกให้เมื่อไร ส่วนที่มีอดีตส.ส.ชูนายชวน ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน เนื่องจากเราเป็นพรรคที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย นายอภิสิทธิ์ก็ออกมาแสดงจุดยืนทำตามรัฐธรรมนูญ ให้หยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค

นายนราพัฒน์กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีเสียงวิจารณ์นายอลงกรณ์ พลบุตร มีความสนิทสนม กับคสช. จะถูกส่งไปชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคนั้น เป็นสิทธิของนายอลงกรณ์ แต่ถามว่าพรรคอยู่ด้วยมวลสมาชิก ฉะนั้น คนนอกพูดได้ เสนอได้ แต่ถามว่าสุดท้ายแล้วสมาชิกเป็นคนตัดสินว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นใคร ซึ่งแตกต่างกับพรรคที่มีเจ้าของสั่งให้คนโน้นคนนี้เป็นหัวหน้า นอกจากนี้นายอลงกรณ์ ลาออกจากสมาชิกพรรคไปนานแล้ว ถ้าอยากมีสิทธิ์มาชิงหัวหน้าพรรค ก็ต้องมาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ หลังจากคสช.ปลดล็อก และต้องให้สมาชิกรับรอง

  • คนตรังไม่เห็นด้วยชู”ชวน”

นายวานิช สุนทรนนท์ บรรณาธิการหนังสือ พิมพ์ฅนตรัง กล่าวถึงข้อเสนอให้นายชวน กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นเรื่องภายในของพรรคหนึ่ง และเป็นความเห็นส่วนตัวของนายสัมพันธ์ แต่ถ้ามองในสายตาของประชาชนตนไม่เห็นด้วยที่จะเลือกนายชวนกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปมากแล้ว คนคนหนึ่งอาจจะเหมาะกับยุคสมัยหนึ่ง แต่อาจจะไม่เหมาะสมเลยในอีกยุคสมัยที่โลกและประเทศต้องการคนรุ่นใหม่ คนหนุ่มคนสาวเข้ามาดูแลประเทศและสังคม

“อย่านำคุณชวนไปเปรียบเทียบกับนาย มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกฯมาเลเซีย แม้คุณชวนจะอายุน้อยกว่า แต่ผู้นำมาเลเซียมีความคิด วิสัยทัศน์และความกล้าหาญมากกว่าหลายเท่าตัว อีกอย่างไม่ควรจะคาดหวังว่าคุณชวนจะนำพรรคไปต่อสู้กับอำนาจทหารในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะผมไม่เคยเห็นเส้นทางสายนี้” นายวานิชกล่าว

  • “ประชาชาติ”ยื่นจดตั้งพรรค

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) พร้อมด้วยนายวรวีร์ มะกูดี รองหัวหน้าพรรค พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค นาย อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ นายมุข สุไลมาน เข้ายื่นจดจัดตั้งพรรคต่อ กกต. ทั้งนี้ หลังยื่นจดตั้งพรรคแล้ว ผู้บริหารพรรคปช. ได้เข้าพบพ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า มั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 20 คน และเรียกร้องให้คสช.ปลดล็อกให้ทำกิจกรรมได้ตั้งแต่เดือนต.ค.นี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มีผลบังคับใช้ในเดือนธ.ค. ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุ เนื่องจากช้าเกินไป จึงควรเร่งปลดล็อกเพื่อให้พรรคมีเวลาเพียงพอในการจัดทำนโยบายและสื่อสารกับประชาชน ทั้งนี้ พรรคปช. ไม่สนับสนุนนายกฯคนนอก เพราะนายกฯควรมาตามวิถีทางประชาธิปไตย

  • ย้ำไม่หนุนนายกฯคนนอก

เมื่อถามว่ายืนยันไม่สนับสนุนพล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกฯใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคปช. กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเข้ามาในฐานะนายกฯคนนอกหรือมาจากบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม พรรคไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ส่วนจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับใครนั้น ขึ้นอยู่กับฉันทานุมัติของประชาชนหลังเลือกตั้งว่าสนับสนุนให้ใครเป็นรัฐบาล เพราะเราเป็นพรรคขนาดเล็กถึงขนาดกลาง คงไม่ได้เป็นแกนนำและไม่ได้เป็นนายกฯ

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคปช. ไม่ได้แตกหน่อมาจากพรรคเพื่อไทย แม้จะมีอดีตส.ส.หลายคนเคยสังกัดพรรคไทยรักไทยมาก่อน แต่มีสมาชิกจากหลากหลายอาชีพมาร่วมงาน จึงถือเป็นหน่อใหม่ที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์การเมือง และไม่คิดว่าจะล้มเหลวเหมือนพรรคมาตุภูมิในอดีต เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดกติกาการเลือกตั้งใหม่ ทำให้พรรคใหญ่ไม่ได้เสียงข้างมาก เปิดโอกาสให้พรรคขนาดเล็กและขนาดกลางมีที่ยืนมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน