ศาลพระพรหม ผช.ผอ.เขตปทุมวันโต้ละเลยตรวจสอบ แผงขายของไหว้ศาลพระพรหมเอราวัณ หลังแม่ค้าลอบขายดอกไม้-นก ในราคากว่า 6,000 บาท เผยแม่ค้าอาศัยตอนเผลอขายแพง ส่วนใหญ่เป็นหน้าเดิม พอโดนจับ-ปรับแล้วก็มาตั้งขายใหม่

ศาลพระพรหม / เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ถ.ราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาเครื่องไหว้ หลังจากเกิดกรณีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Alice Chiah โพสต์ว่า แม่ค้าขายพวงมาลัย และขายนกให้ในราคากว่า 6,600 บาท ไปเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา

นักท่องเที่ยวมาไหว้ศาลพระพรหม

ในวันนี้บรรยากาศที่ศาลพระพรหมยังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน เดินทางมากราบไหว้ พร้อมกับซื้อเครื่องไหว้ ดอกไม้ ธูป เทียน ที่จำหน่ายอยู่ภายในศาล อ่านข่าว ขายหน้าประเทศ!! แม่ค้าขายของไหว้ ศาลพระพรหม ให้นักท่องเที่ยว ในราคา ครึ่งหมื่น!!

แผงขายของไหว้ภายในศาล

นายจู หลี่ เจิน นักท่องเที่ยวจีน เปิดเผยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวประเทศไทย ตนเดินทางมากับครอบครัว จึงอยากมาไหว้พระพรหมเอราวัณ ที่แยกราชประสงค์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ส่วนประเด็นเรื่องการขายดอกไม้และเครื่องไหว้ศาลเกินราคา ตนก็ไม่เคยซื้อในราคาเท่าที่เป็นข่าว เพราะซื้อที่ศูนย์จำหน่ายที่ขายอยู่ภายใน โดยซื้อเครื่องไหว้ในราคา 50 บาท เท่านั้น

ด้าน นักท่องเที่ยวไทยรายหนึ่ง เปิดเผยว่า วันนี้มาไหว้พระพรหมกับครอบครัว ก่อนหน้านี้ก็ทราบว่ามีแผงเครื่องไหว้ที่ตั้งอยู่ริมกำแพงขายเกิน โดยจะไม่ติดป้ายราคาไว้ แต่จะขายตามใจตัวเอง หากเจอนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติก็จะโก่งราคาสูงตามที่เป็นข่าวกัน

ป้ายประกาศห้ามเสนอขายของ

หลังจากนั้นมาตนเลยตัดปัญหา โดยเตรียมดอกไม้ธูปเทียนมาจากบ้านเอง เพราะกลัวได้ราคาแพง และเป็นดอกไม้ไหว้ที่เก็บมาเวียนขายอีกครั้ง ส่วนตัวเห็นว่าการขายเครื่องไหว้เกินราคานั้น เป็นการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และยังทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหาย จนอาจจะไม่อยากกลับมาเที่ยวอีก

นายโสภัณฑ์ วงศ์ดวงคำพู ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตปทุมวัน

พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างชื่อดังแห่งหนึ่ง ใกล้พื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ปกติบริเวณทางเท้ารอบๆ ศาลพระพรหมจะมีแผงขายเครื่องไหว้ แต่พอเจ้าหน้าที่เอาจริงก็หายไปพักหนึ่ง แต่ไม่นานก็จะกลับมาตั้งแผงขายต่อ

นายโสภัณฑ์ วงศ์ดวงคำพู ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่า เดิมทีในเขตปทุมวันมีจุดผ่อนผันในการนำแผงมาตั้งขายกว่า 20 จุด และยกเลิกไป ปัจจุบันเหลืออยู่ 4 จุด โดยข้างพระพรหมหน้าโรงแรมเอราวัณ ก็เคยเป็นจุดผ่อนผันที่ผู้ค้าจะขายดอกไม้ของไหว้

ต่อมายกเลิกห้ามขายสินค้า ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.2557 เป็นต้นมา แต่ก็ยังมีผู้ค้าฝ่าฝืนลอบนำดอกไม้มาวางขายในลักษณะขายในตะกร้า ฉวยโอกาสตอนเจ้าหน้าที่พักเข้าแถว เรียกรวมกำลังพล หรือมีภารกิจต้องไปปฏิบัติที่อื่น เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่กลับมาพวกเขาก็ยกตะกร้าวิ่งหนี แต่ก็มีบางส่วนที่ขายในพื้นที่ของโรงแรมเอราวัณ ซึ่งทางเราไม่สามารถเข้าไปจับกุมเขาได้

นายโสภัณฑ์กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ค้าที่ขายของไหว้แพงเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ทางเราดำเนินคดีหลายครั้งแล้ว ไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด

ส่วนใหญ่ผู้ค้าที่ถูกจับกุมก็เป็นรายเดิมที่เคยถูกจับแล้ว เพราะในกฎหมายถ้าผู้กระทำความผิดมาชำระค่าปรับแล้ว ให้คืนของกลางของเขาไปทั้งหมด เราไม่มีสิทธิ์ไปยึด ทำให้พวกผู้ค้าเหล่านี้สามารถนำของไหว้กลับมาแอบวางขายต่อได้

ในส่วนของการขายนกก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไป เนื่องจากจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยนกพวกนี้จะมีลักษณะเชื่อง เมื่อปล่อยออกไป นกก็จะบินกลับมาหาเจ้าของคนขายอีก เขาก็เอาใส่กรงและนำมาขายวนใหม่ซ้ำๆ

“ตั้งแต่ปี 2557 มีเจ้าหน้าที่เฝ้าพื้นที่อยู่ตลอดทุกวัน ปัจจุบันเราทำงานร่วมกับกลุ่มราชประสงค์ ให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รปภ.มาช่วยกันดูแล เนื่องจากตอนนี้ยังขาดเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ส่วนนี้อยู่ประมาณ 9 คน หลังจากนี้จะเสนอในที่ประชุมกับกลุ่มราชประสงค์ ให้ทำป้ายประชาสัมพันธ์ เป็นภาษาไทย อังกฤษ และจีน มาติดโดยรอบ เพื่อขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวและประชาชน ไม่ให้ซื้อสินค้าที่เร่ขายให้พื้นที่ เนื่องจากการขายให้ลักษณะแบบนี้ผิดกฎหมาย เพราะหากไปซื้อสินค้าจากกลุ่มพวกนี้ เท่ากับว่าไปสนับสนุนให้เขาทำผิดกฎหมาย” ผู้ช่วยผอ.เขตปทุมวัน กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน