พยาบาล”ก้อย”ยันไม่ใช่คู่รัก แต่ดูแลกันมากกว่าเพื่อน แรมทำพิธีถอนวิญญาณลูก
“ก้อย” สาวพยาบาลผู้รู้ใจคนสุดท้าย “โอ-วรุฒ” อดีตพระเอกดัง ดอดกราบขมาศพตั้งแต่ช่วงเช้า เผยไม่อยากเปิดตัว แต่คล้ายมีอะไรดลใจให้ออกมาเปิดเผยความดีของพระเอกดังที่แม้จะป่วยหนัก แต่ยังเป็นจิตอาสาช่วยเหลืองานสังคมตลอดเวลา ด้านพ่ออดีตพระเอกเชื่อไม่กล้าสู้หน้าจึงต้องแอบไปเงียบๆ แต่ก็ขออโหสิกรรมทุกอย่าง ครอบครัว “วรธรรม” นิมนต์พระจาก 3 วัด ทำพิธีถอนวิญญาณ เพื่อให้ได้ขึ้นสรวงสวรรค์ตามความเชื่อชาวล้านนา
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่บ้านเลขที่ 100 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ของอดีตพระเอกชื่อดัง โอ-วรุฒ วรธรรม ที่เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยโรคประจำตัวซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ 5 ของการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลและถือว่าเป็น วันที่ครบ 5 วันของการเสียชีวิต โอ-วรุฒ เช้าวันนี้ทางครอบครัวนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป จากวัดหนองควายคำ วัดศรีโพธิ์ทอง และ วัดดอยแก้ว ซึ่งเป็นวัดที่ โอ-วรุฒ บวชเมื่อปี ที่ผ่านมา ในช่วงวันเกิดอายุ 48 ปี มาทำพิธีสวดถอนวิญญาณตามความเชื่อของประเพณีชาวล้านนาว่า หลังจากเสียชีวิตแล้วดวงวิญญาณของผู้วายชนม์ยังจะวนเวียนอยู่ที่บ้านการทำพิธีสูตรถอนจึงจะ ถือว่าเป็นการสื่อสารให้กับดวงวิญญาณและเชิญดวงวิญญาณผู้ที่เสียชีวิตได้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์
โดยทำพิธีจุดธูป และนำสะตวงหรือเครื่องเซ่นไหว้ตามประเพณีล้านนา มาบอกกล่าว เจ้าที่เจ้าดิน และพระแม่ธรณี ก่อนที่จะทำพิธีสูตรถอนภายในบ้านเพื่อเชิญดวงวิญญาณ ให้ไปรับผลบุญที่ญาติพี่น้องได้ทำพิธีบำเพ็ญกุศลให้ที่วัดพระสิงห์ โดยใช้รูปถ่ายของโอ วรุฒ เป็นตัวแทนในการประกอบพิธีสูตรถอน ก่อนที่จะนำรูปดังกล่าวไปวางไว้หน้าหีบศพ เบื้องต้นวัดดอยแก้วได้แจ้งความประสงค์ต่อญาติว่า ต้องการอยากให้นำศพ โอ-วรุฒ ฝากไว้ที่วัดแห่งนี้เพราะเป็นวัดที่อดีตพระเอกเคยบวช และทางวัดเองพร้อมทุกอย่าง
ด้านนายแรม วรธรรม พ่อของโอ-วรุฒ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณเจ้าอาวาสวัดดอยแก้วอย่างมากที่รับฝากศพลูกชาย 100 วัน จะได้ปรึกษาหารือกับนีโน่-เมทนี บุรณศิริ เพื่อนรักของลูกชายและญาติพี่น้องกันต่อไปว่าจะเอาไว้หรือไม่ ตอนนี้ก็มีอยู่ประมาณ 2-3 ที่ รวมทั้งที่ ร.พ.มหาราช ด้วย คงต้องรอการปรึกษาและสรุปกันอีกครั้งว่าจะเก็บศพที่ไหนและจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ส่วนกรณี น.ส.รักษิณา หรือก้อย สกลธศักดิ์สิริ แฟนของ โอ-วรุฒ ที่แอบไปเคารพศพตั้งแต่เช้า นายแรมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เขาคงรู้ตัวเองไม่กล้ามาสู้หน้าพ่อแม่อีกแล้ว เลยแอบไปคนเดียว เพราะขณะที่ลูกชายป่วยเข้า ร.พ.นครพิงค์ ที่เขาทำงานอยู่ เขาไม่กล้าไปหา เขาคงรู้ว่าพ่อแม่อยู่ที่นั่น แต่ก็ขออโหสิกรรมให้ เพราะเรื่องราวต่างๆ ผ่านไปแล้ว แล้วไปแล้วทำไงได้เรียกคืนก็ไม่ได้อยู่แล้ว
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 06.00 น. วันเดียวกัน น.ส.รักษิณาไปที่ศาลาสหัท-หงษ์ มหาคุณ อนุสรณ์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อกราบขอขมาศพของ โอ-วรุฒ ที่เคยอยู่ดูแลกัน รู้ใจกันและกันมาตลอด โดยกราบศพต่อหน้ารูปภาพ โอ-วรุฒ ที่หน้าศาลาเนื่องจากยังไม่เปิด พร้อมร่ำไห้ต่อหน้าศพพร้อมขอให้ดวงวิญญาณของโอ-วรุฒ ไปสู่สุคติภพ ขออโหสิกรรม และชีวิตที่ผ่านมาร่วมกันขอให้เป็นโมฆกรรมเลิกแล้วต่อกัน จากนั้นเดินทางไปยังวัดล่ามช้างถวายสังฆทานและอาหาร มีข้าวมันไก่และเป็ดพะโล้ ที่โอ-วรุฒชอบรับประทานมาก
น.ส.รักษิณาเปิดเผยว่า มาขอขมา สงสารเขามาก เขาคงเหงาเขาไม่มีใคร เขาอ้างว้างโดดเดี่ยวมาตลอดเวลา ตนเป็นคนสุดท้ายและเป็นเพื่อนคนสุดท้ายที่เข้าใจเขา เขาก็อยากพบหน้าในวาระสุดท้ายของชีวิตเขา วันนี้ได้มาหาเขาแล้ว ขอให้โอไปสู่สุคติภพที่ดี ขออโหสิกรรม ไม่ติดค้างกันแล้ว ขอขมากรรม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำไว้แก่กัน ก็ขอโทษ พี่โอว่าทำไมเราถึงเจอกันไม่ได้ พี่โอก็รู้ดี ก็ขอให้อโหสิกรรมและเป็นโมฆกรรมระหว่างเราสองคนจะไม่ติดค้างกันในชาติต่อไป
“ในตอนแรกจะขอปิดตัวไม่ต้องการเป็นข่าวใดๆ แต่เหมือนจิตใจร้อนรุ่มเหมือนใครติดตามตลอดจนขนลุก เหมือนว่าพี่โอต้องการให้บอกอะไรถึงความดีงามในชีวิตที่เขาสร้างตลอดที่ได้รู้จักกันมา ขอพูดในฐานะพยาบาลที่รู้ใจ ได้เจอพี่โอครั้งแรก เมื่ออังคารที่ 24 พ.ค.2560 เมื่อพี่โอป่วยหนักถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ก้อยทำงานอยู่ ได้มีการพูดคุยเข้าใจกันจนรู้จักและเข้าใจกัน ดูแลกันมาเพราะความสงสาร เพราะป่วยมานาน โดย พี่โอมีโรคหลายโรคที่ต้องดูแล เกิดผูกพัน จนน่าจะเป็นคนที่รู้ใจพี่โอมากที่สุดของวาระสุดท้ายของพี่โอ เมื่อพี่โอหายก็ได้ชวนกันไปทำเรื่องจิตอาสา และเป็นวิทยากร พี่โอมีจิตอาสาที่จะเข้าไปร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน เป็นวิทยากรในการเลิกเหล้าเหมือนที่ตนเองประสบมา การรักษาตัวเองดูแลตัวเองให้เข้มแข็ง ทั้งก้อยและพี่โอจึงเป็นที่ปรึกษาซึ่งกันและกันในเรื่องสุขภาพและเรื่องอาชีพมากกว่า” พยาบาลสาวกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงอยู่กับโอ-วรุฒ อยู่อย่างคู่รักหรืออะไร น.ส.รักษิณากล่าวว่า อยู่กันอย่างคนรู้ใจ เพราะ โอ-วรุฒ ป่วยหนักเราดูแลกันอย่างเอื้ออาทร มันก็พิเศษกว่าเพื่อนธรรมดาไม่มีใครเข้าใจ โอ-วรุฒ ในเวลานั้นเท่ากับตน จึงต้องมาทำอะไรสักอย่างเพื่อ โอ-วรุฒ ในตอนนี้ ตอนที่อยู่ด้วยกันโอ-วรุฒ ร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เจอกัน อาการทรงตัวตลอดเวลา ต้องใช้ยารักษาตลอด เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาจึงไม่สามารถประเมินได้ และช่วงหลังการติดต่อกันน้อยลง เพราะตนติดงานทางราชการ ติดภารกิจ แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่
“พี่โอเคยมีปัญหาแย่ในชีวิต พอมีก้อย เข้ามาจึงเหมือนกับมีคนหนึ่งที่เข้าใจชีวิต พี่โอ แต่เราก็ไม่ได้อยู่กันแบบสามีภรรยา เราอยู่กันแบบคนที่รู้ใจเข้าใจในฐานะที่ก้อยเป็นพยาบาล เพราะเข้าใจว่าพี่โอป่วยด้วยโรคที่ต้องดูแลทั้งกายและใจ มันคงเป็นชะตาที่ต้องมาดูแลพี่โอ และเป็นคนเดียวที่เข้าใจว่า พี่โอป่วยจนถึงครั้งสุดท้ายก็ 3 วันก่อนที่จะเสียชีวิต มีคนบอกว่าพี่โอไปที่โรงพยาบาลเหมือนจะไปรอใครคนหนึ่ง ตอนนั้นก้อย ติดราชการจึงไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้เจอกัน จนทราบว่าพี่โอเสียชีวิต ก้อยไม่อยากจะเป็นข่าวจึงไม่แสดงตัว ก้อยไม่ต้องการ เด่นดังด้วยการเอาความดังของพี่โอมาเป็นประเด็น” พยาบาลสาวกล่าว
ช่วงค่ำที่ศาลาสหัส-พงษ์ มหาคุณอนุสรณ์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร นายแรมและ นางอรพิน วรธรรม บิดามารดา โอ-วรุฒ ตรวจดูความเรียบร้อยสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลและสวดพระอภิธรรมลูกชาย ก่อนเดินลงมาด้านล่าง ก่อนทักทาย พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และแฟนคลับที่มาเคารพศพ พร้อมร่วมทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับอย่างเป็นกันเอง โดยม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย ผู้สร้างและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง และม.จ.ฑิฆัมพร ยุคล ทรงเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลและสวดพระอภิธรรมในคืนที่ 5
มีศิลปิน นักแสดง นักร้องและบุคคล ในวงการบันเทิงทยอยส่งพวงหรีดมาเคารพศพ เพื่อไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับครอบครัววรธรรม อาทิ สอง-วจี กัลย์จาฤก กรรมการบริษัทกันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมมอบถังเก็บน้ำอิ่มบุญอิ่มใจ ขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 2 ถังเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ ผู้ล่วงลับ ไก่ สมพล ปิยะพงศ์สิริ หทัยรัตน์ อมตวณิชย์ ผู้จัดละครชื่อดัง นุติ-กมลชนก เขมะโยธิน ฟุชร์ อานนท์ และทีมงานฟิล์ม กูรู โก๊ะตี๋ อารามบอย รวมทั้งมีแฟนคลับ และประชาชน นำน้ำดื่ม และของว่าง มามอบให้แก่เจ้าภาพ เพื่อนำมาเลี้ยงและแจกจ่ายแก่ผู้มาร่วมงาน
