เปิดตอนที่ 3 สุดเข้มข้น นพดล เล่าถึงการผ่าศพห้างทองครั้งที่ 3 ..ความยุติธรรมแบมือขอใครไม่ได้..
นพดล – นับว่าเป็นละครที่มีกระแสร้อนแรงอย่างมาก สำหรับซีรีส์ “เลือดข้นคนจาง” ที่กำลังฉายอยู่ทางช่อง ONE HD ออกอากาศทุกวันศุกร์ 20:45 น. และวันเสาร์ 20:10 น. ทั้งยังสามารถติดตามย้อนหลังผ่านทาง Line TV ได้อีกด้วย
จากกระแสซีรีส์ดังกล่าว ทำให้หวนนึกถึง เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ย. พ.ศ.2542 หรือประมาณ 19 ปีที่แล้ว คือ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของตระกูลดังอย่าง “ธรรมวัฒนะ” ที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญกับการเสียชีวิตของ “นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ”
โดยช่วงระยะเวลาหนึ่ง สังคมตัดสินว่าเป็นการ “ฆาตกรรม” เนื่องด้วยเหตุความขัดแย้งภายในครอบครัวระหว่างพี่น้อง แต่บัดนี้ความจริงได้ปรากฏแล้ว หลังจากศาลได้ตัดสินว่า การเสียชีวิตของนายห้างทอง เป็นการ “ฆ่าตัวตาย”
ในวันนี้ ข่าวสดออนไลน์ จะพาทุกท่าน มาเปิดใจ คุยกับ “นพดล ธรรมวัฒนะ” (เป็นตอนที่ 3) ผู้ที่ครั้งหนึ่ง “เคย” ตกเป็น “จำเลยสังคม” ว่าเป็นคนฆาตกรรม ‘พี่ชายตัวเอง’
- ตอนที่ 2 จับเข่าเล่าลึก! นพดลเผยวินาที ‘ห้างทองจบชีวิต’ เปิดปมพินัยกรรมเลือด..ใครฆ่า”กุสุมา-นัยนา”
- ตอนที่ 1 “นพดล ธรรมวัฒนะ” ย้อนรอยปม ห้างทอง เหมือนหรือต่าง ‘จิระอนันต์’ #เลือดข้นคนจาง?
- สังคมชี้เป้า นพดล คือ ‘คนลั่นไก’
นพดล : หลังจากพี่ห้างทองเสียชีวิต ในทางสืบสวนต้องเก็บหลักฐาน และตั้งสมมติฐานอย่างครอบคลุม ในตอนนั้นผมยอมรับเลยว่า ตำรวจไทยค่อนข้างเก่ง การตรวจรอยเลือด และหลักฐานแวดล้อม ทางตำรวจก็สอบสวนเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และบาดแผลที่เกิดจากการถูกยิงก็เป็นการยิงประชิดติดผิวหนัง ตามทฤษฎีนิติวิทยาศาสตร์ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ระบุได้ว่า เป็นการฆ่าตัวตาย ผมก็ไม่ได้วิตกกังวัล เพราะ ความจริงก็คือความจริง แม้ว่ากระแสสังคมจะตัดสินเองว่า ผมคือฆาตกร
นพดล : จนถึงปี 2546 คดีนี้ก็ถูกรื้อขึ้นมาใหม่ ซึ่งรู้สึกว่า ตัวเองกำลังจะถูกใช้เป็น ‘แพะ’ เพราะมีเรื่องทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2544 บัญญัติไว้ว่า จะต้องตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จึงต้องร่างพ.ร.บ. ประกอบ และต้องผ่านสภาให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ ปี 2546 ซึ่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ
ขณะนั้น “แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์” ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จึงพยายามยกความสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์ให้สังคมได้รับรู้ และพยายามผลักดันเรื่องนี้ให้ผ่านสภา ผมเห็นว่า เป็นนัยยะสำคัญอันหนึ่ง ที่รื้อคดีพี่ห้างทองขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ทุกอย่างถูกสรุปไปหมดแล้ว
นพดล : ผมก็เห็นว่า ก็เป็นการดีที่จะย้ำให้สังคมเห็นความจริงอีกครั้ง จึงเกิดการผ่าพิสูจน์ครั้งที่ 2 ระหว่างที่เป็นคดี ผมก็ร้องขอให้ผ่าศพครั้งที่ 3 แต่ศาลไม่อนุญาต ทั้งที่เราร้องขอตั้งแต่ชั้นอัยการแล้ว ผบ.ตร.ขณะนั้น ก็อนุมัติ แต่ก็ถูกขัดขวางมาโดยตลอด
นพดล : ขบวนการระหว่างนั้น ก็มีการยื่นร้องขอพระราชทานเพลิงศพ ตอนนั้นผมจะต้องแถลงต่อศาลให้ทราบว่า พยานวัตถุสำคัญกำลังจะถูกทำลาย ท้ายที่สุดศาลก็อนุมัติให้อายัดศพ คือ หมายศาลออกมาก่อนวันเผาศพแค่ 1 วันเท่านั้น ทุกอย่างก็ต้องระงับไว้
จนศาลอนุญาตให้ผ่าพิสูจน์เป็นครั้งที่ 3 ผมจึงเชิญหมอมาจากทั่วประเทศ แต่หมอพรทิพย์ก็คัดค้านให้เลือกหมอแค่ 3 คน ท้ายที่สุดศาลก็เลือกมาประมาณ 10 คน รวมทั้งผู้สังเกตุการณ์อีก 30 คน ผลการผ่าพิสูจน์ก็ปรากฏชัดเจนเลยว่า ‘สิ่งที่หมอพรทิพย์บอกมาไม่เป็นความจริงทั้งหมด’ สรุปแล้ว ตนก็เป็นเหยื่ออันโอชา ซึ่งถูกกล่าวขวัญกันมากกว่าปี 2542 อีก
- ปัญหาคาราคาซังของบ้านธรรมวัฒนะ
นพดล : เมื่อพี่น้องต่างไม่เซ็นยินยอมให้แบ่งมรดกอย่างเท่าเทียมกัน ผมจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นผู้บริหารตลาดยิ่งเจริญ หลังจากนั้นก็ถูกครอบงำ มีคนนำเงินของกงสีไปใช้ประโยชน์ของตัวเองผมจึงเข้ามาเอาคดีไปพิสูจน์กันในศาล จนกลายเป็นเรื่องราวต่อเนื่อง และเกิดคดีฟ้องร้องระหว่างพี่น้องกันกว่า 60-70 คดี
- ยังคาใจ แม้ศาลตัดสินแล้ว
นพดล : ส่วนที่เป็นความเชื่อ มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถที่จะอธิบายได้ แต่ ‘บทบาทที่ชี้นำ’ ถูกทำโดยคนที่มีสถานะทางสังคม และก็โน้มน้าวในสิ่งที่ผิด ผมต้องทำทุกวิถีทางในการต่อสู้ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องต่อสู้อยู่ จึงร้องเรียนผ่านแพทยสภา ซึ่งใช้เวลาพิจารณาเกือบ 10 ปี ก่อนจะตัดสินว่า สิ่งที่หมอพรทิพย์ชี้นั้น ผิดหมดทุกข้อ แต่ลงโทษแค่เพียงตักเตือน ไม่อยากจะคิดว่า หากศาลเชื่อการชี้นำของหมอพรทิพย์ ผมคงถูกประหารชีวิตไปแล้ว
- บทบาทนำ ชี้เป้าให้สังคมเข้าใจผิด
นพดล : ท้ายที่สุดก็ต้องนำคดีไปฟ้องต่อศาล ผมแพ้คดีในศาลปกครองชั้นต้น จึงต้องไปต่อสู้ที่ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ซึ่งก็ต้องมารอดูกัน และสิ่งที่ผมเรียนรู้มาก็ทราบว่า ‘ความยุติธรรมแบมือขอใครไม่ได้’ จึงย้อนกลับมาดูว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่มีกำลังในการต่อสู้ หากเป็นบุคคลธรรมดาจะเป็นอย่างไร แล้วกรณีแบบนี้ก็เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ทั้งการที่แพทย์นิติเวชให้ความเห็นผิดๆ พลาดๆ จนทำให้เกิด ‘แพะรับบาป’ ในสังคม คดีของพี่ห้างทอง ควรจะเป็นคดีศึกษาที่สำคัญ และนำไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ เพื่อใช้แสวงหาความยุติธรรมที่แท้จริงให้กับประชาชนทั่วไป
ยังมี ตอนที่ 4 ที่เข้มข้นยิ่งขึ้นไปอีก ติดตามอ่านได้ทางเว็บไซต์ ข่าวสดออนไลน์ ที่นี่ที่เดียว