โครงการเงินสนับสนุนรัฐ พบ ทุจริต อื้อ!! เปิดช่องโหว่ แจ้งยอดเกินจริง ฮั้วผู้นำหมู่บ้าน

ทุจริต – วันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมประจำเดือนของที่ว่าการอำเภอปาย เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีนายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย ประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 10/2561 ประจำเดือนต.ค. 2561 ณ ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

โดยในที่ประชุม ได้มีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง เปิดเผยกลางที่ประชุมว่า ปัจจุบันมีการแจ้งยอดของเกษตรกรในพื้นที่ อ.ปาย เพื่อขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐ กรณีทำไร่ข้าวและนาข้าว ซึ่งทางรัฐจะสนับสนุนงบประมาณให้คนละไม่เกิน 12 ไร่ เป็นเงินไร่ละ 1,500 บาท แต่ปรากฏว่า มีราษฎรหลายหมู่บ้านที่ได้มีการแจ้งยอดที่ทำกินเกินกว่าความเป็นจริง และมีการสบคบกับผู้นำหมู่บ้านบางราย แจ้งยอดเท็จ และหวังเบิกเงินงบประมาณดังกล่าวเข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งถือเป็นการกระทำผิด และทุจริตต่อหน้าที่อย่างร้ายแรง

ทุจริตแหล่งข่าวผู้นำชุมชนในพื้นที่ อ.ปาย ระบุว่า มีเกษตรกรกว่าร้อยละ 80 แจ้งครอบครองที่ทำกินคนละ 12 ไร่ เพื่อขอเงินสนับสนุน ไร่ละ 1,500 บาท โดยเฉพาะชาวเขาเผ่าต่างๆ ทั้งที่มีพื้นที่ทำกิน ส่วนใหญ่มีไม่ถึง 12 ไร่ บางรายมีแค่ 2 ไร่ แต่เบิกเงินเกินไปเป็นจำนวนมาก มีส่วนน้อยที่เกรงกลัวข้อกฎหมายและมีจริยธรรม ที่รับแจ้งยอดตามข้อเท็จจริง

ก่อนหน้านั้นหน่วยอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ได้มีการเรียกประชุมผู้นำหมู่บ้าน เกษตรกร และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอปาย เพื่อชี้แจงว่า หากพื้นที่ทำกิน ที่อยู่ในเขตอุทยานและเขตป่าต่างๆ ขอให้ละเว้นการลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นการบุกรุกป่า หากมีการสอบสวนขึ้นมาจะมีความผิดทั้งสองฝ่าย สำหรับการลงทะเบียนเพื่อช่วยเหลือเก็บเกี่ยวพืชการเกษตร

ทุจริตโดยเฉพาะข้าวไร่ ก่อนหน้านั้นเมื่อปี พ.ศ.2560 ได้มีการลงทะเบียนตามความเป็นจริง คือเกษตรกรมีพื้นที่ปลูกข้าวไร่ จำนวน 3 ไร่ ก็จะแจ้งเพียง 3 ไร่ โดยทางผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำการจับพิกัดขอบเขตที่ทำกินของแต่ละครอบครัว ( พิกัดชุมชน ) แต่ในปีนี้ กลับพบว่า กลุ่มเกษตรกรที่เป็นชาวชนเผ่ากลุ่มหนึ่ง ได้พากันประสานกันและพากันมาลงทะเบียนเพื่อต้องการเงินที่มากกว่าความเป็นจริง โดยทุกรายจะแจ้งว่ามีที่ทำกินรวมทั้งหมด 12 ไร่ ซึ่งจะได้เงินชดเชยไร่ละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 18,000 บาทต่อราย

แหล่งข่าวในกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว ได้มีการร้องเรียนทางวาจาขึ้นไปยังกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายกรมการปกครอง และเบื้องต้นผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบในเร็วๆ นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน