ตม.บุกจับ 2 มาเฟียอินเดียคาลานจอดรถโรงแรมดังกลางกรุงพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. เผยเป็น หน.แก๊งมาเฟียใหญ่ คุมท่าเรือใหญ่ในอินเดีย มีมือปืนในสังกัดถึง 50 คน ล่าสุดสั่งการให้ลูกน้องก่อเหตุใช้ปืน ระเบิดถล่มคู่แข่งธุรกิจเสียชีวิต เมื่อ 20 ต.ค. จนถูกออกหมายจับ ก่อนพาครอบครัวหลบหนีไปเนปาล ก่อนเข้ามาเมืองไทยเมื่อ 20 ธ.ค. จะส่งตัวกลับไปดำเนินคดีต่อไป

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำโดยพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.ต.ระลึก อินทรรัศมี สว.กก.2 บก.สส.สตม. เข้าจับกุมนายมาฮิมมานาด้า มิสซ่า อายุ 63 ปีและนายบาซานต้า คูมาเบา อายุ 69 ปี ชาวอินเดีย บริเวณลานจอดรถ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท (ประตูน้ำ) เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

พล.ต.ท.ณัฐธรเปิดเผยว่า นายมาฮิมมา นาด้า เป็นหัวหน้ามาเฟียแก๊งใหญ่ คุมท่าเรือพาราดิส ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย มีมือปืนในสังกัดไม่ต่ำกว่า 50 คน ส่วนนาย บาซานต้าเป็นลูกน้องคนสนิท ทั้งคู่เป็น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลสูงประเทศอินเดีย ข้อหา “สมรู้ร่วมคิดกระทำฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ใช้และครอบครองอาวุธปืน ใช้และครอบครองวัตถุระเบิด โดยผิดกฎหมาย” โดยเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประเทศอินเดีย เกิดเหตุมือสังหารใช้ปืนยิงและขว้างระเบิดใส่นายมาเฮนดร้า ซาวาน ผู้บริหารบริษัท ซีเวย์แอนด์โลจิสติกส์ จำกัด จนเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บหลายราย เป็นข่าวโด่งดังในประเทศอินเดีย

พล.ต.ท.ณัฐธรเปิดเผยต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดียสอบสวนทราบว่าปมเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องพื้นที่ท่าเรือพาราดิส ที่เป็นศูนย์กลางขนส่งทางน้ำและการกระจายสินค้าทางบก โดยบริษัทของผู้ตายเข้ามาแข่งขันทางธุรกิจในท่าเรือ ซึ่งมีผลกำไรมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท จากนั้นทางการอินเดียจับกุมมือปืนและมือระเบิด ให้การว่าผู้จ้างวานคือ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จึงได้ออกหมายจับ แต่ทั้งคู่หลบหนีออกจากประเทศอินเดียไปประเทศเนปาล ต่อมาทางการอินเดียสืบทราบว่านายมาฮิมมานาด้าเดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. พร้อมกับลูกน้องติดตามอีก 4-5 คน จึงประสานมาทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตร.จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ นำกำลัง กก.2 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตาม

“ทั้งคู่เดินทางมากับครอบครัวเเละมีบอดี้การ์ดคุ้มกัน 5-6 คนตลอดเวลา ตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่สะกดรอยติดตาม ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี เเละสืบทราบว่าหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงเเรมย่านประตูน้ำ จึงเข้าควบคุมตัวเพื่อผลักดันกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศอินเดีย ตอนควบคุมตัวทั้งสองก็ให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของทางการอินเดีย ซึ่งหลังจากที่มีการจับกุมตัวได้ก็จะมีการผลักดันส่งกลับในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ส่วนครอบครัวทั้งสองที่เดินทางมาประเทศไทยด้วย เเจ้งความจำนงว่าจะเดินทางกลับประเทศไปด้วยกัน เเละหลังจากนี้เราก็จะมีการประสานขอข้อมูลหรือหมายจับ เพื่อผลักดันเครือข่ายที่เป็นบอดี้การ์ดทั้งสองกลับประเทศในเร็วๆ นี้ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ทาง สตม.จะมีการตรวจคุมสกัดกั้นบุคคลที่เป็นอันตรายไม่ให้เข้ามาในประเทศ เพื่อความสงบเรียบร้อยเเละรักษาความปลอดภัยของการท่องเที่ยวในประเทศ” ผบช.สตม.กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน