แชร์ว่อนเน็ต อ้างจดหมายลาตาย เก๋ เลเดอเรอร์ เขียนระบุปมจากเครียดเรื่องอดีตคนสนิทโกงเงิน 14 ล้าน ที่ให้ไปซื้อรถซูเปอร์คาร์ลัมโบร์กินี ผกก.สน.โชคชัย ยันไม่พบจดหมายที่อ้างถึง หากมีต้องพบในที่เกิดเหตุตั้งแต่วันแรก สอบถามไปทางพ่อแม่ก็ไม่รู้เรื่อง คนสนิทโต้แทน “เอิร์ก เลเดอเรอร์” ถูกจับโยง

จากกรณี “เก๋ เลเดอเรอร์” น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ อายุ 30 ปี นางแบบเซ็กซี่ เจ้าของ “ลาพรีมคลินิก” คลินิกศัลยกรรม กระโดดตึก 3 ชั้นเสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบขวดยาฆ่าหญ้าในห้องน้ำชั้น 3 คาดว่าผู้เสียชีวิตกินยาฆ่าหญ้าก่อนกระโดดตึกลงมาเสียชีวิต ตร.ชี้ไร้ปมยาเสพติด แต่อาจมีปัญหาเรื่องเงินในธุรกิจ นัดพ่อนางแบบสาวสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 ก.ย. พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวเกี่ยวกับประเด็นเรื่องจดหมายลาตายที่ น.ส.กันยกร เขียนไว้ก่อนฆ่าตัวตายว่า ทาง เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบในประเด็นดังกล่าวว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานเอกสารในที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว ไม่พบว่ามีจดหมายการเสียชีวิตแต่อย่างใด หากมีจริงต้องพบตั้งแต่วันแรกในที่เกิดเหตุแล้ว ประกอบกับการสอบถามทางญาติทั้งหมดไม่ติดใจการเสียชีวิต และไม่เคยระบุถึงจดหมายลาตายตามที่เป็นข่าว

“เมื่อเหตุจากข่าวก็ขออนุญาตสอบถาม พ่อแม่ว่า ทางผู้เสียชีวิตมีปัญหาเรื่องการถูกโกงเงินหรือไม่หลังจากทราบจากข่าว ทาง พ่อแม่ของผู้เสียชีวิตก็ตอบว่าไม่ทราบ แล้วไม่ติดใจการเสียชีวิตแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตจากทางแพทย์ร.พ.ลาดพร้าว ระบุว่ากระดูกเชิงกรานแตก ส่วนผลการตรวจทาง นิติเวชยังอยู่ระหว่างการรอผล เนื่องจากเพิ่งส่งศพไปตรวจพิสูจน์ต้องผลการตรวจสอบทางนิติเวชอย่างละเอียดอีกครั้ง” ผกก.สน.โชคชัยกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในโลกออนไลน์มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ น.ส.กันยกร ที่เสียชีวิตจากการกินยาฆ่าแมลงและกระโดดตึกเสียชีวิต โดยเพจเฟชบุ๊กแห่งหนึ่งโพสต์ข้อความกล่าวอ้างว่า ผู้ตายเขียนจดหมายวางไว้โต๊ะก่อนจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย โดยบางส่วนในจดหมายฉบับดังกล่าวระบุชื่อนายเอ (นามสมมติ) รับเงินสดจากน.ส.กันยกรไป 14 ล้าน เพื่อซื้อรถลัมโบร์กินี แต่กลับไปซื้อผ่อน แล้วนำเงินที่เหลือไปใช้ส่วนตัว สุดท้ายนำรถคันดังกล่าวไปขายได้เงินกลับมา 2 ล้าน แต่ไม่ได้คืนให้น.ส.กันยกร รวมถึงนำรถเบนซ์ของน.ส.กันยกรไปเข้าไฟแนนซ์นำเงินไปใช้จ่าย กระทั่งน.ส.กันยกรนำรถเบนซ์ไปขายก่อนก่อเหตุฆ่าตัวตาย

เพจเฟชบุ๊กรายเดิมยังระบุอีกว่า น.ส. กันยกรหมั้นกับชายคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของแบรนด์โทรศัพท์ชื่อดัง โดยที่ครอบครัวไม่ได้รับรู้ ทั้งคู่รู้จักกันเนื่องจากน.ส.กันยกรนำรถไปตกแต่งที่ร้านของฝ่ายชายเป็นประจำ คบกันแบบเงียบๆ มาเรื่อยๆ แล้วตกลงกันว่าจะเปิดตัวทีเดียวตอนที่คลินิกดังแล้ว มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จแล้ว

เฟชบุ๊กดังกล่าวยังเปิดเผยว่า ล่าสุดครอบครัวของน.ส.กันยกรปรึกษากันแล้วจะนำฉากที่กั้นศาลาออก รวมถึงอนุญาตให้รายการ “ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ” ที่มี โก้-ธีรศักดิ์ พันธุจริยา เป็นพิธีกร นำเทปรายการสัมภาษณ์น.ส.กันยกรที่บันทึกไว้ก่อนเสียชีวิต ออกอากาศเพราะอยากให้คนรู้ความจริง

ส่วนที่ ศาลา 10 เอี่ยมจินดา วัดนวลจันทร์ สถานที่ตั้งสวดอภิธรรมน.ส.กันยกร ครอบครัวได้นำฉากกั้นบังตาออกแล้ว พร้อมให้สื่อมวลชนขึ้นไปถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศบนศาลาได้ โดย ร.ต.สุวิทย์ ขันแก้ว และนางกัลยา ขันแก้ว บิดาและมารดาของน.ส.กันยกรคอยต้อนรับแขกที่มาร่วมไว้อาลัยและร่วมฟังสวดอภิธรรม

นอกจากนั้นยังมี น.ส.ณัฐพัชร์ สมปาน เพื่อนสนิทสมัยเป็นนักเรียนตั้งแต่ประถมที่โรงเรียนเทศบาล 2 และมัธยม ที่โรงเรียนพะเยาพิทยาคม รวมถึงอยู่ร่วมชมรมนาฏศิลป์ด้วยกันมารำหน้าศพเพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

“เก๋เป็นคนที่ร่าเริงมาก เป็นคนนิสัยดี ฉลาด เก่ง ขยัน สดใส เขาอารมณ์ดีตลอด แต่ว่าช่วงหลังๆ เราไม่ได้ติดต่อกันประจำ เพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ติดต่อ กับเก๋ล่าสุดก็เมื่อช่วงปีที่แล้ว ตอนที่เราเข้าไปจุดธูปบอกเพื่อน ก็ได้บอกว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ก็ให้ไปสู่สุคติ ให้ไปสบาย บ้านเราอยู่ใกล้กัน คุณพ่อคุณแม่ เราจะแวะไปเยี่ยมท่านบ้าง จะไปถามสารทุกข์สุกดิบ ให้สบายใจ ให้หมดห่วงในส่วนนี้ได้ค่ะ” น.ส.ณัฐพัชร์กล่าว

ด้าน โก้ ธีรศักดิ์ หนึ่งในเพื่อนสนิทเผยว่า เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้จักกันมาร่วม 3-4 ปี จะมีกิจกรรมร่วมกันทำบุญด้วยกันไป ต่างจังหวัด เพิ่งได้คุยสัมภาษณ์น.ส.กันยกรในรายการวันเดียวก่อนที่เสียชีวิตเท่านั้น เลยรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ไม่คิดว่าการสัมภาษณ์มีลางอะไร แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ย้อนกลับไปดูในรายการอีกครั้ง พบว่ามีอยู่ตอนหนึ่งน.ส.กันยกรพูดว่าจะขอพูดที่นี่เป็นที่แรก ที่สุดท้าย ที่เดียว และจะไม่พูดเรื่องนี้อีกต่อไป ส่วนที่เหลือถ้ามีโอกาสได้ออนแอร์เทปนี้ อยากฟังจากปากน.ส.กันยกรเอง

ผู้สื่อข่าวถามถึงไลน์ที่คุยกับเก๋ว่ามีคนยืมเงิน โก้ ธีรศักดิ์ กล่าวว่า การทำสคริปต์ออกรายการจะต้องคุยกันเรื่องรายละเอียดต่างๆ มีเรื่องเงินๆ ทองๆ ซึ่งตนก็ยังบอกว่า ให้ไปคุยกันให้จบก่อน แล้วมาคุยเรื่องนี้อีกทีก็ได้ แต่เก๋บอกว่า จะมาพูดในเรื่องของเขา ซึ่งเราก็โอเค เพราะเราเป็นเพียงคนถาม เขามีสิทธิพูดอะไรก็ได้ ก็เลยมีประเด็นว่า 1 วันก่อนที่จะเสียชีวิต ไปทำอะไรมา

ด้าน แอล-กมลวรรณ ศรีวิไล กล่าวว่า ทราบข่าวตอนตีสอง เห็นข่าวทางเฟซบุ๊ก เลยรีบขับรถไปที่ สน.โชคชัย เพื่อไปสอบถามยืนยันว่าข่าวนี้จริงหรือไม่ เราก็เอารูปเพื่อน ให้ตำรวจดู เขาบอกว่าส่งไปนิติเวช รพ.ตร.แล้ว พร้อมทั้งเปิดบัตรประชาชนเพื่อนที่เสียชีวิตให้ดู เลยมั่นใจว่า เป็นเพื่อนเราจริงๆ เพิ่งคุยกัน 4 วันที่แล้ว เพราะไปทำผิวที่คลินิกเขา

ส่วนเรื่องของนายเอที่ถูกกล่าวถึงในจดหมายลาตายที่โซเชี่ยลระบุถึงนั้น แอล-กมลวรรณระบุว่า น่าจะมีปัญหากันจริงๆ แต่ไม่ขอพูดถึง พร้อมยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวไม่ได้เป็นพี่น้องกับน.ส.กันยกร

“เพื่อนแอล เป็นโรคซึมเศร้า ประมาณ 3-4 ปี เคยพบจิตแพทย์ คิดฆ่าตัวตายหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ที่กล้าทำแล้วสำเร็จครั้งนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เขาอาจจะเหนื่อย หรืออะไร ไม่แน่ใจ ส่วนครอบครัวไม่น่าจะทราบว่าเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพราะครอบครัวอยู่ จ.พะเยา เพื่อนๆ จะรู้เรื่องเก๋เยอะกว่า ทุกครั้งที่เขาจะฆ่าตัวตาย คนที่คลินิกจะรู้ มีคนห้ามทัน อยากให้เป็นอุทาหรณ์ คนเป็นโรคซึมเศร้า เขาขาดการไปพบแพทย์ เก็บความเครียดไว้คนเดียว ที่บ้านเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ต้องรับผิดชอบเงินเยอะๆ ธุรกิจใหญ่ๆ ผู้หญิงคนเดียว ไม่ใช่เรื่องลอบทำร้าย เขาเคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าเคยไปหาหมอ แอลไม่เคยคิดว่าเก๋จะมาถึงจุดนี้ เพราะเจอเรา เขาแฮปปี้ตลอด อยากบอกว่า ทุกอย่างมันเร็วมากๆ ตั้งตัวไม่ทัน สุดท้ายหากเพื่อนรับรู้ อยากบอกว่าดีใจที่เกิดมา มีเพื่อนชื่อเก๋ เขาดูแลใส่ใจ คอยห่วงใยทุกอย่างของเรา ขอบคุณที่ให้เกียรติแอล ทุกอย่างจริงๆ” แอล-กมลวรรณ กล่าว

ขณะที่อีกหนึ่งเพื่อนสนิทของ เก๋-กันยกร และเอิร์ก-องอาจ เลเดอเรอร์ เจ้าของค่ายเพลง เลเดอเรอร์ เอนเตอร์เทนเม้นต์ เปิดเผยถึงกรณี เอิร์ก-องอาจถูกพาดพิงว่า อาจเป็นสาเหตุให้นางแบบสาวฆ่าตัวตายว่า หลังจากเกิดเรื่อง เอิร์ก-องอาจ ตกใจมาก แต่เขากลับตกเป็นจำเลยสังคม ทุกคนชี้เป้ามาที่เขาว่ามีส่วนทำให้เก๋-กันยกร เลือกจบชีวิตตัวเอง ความจริงจดหมายลาตายฉบับดังกล่าว เอิร์ก-องอาจเห็นก่อนที่เก๋จะเสียชีวิตด้วยซ้ำ ทำให้รู้สึกว่ามีความพยายามพาดพิงให้เสียหาย

“เอิร์กรู้จักกับเก๋มาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด และส่วนใหญ่จะเป็นเอิร์กที่เป็นฝ่ายสนับสนุนเก๋จนมี ชื่อเสียงขนาดนี้ หลังจากมีประเด็นเรื่องแยกสาขาคลินิกกัน คือ สาขาบางนา และสาขารามอินทรา ทราบว่าอยู่ๆ เก๋ก็บอกให้เอิร์ก ออกจากการเป็นผู้ถือหุ้น คาดว่าเป็นเพราะ คู่หมั้นของเก๋ ซึ่งคบกันมาประมาณ 3 ปี เป็นฝ่ายกดดันให้ทำแบบนี้ และครอบครัวนี้ก็เข้ามาเกี่ยวเรื่องธุรกิจหลายอย่าง” เพื่อนสนิทของเก๋และเอิร์ก กล่าว

กรณีประเด็นเรื่องหนี้สิน 10 กว่าล้านนั้น แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดมากๆ ความจริงคือ เอิร์ก-องอาจ เป็นฝ่ายช่วยเหลือ เก๋-กันยกร และเป็นไปไม่ได้ที่จะติดหนี้เก๋ ซึ่งส่วนนี้มีหลักฐาน และจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ส่วนเรื่องรถลัมโบร์กินี เอิร์กเป็นคนซื้อเอง ด้วยเงินตัวเอง และไม่มีการถอนเงินสด 14 ล้านมาซื้อแน่นอน และรถเบนซ์ก็เป็นคนดาวน์ให้เก๋และผ่อนให้ด้วย แม้ว่าเอิร์กจะถูกพาดพิงไปในด้านลบ เอิร์กก็เสียใจ การจากไปของเก๋พร้อมจะให้อภัย และอโหสิกรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน