ฟันทั้ง "ตุ๊กตุ๊ก-แกร็บ" แย่งผู้โดยสาร หลังคลิป ว่อนเน็ต "หัวร้อน" โดนเพิ่ม อีกข้อหา

ขนส่งเรียกสอบตุ๊กตุ๊กห้าว หลังคลิป แย่งผู้โดยสาร ว่อนโลกออนไลน์ปิดล้อมรถแกร็บด่าลั่น รับฝรั่งแล้วสั่งให้ลงจากรถ ส่งตำรวจดำเนินคดีอาญาและใช้ใบขับขี่ผิดประเภท พร้อมปรับ ผู้ครอบครองรถด้วย หนุ่มหัวร้อนรับทำลงไปเพราะอัดอั้น เพราะอีกฝ่ายทำผิดกฎหมายนำรถเรียกบริการมาแย่งรับผู้โดยสาร

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ นางพรรณี พุ่มพันธุ์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตัวแทนรถรับจ้างสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมประชุมหารือ เพื่อหาทางแก้ปัญหา และเน้นย้ำมาตรการกรณีที่มีคลิปวิดีโอ บันทึกภาพเหตุการณ์ กลุ่มคนขับรถรับจ้างสาธารณะ ปิดล้อมแกร็บคาร์และบังคับให้ผู้โดยสารลงจากรถที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชี่ยล และสังคมทั่วไป

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ขนส่งยังได้เชิญ นายรุ่งรุจ จินาเรือน อายุ 37 ปี คนขับรถตุ๊กตุ๊ก ที่ปรากฏในคลิป เข้าพบและว่ากล่าวตักเตือน พร้อมดำเนินการตามกฎหมายด้วย

นายรุ่งรุจ เปิดเผยว่า ยอมรับก่อเหตุจริง ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 1 ต.ค. เนื่องจากรู้สึกอัดอั้นมานานที่แกร็บคาร์เข้ามาให้บริการและแย่งผู้โดยสาร ที่ผ่านมาได้พยายามขอร้องด้วยดีมาตลอดแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเกิดเหตุในครั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจและขอโทษต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ ที่ทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เสียหาย แต่ที่ทำลงไป เป็นเพราะอยากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนขับรถรับจ้างสาธารณะที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา กรณีแกร็บคาร์อย่างเด็ดขาดเสียที เพราะที่ผ่านมา มีการร้องเรียนมาตลอด แต่ไม่เป็นผล และยังคงถูกแย่งทำมาหากินอยู่ตลอด

สำหรับคนขับแกร็บคาร์นั้น เจ้าหน้าที่ทราบชื่อคือ นายสินชัย ยอดตา อายุ 29 ปี ซึ่งวันเกิดเหตุได้ให้ใบขับขี่ไว้กับเจ้าหน้าที่แล้วขับรถออกไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาเพื่อถามรายละเอียด และดำเนินการตามกฎหมายฐานความผิดนำรถส่วนบุคคลมารับส่งผู้โดยสารสาธารณะ ขณะที่นายรุ่งรุจ คนขับรถตุ๊กตุ๊กอารมณ์ร้อนนั้น เคยก่อเหตุแซงรถกระบะและชูนิ้วกลางให้กับรถกระบะมาแล้วถูกเผยแพร่ในโซเชี่ยลและถูกเจ้าหน้าที่เรียกปรับ เมื่อปี 2559 ผ่านมา 2 ปี ก็มาก่อเหตุ ระเบิดอารมณ์ร้อนกับแกร็บคาร์อีก

ต่อมาได้มีกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก และรถสี่ล้อรับจ้างในเชียงใหม่ประมาณ 60 คนได้มาถือป้ายประท้วงหน้าบริเวณสำนักงานขนส่งอาเขตเชียงใหม่ โดยเรียกร้องไม่เอาแกร็บคาร์ และชูป้ายไวนิลข้อความว่าแกร็บคาร์ทำผิดกฎหมาย ห้าม รถยนต์ส่วนบุคคลรับจ้าง รับ ส่งผู้โดยสาร มีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท พบการกระทำผิดแจ้ง 1584 หลังจากยื่นถือป้าย ไวนิล ข้อความดังกล่าว ได้สักครู่ ประมาณ 10 นาที ก็พากันแยกย้าย โดยเจ้าหน้าที่ขนส่งเชียงใหม่ได้ออกมารับทราบข้อเรียกร้อง

นางพรรณี กล่าวว่า การดำเนินทางกฎหมาย แบ่งเป็น 2 ส่วน ผู้ขับแกร็บคาร์จะถูกดำเนินตามพ.ร.บ.ขนส่ง การใช้ผิดประเภทมีโทษปรับ 2 พันบาท พร้อมบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หากพบการกระทำความผิดต่อเนื่องซ้ำซาก ก็จะดำเนินการขั้นสูงสุดเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ส่วนคนที่เข้าไปรุมต่อว่าดังกล่าว ก็ได้ทำความเข้าใจชี้แจงถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะไม่มีอำนาจเข้าไปดำเนินการ ซึ่งจากนี้ได้พูดคุยทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าว หากพบว่ามีการทำผิดก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการ

พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นได้สอบสวนคนขับรถตุ๊กตุ๊กแล้วและให้สภ.แม่ปิง ดำเนินคดีทุกข้อหาทั้ง ก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะ พกพาอาวุธในที่สาธารณะ แต่งกายไม่สุภาพ ข่มขู่คุกคาม นำตัวไปตรวจหาสารเสพติด โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดก็พักใบอนุญาตขับขี่ด้วย ส่วนแกร็บคาร์ก็ถูกดำเนินการตามกฎหมายที่นำรถใช้ผิดประเภท พร้อมสั่งห้ามผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ขับขี่รถบริการสาธารณะ ห้ามทำพฤติกรรมข่มขู่คุกคามหรือกระทำการใดที่ไม่เหมาะสมโดยเด็ดขาด โดยให้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแทน รวมทั้งใช้ช่องทางแจ้งทางไลน์กลุ่มที่ตั้งขึ้นมาอีกทางด้วย

พ.ต.ต.ณัฐวิทย์ ใจชมชื่น สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.2 ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ กล่าวว่าเบื้องต้นได้ประสานต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้ง 2 คนซึ่งเป็นชาวอเมริกา ที่จะเข้ามาให้ปากคำเป็นพยาน พร้อมทำความเข้าใจหลังมีการโพสต์คลิปดังกล่าวไป ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งสองคนเข้าใจว่าเหตุดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นทุกพื้นที่ เป็นเพียงเหตุการณ์เฉพาะเท่านั้น ซึ่งทั้งสองเข้าใจและชื่นชอบประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนี้จะมีมาตรการเข้มงวดกวดขันของการให้บริการรถสาธารณะทำความเข้าใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติว่าการใช้แกร็บคาร์ในประเทศไทยมีความผิดตามกฎหมาย

ขณะเดียวกัน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รอง ผู้ว่าฯเชียงใหม่ กล่าวว่า จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาบูรณาการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุเกี่ยวข้องทั้งหมดจะได้ไม่เกิดซ้ำซากและแก้ที่ปลายเหตุอีก ทั้งเรื่องเรียกค่าบริการสูงเกินจริง การทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง การตั้งคิวรถเองตามจุดต่างๆ ในเมือง เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นต้น

รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งถึงแจ้งถึงกรณีปรากฏคลิปผ่านสื่อออนไลน์ เผยแพร่เหตุการณ์โต้เถียงกันระหว่างพนักงานขับรถสาธารณะกับคนขับรถแกร็บคาร์ โดยปรากฏภาพชายใส่เสื้อสีน้ำตาล ซึ่งคาดว่าจะเป็นพนักงานขับรถตุ๊กตุ๊ก เดินไปคว้าไม้ที่รถคล้ายจะมาทำร้ายคนขับรถแกร็บคาร์ ว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานข้อเท็จจริงว่า ภาพเหตุการณ์โต้เถียงกันระหว่างคนขับรถสาธารณะกับคนขับรถแกร็บคาร์ โดยมีคนขับรถตุ๊กตุ๊ก พูดจาท้าทาย และถือท่อนไม้หรือท่อนเหล็กในลักษณะจะทำร้ายคนขับรถแกร็บคาร์ ซึ่งขับรถมารับชาวต่างชาติ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. ณ ถนนหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 3

จากการตรวจสอบการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายรุ่งรุจ จินาเรือน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/26 หมู่ 3 ต.สันป่าเปา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับรถสามล้อรับจ้างหมายเลขทะเบียน สก 507 เชียงใหม่ ไม่ปรากฏข้อมูลว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ พบข้อมูลว่าเป็น ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลชั่วคราว เลขที่ 60000044 สิ้นอายุวันที่ 11/4/2562 โดยวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายรุ่งรุจ ไปยังสภ.แม่ปิง พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของเจ้าของรถคันหมายเลขทะเบียน สก 507 เชียงใหม่ ได้ตรวจพบว่านางวัลยา ดิษยนันทน์ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครองรถ จึงมีหนังสือแจ้งให้นางวัลยามาชี้แจงข้อเท็จจริงและชำระค่าปรับจำนวน 2,000 บาท ฐานฝ่าฝืนมาตรา 56 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 กล่าวคือ ยินยอมให้บุคคลซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะมาปฏิบัติหน้าที่ขับรถของตน โดยนางวัลยาได้มาชำระค่าปรับจำนวนเงิน 2,000 บาท แล้วเมื่อในวันเดียวกันนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ปรากฏตามคลิป ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน งธ 9631 เชียงใหม่ มีนายสมศักดิ์ เดชรุ่งพิทักษ์ เป็นผู้ครอบครองรถ ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของรถมาชี้แจงข้อเท็จจริงและชำระค่าปรับ 2,000 บาท ฐานใช้รถผิดประเภท ภายในวันที่ 9 ต.ค.นี้

ส่วนกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ KornKanya Rattanalertkittkorn ได้ร้องเรียนรถแท็กซี่สีชมพูหมายเลขทะเบียน ทล 8720 แสดงกิริยาไม่สุภาพทุบรถและด่าทอผู้ใช้ถนนร่วมด้วยถ้อยคำที่หยาบคายนั้น เบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกสอบถามไปยังสหกรณ์แท็กซี่ปทุมวัน ซึ่งเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ คันหมายเลขทะเบียน ทล 8720 กรุงเทพมหานคร แจ้งว่าคนขับรถชื่อ นายสมพงษ์ วงษ์กันยา จากการโทร.ติดต่อนายสมพงษ์แจ้งว่าขณะนี้ทาง สน.ดินแดง ได้เรียกตัวพร้อมคู่กรณีเพื่อมาให้ปากคำและจะเดินทางมากองตรวจการเพื่อรายงานตัวที่กรมการขนส่งทางบกในวันพฤหัสบดีที่ 4 ต.ค. เวลา 09.30 น.

ทั้งนี้ จากการพิจารณาเบื้องต้น นายสมพงษ์อาจจะมีความผิดตามมาตรา 57ฉ ข้อหาแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ โดยอาจจะถูกปรับ 1,000 บาท และส่งไปอบรมความรู้เรื่องขับขี่เป็นเวลา 3 ชั่วโมง