รู้แล้วใคร! ลุงกร่างขู่โค้ช โจ้ 5หลา “มึงเอากับกูบ่” ล่าสุดทราบชื่อแล้ว

รู้แล้วใคร! จากกรณี เบื้องหลังเกมฟาดแข้ง ฟุตบอลไทยลีก 4 เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ย. ระหว่าง ขอนแก่น เอฟซี บุกไปเอาชนะ อุตรดิตถ์ เอฟซี ถึงถิ่น 2-1 ประตู ช่วงหลังเกม ระหว่าง “โจ้ 5หลา” ศรายุทธ ชัยคำดี อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทย ซึ่งปัจจุบันนั่งเก้าอี้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ขอนแก่น ยูไนเต็ด คุมลูกทีมวอร์มร่างกายคลายกล้ามเนื้อ ปรากฏเจ้าตัวออกอาการหน้าถอดสี เมื่อถูกขาใหญ่วัยเก๋าคนหนึ่ง เดินลงมาในสนามชี้หน้าหาเรื่อง พร้อมกล่าววาจาข่มขู่ แต่มีผู้ถ่ายคลิปดังกล่าวไว้ แล้วนำมาเผยแพร่

 

อ่าน “โจ้ 5 หลา” ถึงกับมึน จู่ๆ เจอหนุ่มใหญ่เดินมาหาท้า “เอากับกูบ่” ก่อนเดินกลับไปเงียบๆ

โดยชายลึกลับชุดดำ เดินลงมาในสนามพร้อมกล่าวกับโจ้ 5 หลาด้วยภาษาท้องถิ่นว่า “มึงกวนตีน มึงเอากับกูรึเปล่า..??” โจ้ ได้ถามกลับไปว่า “ผมทำอะไรครับ ผมทำอะไรครับป๋า” แล้วเดินหนี แต่ชายดังกล่าวยังกล่าววาจา ท้าหาเรื่องอีก ก่อนจะเดินหันหลังกลับไป

รู้ตัวแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ของทีม ขอนแก่น ผู้หนึ่งโพสต์ข้อความขึ้นในเพจของสโมสรว่า “ทีมผมยังไม่ออกจากสนามเลยครับ มาหาเรื่องถึงที่เลย ทีมสต๊าฟกับนักบอลเขากลัวนะครับ ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทีมหรืออย่างไร เข้ามาได้ยังไง มีการ์ดด้วย ถ้าไม่ใช่เข้ามาได้ยังไง ฝากถึงสมาคมด้วยครับ บ่นไปก็เท่านั้นล่ะครับ..!!”

เมื่อ 16 ก.ย. ทางด้าน เพจ สโมสรฟุตบอลอุตรดิตถ์ ขึ้นหัวข้อ พร้อมคลิปพฤติกรรมของชายลึกลับดังกล่าว พร้อมข้อความวิจารณ์ว่า คุณลุงคือใครครับ?? มาทำแบบนี้ทำเสียชื่อคนอุตรดิตถ์หมดเลย เกมจบแล้วคือจบนะครับ บุคลในภาพไม่ใช่ผู้จัดการทีมนะครับ เป็นใครก็ไม่รู้ อู้คำเมืองอย่างชัด “บ่เกี่ยวกูเว้ากับบักโจ้ผู้เดียว…มึงเอาบ่”

และล่าสุด มาดามเอ๋ย พณัศยา พอจิต ประธานสโมสรฟุตบอลอุตรดิตถ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ ระบุว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นขณะนี้ ทางสโมสรได้สืบทราบมาว่า ชายคนดังกล่าว ชื่อนายอิทธิพล ทำงานอยู่ที่ธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้เข้ามาชมเกมนัดดังกล่าวและลงไปในสนามหลังจากจบเกมประมาณ 30 นาที ซึ่งเป็นช่วงที่แฟนบอลส่วนใหญ่กลับบ้านแล้ว และนักเตะทั้งสองทีมกำลังวอร์มก่อนจะพูดคุยเพื่อปล่อยนักเตะกลับบ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต

บุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล หรือเกี่ยวข้องใดๆกับสโมสรฟุตบอลอุตรดิตถ์แต่อย่างใด ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้บริหารของทีมได้รีบติดต่อไปยังผู้บริหารของทางขอนแก่น เพื่อขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในความรับผิดชอบของสโมสรเรา และสั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

ทั้งนี้สโมสรต้องขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอประณามการกระทำของบุคคลคนนี้ที่ทำให้สโมสรและจังหวัดอุตรดิตถ์เสื่อมเสียชื่อเสียง และห้ามบุคคลคนนี้เข้าสนามในการแข่งขันของสโมสรอีกต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน