หมอธีปรี๊ด แค่ทำทัณฑ์บน รุ่นพี่ ม.2 ยังไม่พอ สั่งสอบสวน ไม่ปล่อยไว้แน่นอน

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยกรณีโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปกลุ่มนักเรียนรุมแกล้งกัน 2 คลิป โดยเด็กที่ถูกแกล้ง อยู่ในลักษณะถูกรุ่นพี่ทั้งหญิงและชายรุมดึงผม พูดแซวและข่มขู่ โดยในคลิป เด็กถูกรุ่นพี่เพศหญิงถักเปียให้แต่ดึงกระชากจนเด็กเซไปเซมาแทบทรงตัวไม่อยู่

กระทั่งสุดท้ายก็ถูกกระตุกจนล้มหงายหลัง เด็กร้องไห้ รุ่นพี่เข้ามารุมข่มขู่อย่างสนุกสนานพร้อมปิดปากเด็กเพื่อกั้นเสียงสะอื้น อีกทั้งเด็กถูกรุ่นพี่ใช้เท้าถีบจนหงายหลังและรุ่นพี่ยังใช้เท้าลูบหน้าด้วย จนเด็กน้อยร่ำไห้

โดยล่าสุดนายนันทพล ฟูสีกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดง ต.ดงสุวรรณ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ได้สั่งทำทัณฑ์บนรุ่นพี่กลุ่มดังกล่าวแล้วนั้น ว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ตรวจสอบและหาคำตอบมาให้ได้ ล่าสุดได้รับรายงานว่ากำลังอยู่ระหว่างประชุมร่วมกับผู้ปกครองนักเรียน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

“ส่วนตัวยังไม่เห็นคลิป แต่มีคนมารายงานผมรุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้อง ทุเรศมากน่าจะมีการสอบสวนแต่ผู้อำนวยการโรงเรียนลงโทษทำทัณฑ์บนเท่านั้น ผมจึงสั่งการให้นายบุญรักษ์ ตรวจสอบทันที ส่วนที่ถามว่าการทำทัณฑ์บนน้อยไปหรือไม่ เนื่องจากยังไม่เห็นคลิปถ้ามีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นก็แย่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นเด็กออทิสติกด้วยยิ่งแย่ไปใหญ่ ดังนั้น สิ่งที่ตัดสินใจเบื้องต้นจากที่ได้ฟังเรื่องมาก็คือ ต้องไปหารายละเอียดมาเพราะแค่ลงโทษทำทัณฑ์บนอาจจะไม่เพียงพอ” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในห้องเรียนของโรงเรียน ถือว่าโรงเรียนและครูปล่อยปละละเลยหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้อย่าเพิ่งไปหาว่าใครละเลย เพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นต้องไปดูว่าใครรับผิดชอบ ปล่อยเกิดขึ้นได้อย่างไร ความรับผิดชอบก็เป็นไปตามเหตุตามผล อย่าเพิ่งไปเหมาว่าโรงเรียนหรือครูละเลยหรือไม่ ยกตัวอย่างสองอาทิตย์ที่ผ่านมามีทหารติดตามตนไปทำร้ายพนักงานจ้างเหมาบริการแบบนี้จะถือว่าตนละเลยหรือไม่ แต่ความจริงก็คือต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งกรณีนี้ก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อนเช่นกัน ซึ่งตนไม่ปล่อยเรื่องนี้ไว้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีมาตรการป้องกันดูแลไม่เห็นเกิดเหตุการณ์เหล่านี้หรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ ศธ.มาตรการ และระเบียบดูแลเด็กพิเศษอยู่แล้ว ไม่ใช่เวลาต้องทำมาตรการป้องกันขึ้นมาใหม่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องวัวหายแล้วล้อมคอก แต่ปัญหาคือทำตามมาตรการที่มีอยู่หรือไม่ ประเทศต้องมีกฎระเบียบมาตรการกำกับดูแลอยู่แล้ว ถ้าไม่มีจะจัดการศึกษาได้อย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน