มือปืน บุกเดี่ยวสังหารเสี่ยปั๊มน้ำมันดับอนาถคาปั๊มที่สระแก้ว ส่วนเมียบาดเจ็บสาหัส คนร้าย สวมหมวกปิดหน้า มาดักรอแต่เช้า สบโอกาสใช้ปืน .38 ยิงท้ายทอยทะลุใบหน้า จนล้มลงเสียชีวิต ขณะที่เมียยืนอยู่ใกล้ก็โดนยิงบาดเจ็บ ก่อนคนร้ายหลบหนีไป

“บิ๊กอวบ” เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง สั่งล่าคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ลูกสาวผู้ตายระบุพ่อไม่มีความขัดแย้งกับใคร เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ตร.ระดมตรวจกล้องวงจรปิดทั่วทุกจุด พร้อมตั้ง 2 ปม จากความแค้นธุรกิจและผลประโยชน์ส่วนตัว

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 30 ก.ย. ร.ต.อ. เทวิน สุรสูรย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว รับแจ้งเหตุยิงกันที่บริเวณปั๊มน้ำมันซอยโรงเลื่อย หลังโรงน้ำแข็งสระแก้ว จึงรายงานให้พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว พร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นปั๊มน้ำมัน ตั้งอยู่บนถนนเทศบาล 6 อ.เมืองสระแก้ว ภายในบริเวณปั๊มน้ำมัน พบศพชายทราบชื่อว่า นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างปั๊มหัวจ่ายน้ำมัน สภาพศพนอนคว่ำหน้า ถูกยิงด้วยปืนขนาด .38 เข้าที่ท้ายทอยทะลุใบหน้า เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ส่วนบริเวณใกล้เคียงกัน พบนางปาลิดา วรทัด อายุ 49 ปี ภรรยาของนายปรีชาถูกยิงที่บริเวณแขนและหลัง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ทราบว่าอาการปลอดภัยแล้ว

ต่อมาพล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก. ภ.จว.สระแก้ว เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อม จนท.พิสูจน์หลักฐานตำรวจ พร้อมเก็บหลักฐานปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ออโตเมติก ที่พบในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าในปั๊มไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ แต่ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางใกล้ที่เกิดเหตุทั้งหมด

พล.ต.ต.สุรจิต กล่าวต่อว่า ทราบว่าคนร้ายจำนวน 1 คนสวมชุดคลุมหัวและใบหน้าคล้ายชุดแขก คงจะมารอดักในช่วงเช้ามืด โดยตั้งใจจะมาลงมือสังหารแน่นอน ทั้งนี้ตั้งไว้ 2 ประเด็น สาเหตุเกิดจากความแค้นด้านธุรกิจและผลประโยชน์ส่วนตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ซึ่งก็สามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางได้พอสมควร

เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. บินด่วนมาที่สระแก้ว จากนั้นเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล ผบก.ศฝร.ภ.2 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.เมืองสระแก้ว พ.ต.ต.พูลทรัพย์ เสร็จสิ้น สว.งานพิสูจน์หลักฐาน จ.สระแก้ว เพื่อดูจุดที่คนร้ายเดินเข้ามาและยิงนายประชา พร้อมให้รักษาสภาพพื้นที่เก็บพยานหลักฐานโดยละเอียด โดยมอบให้รองผบก.ภ.จว.สระแก้วเป็นผู้ควบคุมคดีนี้และสั่งการให้ทุกหน่วยเร่งรัดการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วที่สุด พร้อมให้การคุ้มครองพยานเต็มกำลัง

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับผู้การและพนักงานสอบสวนแล้ว และมอบหมายให้ผู้การดูแลพยานและสืบหาพยานโดยเร็วที่สุดเพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ ส่วนประเด็นสังหารต้องหารือสรุปอีกครั้ง

จากนั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เดินทางไปเยี่ยม นางปาลิดา ภรรยาของผู้ตายที่นอนรักษาอยู่ที่ร.พ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ทราบว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

ด้าน น.ส.ปัทมาพร วรทัด อายุ 30 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุเพราะอาศัยอยู่ที่กทม. หลังทราบข่าวจากญาติจึงรีบเดินทางมาทันที ก่อนหน้าไม่มีเหตุการณ์อะไรต้องสงสัย ครอบครัวตนเป็นคนต่างถิ่นมาซื้อที่ดินและปั๊มน้ำมันต่อจากเจ้าของเดิมทำได้ 5 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ใด และพ่อกับแม่ไม่เคยเล่าให้ฟังว่าเคยมีปัญหากับใครซึ่งพ่อกับแม่ก็เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้านมาตลอด และคงปล่อยให้ทางจนท.ตร.ดำเนินการทั้งหมด

“ตอนนี้ยังไม่ได้ให้การอะไรกับตำรวจ ยังต้องดูแลแม่ก่อน และไม่ได้บอกกับแม่ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ให้รักษาตัวก่อน มั่นใจว่าตำรวจจะต้องจับกุมคนร้ายได้แน่นอน ส่วนสาเหตุไม่ทราบจริงๆ เพราะพ่อกับแม่ไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใคร เพื่อนบ้านรักใคร่ดี สอบถามใครดูก็ได้ ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก”

ด้าน พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ กล่าวว่า ตนกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้าย ขณะนี้ได้ตามเส้นทางคนร้ายด้วยกล้องวงจรปิดตามเส้นทางโดยรอบ ส่วนอาการของนางปาลิดา ถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 จำนวน 4 นัด ที่บริเวณแขน และแผ่นหลัง ถูกนำตัวส่งร.พ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ล่าสุดแพทย์นำตัวเข้าห้องผ่าตัด อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

จากการสอบถาม นางปาลิดา ให้การว่า ตอนเช้ามืดวันนี้ คนร้ายเข้ามาทำท่าจะเติมน้ำมัน พอสามีของเธอถามว่าทำไมต้องปิดหน้าปิดตา โดยใช้สวมหมวกคลุมหน้า คนร้ายก็ชักปืนออกมา ขณะที่ผู้ตายหันหลังเตรียมวิ่งหนี คนร้ายยิงที่ท้ายทอยและด้านหลัง ขณะที่นางปาลิดาซึ่งยืนอยู่หน้าโต๊ะบัญชีห่างออกไป ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนร้ายหันมาเห็นจึงชักปืนมายิงหลายนัดจนล้มลง จากนั้นคนร้ายวิ่งออกไป สักพักนางปาลิดาพยายามเดินไปเรียกเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตรให้พาส่งโรงพยาบาลและโทร.บอก 1669 เพื่อไปช่วยสามี

“คนร้ายตั้งใจจะฆ่าทั้งสองสามีภรรยาให้เสียชีวิต โดยสามีถูกยิงที่บริเวณท้ายทอย ทะลุเบ้าตา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วนภรรยาถูกตามไล่ยิงอีก 4 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส คาดว่าสาเหตุเกิดจากความแค้นด้านธุรกิจและผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากภายหลังเกิดเหตุสามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางบริเวณที่เกิดเหตุ 11 ตัว สามารถจับภาพผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจนถึง 9 ตัว ส่วนบุตรสาวที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ทราบปมขัดแย้งใดๆ บอกแต่ว่าพ่อแม่ไม่เคยมีปัญหากับใคร ตอนนี้แม่ก็ยังไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว พร้อมฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามคนร้ายมาให้ได้ ตอนนี้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันทั้งคนเจ็บและลูกสาวของผู้ตายแล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน