หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ เปิดใจครั้งแรกหลังวิวาห์สายฟ้าแลบกับ”ติ๊ก บิ๊ก บราเธอร์” เผยรู้จักกันขณะไปออกกำลังกาย จากนั้นพูดคุยกันถูกคอ รู้เลย ว่าใช่ อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ ซาบซึ้งน้ำใจของฝ่ายหญิง ระบุพ่อชุมพร เทพพิทักษ์ เข้าฝันให้ดูแลลูกเมียดีๆ เตรียมฉลองสมรสเดือนธ.ค.นี้ ปัดเรือนหอราคา 10 ล้าน

หลังจาก “หนุ่ม” ศรราม เทพพิทักษ์ อดีตพระเอกชื่อดังทำเซอร์ไพรส์วงการบันเทิง เข้าพิธีวิวาห์แบบสายฟ้าแลบกับ น.ส.กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ แฟนสาว โดยมี “ท่านมุ้ย” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล และหม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา ประทานน้ำสังข์และทำพิธีเจิมหน้าผากแก่คู่บ่าวสาวเพื่อเป็นสิริมงคล พร้อมด้วยนางมยุรี เทพพิทักษ์ แม่ของหนุ่ม-ศรราม

โดยพิธีมีขึ้นที่วังพร้อมมิตร ของ “ท่าน มุ้ย”ม.จ.ชาตรีเฉลิม ย่านสนามกอล์ฟกรุงเทพ กรีฑา เมื่อบ่ายวันที่ 21 ก.ย. พร้อมมีการไลฟ์สดผ่าน อินสตาแกรมส่วนตัวของศรรามด้วย ท่ามกลาง แขกผู้ใหญ่ที่สนิท อาทิ สรพงศ์ ชาตรี, ดวงเดือน จิไธสงค์ ร่วมพิธีแบบเรียบง่าย โดยไม่มีเพื่อนดาราและคนในวงการคนอื่นมาร่วมพิธี

จากนั้น “หนุ่ม-ศรราม” โพสต์ไอจีพาภรรยาป้ายแดงไปอัลตราซาวด์ที่โรงพยาบาล เป็นภาพลูกน้อยในท้อง พร้อมแคปชั่นว่า “St.Je #St.Jr #ศรรามจูเนียร์ #nt2213 @tikbigbrother22” โดยเพื่อนสนิทของดาราหนุ่มระบุว่า ติ๊กตั้งท้องได้ราว 2 เดือน

ขณะเดียวกัน มีคนในวงการบันเทิงและแฟนคลับจำนวนมากร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 22 ก.ย. “หนุ่ม-ศรราม”เดินทางไปร่วมงาน “GF GROUP GRAND OPENING” ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี หลังจบงาน “หนุ่ม-ศรราม” เปิดเผยถึงการแต่งงานสายฟ้าแลบกับติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ซึ่งพิธีการเป็นไปอย่างเรียบง่ายว่า เริ่มต้นจากการพูดคุยและคบหากัน ตนรู้สึกว่าในเวลาที่ไม่สบายใจหรือมีความทุกข์ใจ น้องเขาไม่ทอดทิ้งตน และอยู่เคียงข้างเสมอ รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเขา เวลาที่เขาคอยดูแลเอาใจใส่แม่ของตน นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รู้สึกว่า อยากจะวางแผนชีวิตและอยากให้เขาเป็นแม่ของลูก จากนั้นเราเลยวางแผนเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ ด้วยกัน

“ตอนนี้เรากำลังเริ่มเตรียมงาน หาโรงแรม และขอฤกษ์ต่างๆ จากท่านมุ้ย คือไม่ได้ตั้งใจว่าจะปิดบังหรืออะไร แค่อยากทำตามกำลังของเรา ไม่ได้มีล้นฟ้า หรือไม่ได้แย่ซะ จนเกินไป ทำตามกำลังที่พอมีพอใช้ของครอบครัวเรา” หนุ่ม ศรราม กล่าว

เมื่อถามว่าทราบข่าวดีเรื่องน้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ศรราม ตอบว่า “มีอยู่วันหนึ่งก่อนหน้าที่จะทราบว่าน้องมา วันนั้นผมนอนตอนกลางวันและป๋า ชุมพร เทพพิทักษ์ บิดามาเข้าฝัน ซึ่งตั้งแต่ปีที่แล้วตั้งแต่ป๋าเสีย ก็ไม่เคยมาเลย และไม่เคยฝันถึงป๋าด้วย วันนั้นผมไม่แน่ใจว่าไปแข่งฟุตบอลที่ไหนมาสักแห่งหรือไปทำบุญที่ไหนมา แต่เป็นช่วงที่ผมกำลังนอนพักผ่อนเพื่อพักกล้ามเนื้อ แล้วอยู่ดีๆ ก็ฝันถึงป๋า

“เห็นป๋ามายืนอยู่ตรงปลายเตียง พร้อมกับพูดกับผมว่า “ไอ้หมา ดูแลลูก ดูแลเมียให้ดีนะ” พอฝันเสร็จผมก็สะดุ้งตื่นและรีบไปเล่าให้ติ๊กกับคุณแม่ผมฟัง ติ๊กก็ตอบกลับมาว่า เขาก็ฝันเหมือนกัน แต่ฝันว่าแม่ผมมอบแหวนให้เขา จากนั้นเราเลยเริ่มปรึกษากันตามความเชื่อคนโบราณ และชวนกันไปโรงพยาบาลเพื่อเช็กอะไรดูสักหน่อย เนื่องจากที่ผ่านมาเราไม่มีการคุมกำเนิด เพราะตั้งใจจะมีอยู่แล้ว จากนั้นพอเราพบกับแพทย์ปุ๊บ เขาก็แนะนำให้เราฝากครรภ์เลย เพราะหมอเห็นเจ้าตัวเล็กแล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าก่อนหน้านี้ติ๊กไม่เคยมีอาการมาก่อนว่ากำลังตั้งท้อง

ศรราม กล่าว “ไม่มีอะไรให้ทราบเลยครับ เพียงแต่โดยปกติผมเป็นคนนอนไม่เคยฝัน และพอวันนั้นนอนอยู่ กลับเห็นว่าป๋ามาบอกอะไรสักอย่าง รวมถึงหากป๋าไม่ทักคำว่าลูกครั้งแรก ผมก็คงไม่ได้คิดอะไร ตอนที่ไปซาวด์กี่สัปดาห์ หมอบอกว่าถ้านับจากประจำเดือนไม่มา 6 สัปดาห์ 2 วันครับ”

หนุ่ม ศรราม กล่าวต่อว่า “ส่วนเรื่องงานวิวาห์เมื่อวาน เราเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะที่ไปเข้าเฝ้าท่านมุ้ยที่วังละโว้ ท่านก็ประทานน้ำสังข์ และประทานเลี้ยงอาหารกลางวัน แล้วท่านก็เดินทางไปต่างประเทศ ส่วนที่ต้องไปกราบผู้ใหญ่ท่านอื่น ไม่ว่าจะเป็นลุงหรั่ง เฮียฮ้อ คุณประวิทย์ พี่บอย ถกลเกียรติ และอีกหลายท่าน ซึ่งต้องกราบเรียนตรงนี้คงไม่ครบ เพราะทั้งในวงการบันเทิง และหน่วยงานราชการ ตอนที่เป็นทหารเกณฑ์ ก็มีผู้บังคับบัญชาหลายท่านที่เคารพ และผมก็เป็นผู้ไกล่เกลี่ยประนีประนอมประจำศาล ยังมีพี่ๆ อีกหลายท่าน รวมถึงเพื่อนๆ นักแสดง และเพื่อนนอกวงการด้วย ถ้าการ์ดเสร็จจะไปกราบเรียนเชิญด้วยตัวเอง เมื่อวานเป็นพระราชพิธี”

เมื่อถามว่า จะฉลองสมรสเมื่อไหร่ อดีตพระเอกหนุ่ม ตอบว่า “ประมาณเดือนธ.ค. ดูฤกษ์เรียบร้อยครับ ส่วนโรงแรมอะไร วันไหนเดี๋ยวแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ศรรามยัง กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการรู้จักและคบหากับแฟนสาวว่า “ผมเจอกับติ๊กตอนที่ผมไปออกกำลังกาย เพราะติ๊กเป็นคนที่ดูแลสุขภาพ และเป็นเทรนเนอร์ ต่างคนก็ต่างออกกำลังกาย ผมมีเวลาว่างเพราะมีเวลาพักแค่ 2-3 เดือน ช่วงที่ผ่านมา เพราะแต่ละสัปดาห์ยังต้องทัวร์คอนเสิร์ตต่างจังหวัด ต้นเดือนหน้าต้องไปแสดงคอนเสิร์ตที่อเมริกา กลับมาก็จะเปิดกล้องละครของช่อง 7 ระยะเวลาที่คบหากันก็ใช้เวลาไม่มาก แต่ผมสามารถรู้ได้ว่ามันมีบางที่สามารถทำให้เรารู้สึกได้ว่าเวลาที่ผมไม่สบายใจ หรือผมเป็นทุกข์ น้องเขาปรับตัว และปรับอารมณ์ที่จะใช้การอยู่ด้วยกันได้ดี”

เมื่อถามว่า ที่เขามัดใจเราคือการดูแลคุณแม่ใช่ไหม ศรรามตอบว่า “หลายๆ อย่างครับ”
อดีตพระเอกดังยังกล่าวถึงการวางแผนชีวิตหลังจากนี้ว่า “ทำให้ดีที่สุด อย่างที่บอกว่าวินาทีแรกที่ได้ยินเสียงชีพจร เสียงหัวใจเต้นของลูกครับ แว้บแรกเลยคิดถึงป๋าก่อน คิดว่าถ้าป๋าอยู่ต่ออีกสักปี ป๋าคงจะเห่อหลานน่าดู ก็คงจะตามใจมากกว่าผมเยอะ แต่พอมาคิดอีกที ก็อยากจะบอกให้ป๋าทราบบนสวรรค์ว่าเทพพิทักษ์ก็มีผู้สืบสกุลแล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สำหรับคุณย่าเห่อหลานหรือไม่ ศรรามตอบว่า “คุณย่าก็เป็นธรรมดาครับ ตอนนี้ก็ดีกับน้องติ๊ก ไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมก็ทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้นก็มีคนมาช่วยดูแลแม่ คุณแม่ก็ช่วยดูแลแฟนผมด้วย”

เมื่อถามว่าให้ติ๊กจดทะเบียนและเปลี่ยนนา

มสกุลด้วยเลยใช่หรือไม่ อดีตพระเอกดัง ตอบว่า “ใช่ครับ ทำถูกต้องตามพิธีการและกฎหมายทุกอย่าง สำหรับลูกจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ เพราะยังไงก็เป็นลูกเรา ยังไงก็จะรักและเลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี”

“สำหรับเรื่องเรือนหอ ต้องถามคุณย่า ดีกว่า เพราะผมก็ทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก ทำงานมาทั้งชีวิต ต้องกราบขอบพระคุณม่าม้า คุณแม่ด้วยครับ ที่ท่านคอยเก็บหอมรอมริบให้ผม ตามกำลังที่เรามีครับ สิ่งที่คุณแม่เก็บให้ทั้งชีวิตเพื่อผม คิดว่าน่าจะให้หลานล่ะครับ”

เมื่อถามว่าเรือนหอหลัก 10 ล้านบาทใช่หรือไม่ ศรราม กล่าวว่า “ต้องถามคุณย่าครับ ผมไม่รู้เรื่อง”

หลังจากมีทายาทแล้วแพลนชีวิตเราเปลี่ยนไปหรือไม่
ศรราม กล่าวว่า “มีความสุขมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น ผมอยากจะกราบเรียนอย่างนี้ว่า ผมทราบว่าความสุขของการมีครอบครัวมันไม่ได้อยู่ที่บ้านราคา 10 ล้าน หรืออยู่ที่เงินทองมากมาย อยู่ที่ความรักความอบอุ่น ความเอาใจใส่ ความเมตตาที่เรามีซึ่งกันและกันมากกว่า ผมก็ทำให้ทั้งตัวผมเอง ทั้งตัวคุณย่าก็คือคุณแม่ผมเองหรือว่าจะเป็นคุณตาคือคุณพ่อของน้องติ๊ก ทุกคนเหมือนกับมีชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ คุณย่าก็ดูแลสุขภาพมากขึ้น อยากเลี้ยงหลาน ติ๊กก็ดูสุขภาพ ผมก็ดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วย เพื่อว่าวันนึงน้องหรือว่าตัวเล็กเขามาถึงแล้ว เขาอยู่ในท้อง จะได้มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี”

ศรราม กล่าวต่อว่า “พ่อติ๊กน่ารักมาก เราทำพิธีสู่ขอตามประเพณีไปสู่ขอกับพ่อติ๊กที่โคราช พ่อติ๊กก็สอนเราทั้งคู่ทั้งผมและติ๊ก พ่อให้โอวาทว่าให้ฟังกันเยอะๆ เวลาคนหนึ่งร้อนอีกคนก็ต้องเย็น อีกคนหนึ่งพูดอีกคนหนึ่งต้องฟัง ได้คำอวยพรสั่งสอนจาก ผู้หลักผู้ใหญ่มากมายทีเดียว ต้องถือโอกาสนี้นะครับกราบขอบพระคุณผู้หลักผู้ใหญ่ทุกท่านพี่ๆทุกท่าน สื่อมวลชนทุกท่านต้องบอกว่าขอบคุณคำอวยพรจากทุกวงการ ทุกอาชีพ ที่มีให้ผมและภรรยาและเจ้าตัวเล็กของผมด้วย ขอบคุณมากๆ ครับ”

เมื่อถามว่าจะมีลูกเพิ่มอีกไหม
ศรรามตอบว่า ย่ากับติ๊กเขาคุยกัน อยากให้มีสองคน มีทีเดียวเลยจะได้เลี้ยงทีเดียว มอสปฏิภาณก็ส่งข้อความมา กบ สุวนันท์ก็ส่งข้อความมา ถือว่าสร้างรอยยิ้มให้กับเรา

“สำหรับผมก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พยายามศึกษาซื้อข้อมูลมาอ่าน พยายามค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าขณะที่ภรรยาตั้งครรภ์เป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าความรักและเอาใจใส่สำคัญต่อลูกในท้องที่สุด ให้เขามีสุขภาพกายใจที่ดี ส่วนแพ้ท้องไหม ไม่รู้ตอนนี้ติ๊กทานหลายมื้อเพิ่มขึ้น อยากทานอย่างละนิดอย่างละหน่อยคำสองคำ ที่เหลือเรา,และย่าทานต่อ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน