ไผ่ทอง – งานนี้คอไอศกรีมถึงขั้นงงกันเป็นแถบ หลังแบรนด์ไอศกรีมชื่อดังของเมืองไทย กลับมีโลโก้ 2 ยี่ห้อ โดยเจ้าหนึ่งอ้างว่า แบรนด์ตนคือของแท้ดั้งเดิม
งานนี้คอไอศกรีมอาจต้องเกากบาลหลายตลบ ขณะที่บางคนเพิ่งสังเกตว่า ไผ่ทองไอศครีม ที่หลายคนโปรดปรานมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันขณะมี 2 แบรนด์ และ 2 โลโก้
จากรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก ไผ่ทองไอสครีม โพสต์ข้อความระบุว่า “รู้กันยังจ๊ะ ระวังสินค้าลอกเลียนแบบนะคะ โปรดสังเกตด้วยจ้า” โดยอ้างอิงว่า ไผ่ทองของแท้ ต้องไม่มีรูปต้นไผ่ และแบรนด์ต้องสะกดคำว่า “ไผ่ทองไอสครีม” ไม่ใช่ “ไผ่ทองไอศครีม”
ต่อมามีชาวโซเชียลออกมาตั้งข้อสงสัยว่า หากแบรนด์ไผ่ทองที่เป็นรูปต้นไผ่คือ “ของปลอม” นั่นเท่ากับว่าเรากินไอศกรีม ที่เป็นไผ่ทองปลอมมาตลอด 20-30 ปีเลยหรือ?
ซึ่งเพจดังกล่าวชี้แจงว่า ไผ่ทองของแท้ดั้งเดิมใช้ต้นไผ่เป็นโลโก้ ทว่า ได้ถูกปรับให้เป็นสากลตั้งแต่ พ.ศ. 2542 ซึ่งปัจจุบันบริหารโดยคนรุ่นที่ 3 และระยะหลังมีผู้นำโลโก้เก่ามาแอบอ้างโดยมิได้ขออนุญาต
อย่างไรก็ตาม ทีแรกที่หลายคนนึกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือการรีแบรนด์เฉยๆ แต่ปรากฏว่า เป็นการ “แย่งชิงแบรนด์” กันเองในครอบครัวเสียอย่างนั้น หลังมีตัวแทนครอบครัวเข้ามาดีเบตกัน สรุปใจความได้ดังนี้
- เจ้าของดั้งเดิม ได้แยกไปตั้งโรงงานใหม่ และรีแบรนด์ใหม่เป็น “ไอสครีมไผ่ทอง” พร้อมจดทะเบียนเรียบร้อย
2. ต่อมาได้มีพี่น้องตระกูลเดียวกันเอง ทำไอศกรีมแบรนด์เดิมชื่อ “ไอศครีมไผ่ทอง” ที่โรงงานเก่า แต่ไม่ได้จดทะเบียน จึงทำให้มีการอ้างอิงว่าอีกฝ่ายเป็น “ของปลอม” ทั้งที่เป็นสูตรไอศกรีมที่ออกมาจากโรงงานเดียวกันตั้งแต่เริ่มแรก
สำหรับ “ไผ่ทองไอสครีม” ประวัติเดิมเคยใช้โลโก้รูปต้นไผ่ มาจนถึงปี 2542 และนำเครื่องหมายการค้าไปจดทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา แต่นายทะเบียนให้ปรับเปลี่ยนโลโก้ เนื่องจากไปคล้ายกับ “น้ำปลาตราต้นไผ่” ซึ่งใช้สัญลักษณ์เหมือนกัน จึงปรับต้นไผ่ให้เป็นอักษรสระไอ วาดให้คล้ายต้นไผ่เดิม เลยจดทะเบียนได้ และในปีพ.ศ. 2561 ได้มีการปรับลุคส์ให้ทันสมัย ใส่คิวอาร์โค้ดลงในสติ๊กเกอร์ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
เรียกว่าเป็นศึก “ชิงแบรนด์” ภายในครอบครัวอย่างแท้จริง แต่งานนี้เจ้าไหนจะตีตลาดได้ คงต้องให้รสชาติไอศกรีมเป็นตัวตัดสิน