ศรีสุวรรณ ชี้สั่งวัดหยุดตีระฆัง เข้าข่าย “เหยียดหยามศาสนา” ลาม มท.ไม่เคร่งกฎหมาย!

จากกรณีที่สำนักงานเขตบางคอแหลม ได้มีหนังสือไปถึงวัดไทร เพื่อขอให้ลดเสียงของการตีระฆังลง เนื่องจากมีผู้พักอาศัยอยู่ในคอนโดฯ ข้างเคียงมาร้องเรียนว่าเสียงดังกล่าวรบกวนผู้พักอาศัย และขอให้วัดหยุดใช้เสียงในยามวิกาล จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไทยเป็นอย่างมากในขณะนี้นั้น

อ่าน ไม่กี่ชั่วโมง! มวลมหาประชาเน็ต แห่หนุนพระตีระฆังต่อ จะลงขันกันซื้อถวายวัดอีก!

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่ขัดต่อความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนคนไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากการตีระฆัง หรือตีกลองเพล กลองย่ำค่ำ เป็นกิจของสงฆ์ที่ทุกวัดยึดถือปฏิบัติกันมานับพันปีแล้ว ซึ่งปุถุชนชาวพุทธทั่วไปย่อมรู้และเคารพในจริยวัฒน์ที่พึงกระทำของวัดอันเป็นอัตลักษณ์ในทางพุทธศาสนา ซึ่งวัดไทรดังกล่าวก็มีอายุมากกว่า 300 ปี และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาโดยชอบด้วยกฎหมายมานานแล้ว ย่อมมีอำนาจในการประกอบสังฆกรรมได้ทุกประเภท

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การที่มีผู้อยู่อาศัยในคอนโดฯ ซึ่งเป็นชุมชนแปลกปลอมยุคใหม่ในสังคมเมืองรับสภาพปัญหาดังกล่าวไม่ได้ ถึงขนาดต้องไปร้องเรียนวัดและกดดันสำนักงานเขตจนต้องดราม่ามีการออกหนังสือเตือนนั้น อาจเข้าข่ายการ “เหยียดหยามศาสนา” ตามป.อาญา มาตรา 206 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

กฎหมายนี้มีเจตนารมณ์เพื่อปกป้องความรู้สึกของประชาชนในการนับถือศาสนา ซึ่งการพิจารณาความผิดตามมาตรานี้จึงต้องนำความรู้สึกของคนทั่วไปที่นับถือศาสนามาประกอบการพิจารณา หากคนทั่วไปเห็นว่าการกระทำนั้นเป็นการเหยียดหยามศาสนา ก็ต้องถือว่าเป็นการเหยียดหยามศาสนา แม้ผู้กระทำจะอ้างว่าตนไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามศาสนาแต่กระทำไปด้วยเจตนาอื่นก็ตาม

ดังนั้น หากผู้กระทำได้กระทำด้วยประการใดๆ อันคนทั่วไปเห็นว่าเป็นการเหยียดหยามศาสนา ซึ่งเป็นที่เคารพทางศาสนาของหมู่ชนใดและไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นศาสนาใด โดยผู้กระทำรู้อยู่ว่าวัตถุหรือสถานที่นั้นเป็นที่เคารพในทางศาสนาแต่ได้กระทำการดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนาก็ถือว่าเป็นความผิดตามมาตรานี้แล้ว ผู้กระทำจะอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามไม่ได้

นอกจากนั้น การที่กระทรวงมหาดไทยหรือ กทม.ไม่ยอมใช้อำนาจในการออกประกาศหรือออกกฎกระทรวงตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 กำหนดบริเวณห้ามการก่อสร้างอาคารสูงที่อยู่ใกล้วัดในรัศมีเกินกว่า 1,000 เมตรขึ้นไป และไม่กำหนดให้อาคารที่ปลูกใกล้วัดต้องมีวัสดุป้องกันเสียงในการก่อสร้างอาคารด้วย จึงกลายเป็นปัญหาจนเกิดความขัดแย้งขึ้นมาในปัจจุบันนั่นเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน