จับ บังฮิม บุกขืนใจน.ศ.สาว ในห้องพัก ย่านห้วยขวาง ตร.ไล่เช็กวงจรปิด พบภาพขณะจอดรถจยย.ข้างหอพักตามจับได้สารภาพมาหาแฟนสาวประเภท 2 ที่หอ แต่ไม่เจอ จึงกินเหล้ารอจนเมา ก่อนทำทีเดินตรวจดูตามห้อง พบไม่ได้ล็อก น.ศ.สาวออกจากห้องน้ำมาเจอพอดี จึงลงมือขืนใจ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ รอง ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.กัมพล รัตนประธีป ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ต.ภาคิน ไกรกิตติชาญ พ.ต.ต.นพดล ถาโงกโป้ สว.สส.สน.ห้วยขวาง และฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายสุรินทร์ ยันตะดิรก หรือ บังฮิม อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2190/2561 ลงวันที่ 22 กันยายน 2561 ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการไม่กระทำการใด โดยผู้อื่นไม่ยินยอม ลักทรัพย์ในเคหสถาน บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน”

พร้อมของกลางแหวนหลวงพ่อชำนาญ ที่นายสุรินทร์สวมใส่ และพระเครื่องของกลางที่ตามกลับคืนมาได้จากแผงพระไม่มีชื่อ ย่านตลาดสะพานใหม่ จำนวน 5 องค์ เสื้อยืด สีม่วง กางเกงขาสั้น สีกรมท่า กระเป๋าเป้ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 160 ซอยรามอินทรา 2 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยย่านห้วยขวาง เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ว่าถูกคนร้ายบุกรุกเข้าไปภายในห้องพัก ก่อนลงมือข่มขืนกระทำชำเรา และลักทรัพย์สินประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และพระเครื่องจำนวนหนึ่ง หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด กระทั่งพบคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดใกล้กับที่พักของผู้เสียหาย ซึ่งจากแนวทางการสืบสวน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายสุรินทร์ อีกทั้งผู้เสียหายยืนยันจากภาพว่าเป็นบุคคลเดียวกัน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับ

พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวต่อว่า สอบสวนนายสุรินทร์รับสารภาพอ้างว่ามีอุปนิสัยหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งในวันเกิดเหตุได้ยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนรุ่นพี่ ขับมาหาแฟนซึ่งเป็นสาวประเภท 2 ที่พักอาศัยอยู่ที่ชั้น 1 ที่พักดังกล่าว แต่ไม่พบ จึงนั่งดื่มสุราอยู่ละแวกหอพักจนเมามาย อีกทั้งยังสังเกตเห็นหอพักเป็นที่เปลี่ยว ประกอบกับไม่มีกล้องวงจรปิด จึงได้เดินตระเวนหาดูห้องที่ไม่ได้ล็อกตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 4

จนมาพบว่าห้องผู้เสียหายไม่ได้ล็อกประตู จึงเปิดเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สิน ในขณะเดียวกันผู้เสียหายได้เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี เลยใช้กำลังบังคับก่อนผูกผ้าปิดตาแล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนเอาทรัพย์สินหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไปเป็นพระเครื่อง ได้นำไปขายที่ตลาดสะพานใหม่ 5 องค์ ได้เงิน 700 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ฝากไว้ที่ห้องพี่ชาย ที่พักอยู่ในย่านสะพานใหม่

พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวอีกว่า ฝากถึง ผู้ประกอบการห้องเช่า ให้ติดกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าพัก ส่วนผู้อาศัยก็ต้องให้ระวังตนเองเช่นกัน เวลาอยู่ในห้องพักตามลำพังก็ควรที่จะล็อกห้องให้เรียบร้อย นอกจากนี้อยากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้เสียหายที่เคยถูกก่อเหตุลักษณะดังกล่าว สามารถมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สน.ห้วยขวางตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัตินายสุรินทร์พบว่า เคยถูกจับในคดีข่มขืนในพื้นที่ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อปี”53 ที่ผ่านมา และเคยถูกตำรวจสน.โคกคราม จับกุมในความผิด เกี่ยวกับพ.ร.บ.อาวุธปืนและวัตถุระเบิด เมื่อปี”54 เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา จนมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้นอีก








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน