ข่าวสดออนไลน์ สอบถามความคิดเห็น ประชาชนที่ต้องเดินทางเข้าออกสนามบินบ่อยครั้ง เกี่ยวกับกรณีที่ แท็กซี่สนามบิน ขู่หยุดวิ่ง โดยทั้งหมดให้ความเห็นในทางเดียวกันว่า แทบไม่ได้กระทบอะไร
จากกรณีที่ แท็กซี่สนามบิน “สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง” ราว 1,000 คัน ขู่หยุดวิ่งรถวันที่ 14 ก.ย.นี้ หากรัฐไม่ขึ้นเซอร์ชาร์จ จาก 50 เป็น 100 บาท และให้กำหนดอัตราค่าโดยสารแท็กซี่เป็น 2 ราคา ที่แตกต่างกันระหว่างแท็กซี่ขนาดใหญ่ กับแท็กซี่ขนาดเล็ก รวมถึงให้ลดบทลงโทษแท็กซี่ ที่ไม่กดมิเตอร์ภายในสนามบิน ให้เป็นพักรถชั่วคราว แทน ถอนใบอนุญาตให้รับผู้โดยสาร
ล่าสุด “ข่าวสดออนไลน์” ได้สัมภาษณ์กลุ่มคนที่เดินทางเข้า-ออก นอกประเทศ และ ในประเทศ เป็นประจำด้วยเครื่องบิน ว่าการที่ แท็กซี่สนามบิน ขู่หยุดวิ่งรถ จะส่งผลกระทบอะไรกับผู้โดยสารหรือไม่
ผู้โดยสารชี้ แท็กซี่หยุดวิ่งแทบไม่กระทบอะไร!
น.ส.สุดารัตน์ จรรยาวดี อายุ 30 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เผยว่า “ถ้าแท๊กซี่สนามบินหยุดวิ่ง ส่วนตัวคิดว่ามีผลกระทบกับตัวเองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะปกติหากไม่ได้รีบมาก หรือสัมภาระไม่เยอะมาก ก็จะเลือกไปขึ้นรถยูโรปรับอากาศพวก A1, A2 แทน เพราะใช้ระยะเวลาเดินทางไม่นานมาก รถขึ้นทางด่วนด้วย แถมค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสาย ถึงที่หมายปลอดภัย บางทีลงจากรถยูโร ต่อแท๊กซี่อีกต่อนึง ยังถูกกว่า 100 บาทอีก และปกติส่วนใหญ่จะใช้บริการแท๊กซี่ในขาเข้าสนามบินมากกว่าขาออกอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่น่ามีผลกระทบอะไรกับเรามาก เพราะเรามีทางเลือกอื่นในการเดินทางอยู่”
ขณะที่นาย พิสิฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี อาชีพนักเขียน เผยว่า “ปกติเดินทางด้วยเครื่องบินอยู่บ่อยๆ ส่วนขาออกหากเป็นที่ดอนเมือง ตนจะเดินเดินไปนั่งแท็กซี่ข้างนอกแทนอยู่แล้ว รวมถึงมีรถปรับอากาศคอยบริการ ซึ่งไม่ได้กระทบอะไร แต่หากว่าเป็นที่สุวรรณภูมิ ตนคิดว่าน่าจะมีผลกระทบเล็กน้อย เพราะหลังเที่ยงคืนที่แอร์พอร์ตลิ้งค์หยุดวิ่ง ทำให้เราอาจไม่เหลือตัวเลือก
ด้านนายนพเก้า คงสุวรรณ (อายุ 33 ปี) อาชีพธุรกิจส่วนตัว เผยว่า “ถามว่าจากกรณีที่แท๊กซี่ ขู่หยุดวิ่งภายในสนามบิน มีผลกระทบอะไรหรือไม่ ในฐานะคนที่เดินทางโดยเครื่องบิน แต่โดยปกติแล้ว เรามักจะเดินออกมาด้านนอก แล้วออกมาโบกรถแท๊กซี่ที่ด้านนอกสนามบิน และใช้บริการรถโดยสารสารธารณะของสนามบิน อยู่เป็นประจำ การยกเลิก หรือขู่หยุดวิ่ง ของแท็กซี่ประจำสนามบินทั้ง 2 สนามบิน จึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร อยากให้แท็กซี่หยุดวิ่งเหมือนที่พูดดู ถ้าแน่จริง”
