คาดเหยื่อ สึนามิ ถล่มอินโดนีเซียพุ่งทะลุเกินพันศพ หลังพบแล้ว 832 ศพที่เมืองปาลู บาดเจ็บอีกอื้อ ขณะที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบเมืองดองกาลา ที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้ ประธานา ธิบดี “โจโก วิโดโด” ผู้นำอิเหนาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. เอเอฟพีและบีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แผ่นดินไหว 7.5 แม็กนิจูดที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นผลให้คลื่นสึนามิสูง 1.5-3 เมตรซัดถล่มพื้นที่เกาะ สุลาเวสี ตอนกลางของประเทศ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.นั้นว่า ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นเป็น 832 รายแล้ว บาดเจ็บ 520 คน ผู้คนอพยพออกจากพื้นที่กว่า 17,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองปาลู ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติแจ้งว่า ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะยังไม่ได้สำรวจความเสียหายในเมืองดองกาลา ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากกว่าเมืองปาลู เนื่องจากถนนหนทางถูกตัดขาด ระบบไฟฟ้าขัดข้องและมีปัญหาการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ ทางการเบื้องต้นประเมินยอดผู้เสียชีวิตในสองเมืองรวมกันอาจถึงหลักพันศพ

หน่วยงานกาชาดสากลระบุว่า ประมาณการว่ามีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 1.6 ล้านคน เหตุการณ์นี้ถึงขั้นโศกนาฏกรรมแล้ว และอาจรุนแรงมากกว่านี้มาก โดยเฉพาะที่เมืองปาลู ซึ่งมีประชากร 335,000 คน ประชาชนดิ้นรนหาอาหารและน้ำ ทำให้เกิดเหตุฉกชิงทรัพย์ บางคนยอมเสี่ยงตายเข้าไปยังอาคารห้างสรรพสินค้าที่สุ่มเสี่ยงจะถล่มลงมาเพื่อหาเสบียงประทังชีวิต นอกจากนี้ประชาชนต่างหวาดกลัวอาฟเตอร์ช็อกว่าจะทำให้บ้านเสียหายและคร่าชีวิตเพิ่มมากขึ้น ต่างออกมานอนในศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือนอนในพื้นที่สนามเด็กเล่น

ด้านประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำประเทศอินโดนีเซีย มีสารแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและสั่งการให้ทางการอินโดนีเซียเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย ก่อนเดินทางลงพื้นที่เมืองปาลูและดองกาลาเพื่อตรวจสอบความเสียหายด้วยตัวเอง และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่

ส่วนนายยูซุฟ คัลลา รองประธานาธิบดีกล่าวว่า เมื่อประเมินจากหายนภัยในอดีต ยอดผู้เสียชีวิตจากหายนภัยครั้งนี้อาจขึ้นหลักพัน พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบว่าอย่าเพิ่งกลับเข้าบ้าน

รายงานระบุว่า ทางการอินโดนีเซียส่งเครื่องบินซี130 จำนวน 3 ลำจากเมืองมากัสซาร์ และมาลัง ไปเมืองปาลู เพื่อนำหน่วยทหารและทีมกู้ภัยลงพื้นที่ และจะใช้เครื่องบินนี้อพยพผู้บาดเจ็บ เด็ก และสตรีออกจากพื้นที่ รวมถึงขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงจอดที่สนามบินหลักของเมืองปาลู เปิดให้บริการอีกครั้งด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม แต่จำกัดสำหรับเที่ยวบินพาณิชย์ ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาตามซากปรักหักพังอย่างละเอียดเพื่อหาผู้รอดชีวิต เฉพาะในพื้นที่โรงแรมโรอา-โรอา เมืองปาลู เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้มือขุดหาผู้รอดชีวิต ช่วยได้ 24 คน

นายมูฮัมหมัด เซาจี หัวหน้าสำนักจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซียกล่าวว่า ทีมงานดึงหญิงสาวที่ยังมีชีวิตอยู่รายหนึ่งจากโรงแรมโรอา-โรอาในช่วงกลางคืน และยังได้ยินเสียงคนร้องขอให้ช่วยที่โรงแรมแห่งนี้อีก เจ้าหน้าที่ต้องการเครื่องจักรกลหนักสำหรับยกอย่างมากเพื่อเคลียร์ซาก แม้มีเจ้าหน้าที่ค้นหาแล้วแต่ยังไม่พอและไม่ควรพึ่งพาแรงคนอย่างเดียว รวมถึงถนนถูกตัดขาดและสะพานถล่มเป็นอุปสรรคกู้ภัย และยังมีความห่วงกังวลถึงประชาชนอีกหลายร้อยคนที่อยู่ระหว่างเตรียมงานเทศกาลคอนเสิร์ตที่ชายหาดขณะเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม

หน่วยงานจัดการภัยพิบัติเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงความเสียหายบริเวณท่าเรือใหญ่เมืองปาลู เรือลำใหญ่ถูกแรงคลื่นซัดขึ้นเกยฝั่ง รวมถึงท่าเรือและสะพานถูกซัดเสียหาย รวมถึงคลื่นทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ปลิวกระจายรอบๆ ศพเกลื่อนบนถนน ในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยคลื่นคนเจ็บ หลายคนต้องรักษากันกลางแจ้ง ผู้บาดเจ็บบางส่วนต้องรับการรักษาในเต็นท์ เพราะโรงพยาบาลเสียหาย ต้องการเต็นท์ ยา เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ผ้าใบกันน้ำ ผ้าห่ม และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ

ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ว่า สถานเอกอัครราชทูตประสานติดต่อคนไทย 32 คน ในเมืองปาลูอยู่เป็นระยะๆ ทราบว่าทุกคนปลอดภัย สำนักงานผู้ช่วยทูตทหารอินโดนีเซียได้ประสานกับฝ่ายทหารอินโดนีเซียเพื่อขอโดยสารเครื่องบินทหาร ซี130 เข้าไปในพื้นที่ และขออพยพคนไทยออกมา

สถานเอกอัครราชทูตมีหนังสือถึงทางการอินโดนีเซียขอให้อพยพคนไทย 32 คนออกมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ไม่ปลอดภัย โดยแจ้งรายชื่อคนไทย 32 คน เพื่อขออพยพออกมาโดยเครื่องบินทหาร ซี130

นายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูต ติดต่อประสานงานกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงท่องเที่ยวอินโดนีเซียเพื่อขอให้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยโดยเร่งด่วนด้วยแล้ว พร้อมแจ้งต่อไปยังรัฐมนตรีท่องเที่ยวอินโดนีเซียและทหารอากาศที่รับผิดชอบในพื้นที่ คาดว่านักศึกษาและคนไทยจะเดินทางออกจากเมืองปาลู โดยเครื่องบินทหาร ซี130 ช่วงบ่ายวันที่ 30 ก.ย. และอย่างช้าวันที่ 1 ต.ค. เนื่องจากท่าอาศยานจะปิดทำการเวลา 18.00 น. ตามเวลาเมืองมากัสซาร์

สถานเอกอัครราชทูตได้ประกาศขอให้นักศึกษาและคนไทยเดินทางไปรวมตัวที่ท่าอากาศยานมูเทียร่า ซิส อัล จูฟรี เมืองปาลู เพื่อรอขึ้นเครื่องบินทหารซี130 ขณะที่เอกอัครราชทูต เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต และผู้ช่วยทูตทหารประจำอินโดนีเซีย และกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองเดนปาซาร์ จะเดินทางถึงเมืองมากัสซาร์ ภายในวันที่ 30 ก.ย. เพื่อประสานงานกับบริษัทซีพี เพื่อดำเนินการช่วยเหลือและดูแลคนไทยที่อพยพออกมาต่อไป

ต่อมากระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า “ตามที่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ ที่เกาะสุลาเวสี อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2561 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อความสารแสดงความเสียใจ ถึงนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีข้อความสารแสดงความเสียใจถึงนางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย”

ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมแสดงความเสียใจกับการสูญเสียของประชาชนชาวอินโดนีเซีย จากเหตุการณ์ แผ่นดินไหว จนเกิดสึนามิในเมืองปาลู เกาะสุลาเวสี เมื่อ 28 ก.ย.

“พล.อ.ประวิตรสั่งการให้กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อม สนับสนุนและให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ โดยให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอให้ใช้ช่องทางการทูตทหาร และศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดตั้ง ที่กรมแพทย์ทหารบก ประสานเตรียมความพร้อมช่วยเหลือทางการแพทย์เร่งด่วน ตามแผนที่เคยฝึกร่วมกันควบคู่กันไป

วันเดียวกัน เอ็นเอชเค และเอเอฟพี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไต้ฝุ่นจ่ามีพัดถล่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นว่า พบผู้บาดเจ็บแล้วอย่างน้อย 60 คน ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดโอกินาวะ และคาโงะชิมะ เจ้าหน้าที่เตือนว่าฝนที่ตกหนักและลมรุนแรงอาจก่อเหตุดินถล่มและน้ำท่วม ขอให้ประชาชนเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ผลกระทบจากไต้ฝุ่นลูกนี้ยังทำให้บ้านหลายพันหลังไม่มีไฟฟ้าใช้ บริษัทรถไฟสายตะวันตกของประเทศระงับให้บริการชั่วคราวช่วงสถานีระหว่างเมือง ยาไนกับคุดะมัตซึในจังหวัดยามากุชิ เนินเขาพังลงมาทำให้ดินถล่มทับรางรถไฟ สายการบินยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 1,000 เที่ยวบิน เจ้าหน้าที่ขอให้ผู้โดยสารติดตามข่าวสารบนเว็บไซต์อย่างใกล้ชิด

สำหรับพายุไต้ฝุ่นจ่ามีที่มีกำลังลมสูงสุด 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีทิศทางเคลื่อนจากเกาะคิวชู เข้าแผ่นดินหลักของญี่ปุ่น ใกล้นครโอซากา เวลา 18.00 น. และส่งผลกระทบไปได้ทั่วเกาะญี่ปุ่น ซึ่งเผชิญสภาพอากาศรุนแรงติดต่อมาหลายเดือนแล้วในปีนี้ ทางการจึงมีคำสั่งอพยพประชาชน 2 แสนคนใน 10 จังหวัด รวมถึงนครโอซากาและเมืองมิยาซากิ เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 ก.ย. คำแนะนำให้อพยพดังกล่าว รวมแล้วครอบคลุมคำสั่งอพยพประชาชนแล้ว 3.7 ล้านคนใน 19 จังหวัด

ด้านสนามบินนานาชาติคันไซ สนามบินหลักแห่งหนึ่งในจังหวัดโอซากา แจ้งปิด 2 รันเวย์จนกระทั่งเวลา 24.00 น. ของวันจันทร์ที่ 1 ต.ค. เป็นการปิดรันเวย์อีกครั้ง ต่อจากเมื่อเดือนก.ย. ที่พายุฝนถล่มน้ำท่วมสนามบิน รวมถึงยกเลิกรถไฟชินคันเซ็นบางเที่ยวระหว่างกรุงโตเกียวและพื้นที่ตะวันตกของประเทศ คาดว่าจะระงับเที่ยวรถอีกหลายเส้นทาง

แม้ว่าไต้ฝุ่นจ่ามีไม่มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้ากรุงโตเกียว แต่กระแสลมรุนแรง และฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจบางส่วนต้องเตรียมพร้อมรับมือ เช่นเดียวกับการรถไฟฝั่งตะวันออกที่ปกติจะไม่ได้รับผลกระทบ ครั้งนี้สั่งยุติบริการรถไฟในเวลาสองทุ่มเหมือนกับที่กรุงโตเกียว

ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า กระแสลมแรงและกระแสน้ำอาจทำให้ดินถล่มและน้ำท่วมได้เช่นเดียวกับการเกิดฟ้าร้องฟ้าผ่า และพายุหมุนทั่วประเทศ เช่นที่เมือง โคจิ พายุพัดเอาหลังคาบ้านปลิวไปหลายหลัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน