ส่งรุ่นพี่รุมทึ้ง เด็ก ป.4 ฟื้นฟูจิตใจ หลังถูกโซเชียลถล่มยับ เผยรู้เท่าไม่ถึงการณ์!

จากกรณีเกิดเหตุรุ่นพี่ชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา จำนวน 8 คน รุมกระชากผมนักเรียนหญิง ชั้น ป.4 ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก จนร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว โดยผู้ปกครองเด็ก ป.4 ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และได้แจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ดอกคำใต้ แล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ต.ค. พ.ต.อ.สมภพ สุภาพร ผกก.สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ผู้ปกครองของนักเรียนหญิง ชั้น ป.4 ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ดอกคำใต้ เพื่อเป็นหลักฐานในการดูพฤติกรรมของเด็กทั้ง 8 คน หากยังมีพฤติกรรมกระทำซ้ำอีก จะสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้

พ.ต.อ.สมภพ กล่าวต่อว่า เมื่อสอบถามผู้ปกครองเด็กที่ทำร้ายรุ่นน้องบอกว่า เด็กทำลงไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความคึกคะนอง แต่มีการสำนึกผิดแล้วและเข้ากราบขอโทษผู้ปกครองเด็กที่ถูกทำร้ายไปแล้วครั้งหนึ่ง ล่าสุดทั้งสองฝ่ายจะเข้าเจรจาเรื่องการเยียวยาอีกรอบ แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องจำนวนเงินในการเยียวยาได้ สำหรับเด็กทั้ง 8 คน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำไปพักฟื้นสภาพจิตใจ หลังถูกสังคมออนไลน์รุมประณามอย่างหนัก

ด้านนายประถม เชื้อหมอ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 เปิดเผยความคืบหน้าว่า ตนมีหนังสือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากทุกคนที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยจะเริ่มดำเนินการสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. เป็นต้นไป ส่วนเรื่องการเจรจาหาทางออกระหว่างผู้ปกครองที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ช่วงเย็นวันนี้(11 ต.ค.) ทางสำนักงานฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพ ได้เชิญผู้ปกครองของผู้เสียหายและผู้ที่กระทำทั้งหมดไปหารือกันที่ สภ.ดอกคำใต้ โดยเบื้องต้นได้มีการลงทำบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ผอ.สพป.1 พะเยา กล่าวต่อว่า ในเนื้อหาบันทึกประจำวันดังกล่าว ประกอบด้วย 1.การทำบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความจริงและผู้ที่เกี่ยวข้อง 2.นับจากนี้ไปหากเกิดผลกระทบใดเกิดขึ้นกับผู้เสียหายที่สืบเนื่องจากเหตุความรุนแรงดังกล่าว ทางผู้กระทำจะต้องรับผิดชอบ 3.กรณีที่ผู้ปกครองผู้เสียหายไม่ยินยอมและต้องการแจ้งความในขั้นตอนต่อไปนั้น จะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง โดยรอผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากทางโรงพยาบาล และการหารือจากญาติก่อน และ 4.เรื่องค่าทำขวัญ หรือค่าสินไหมทดแทน ทางผู้ปกครองของผู้เสียหายยังไม่ตัดสินใจ ขอเวลาปรึกษากับญาติก่อนที่จะตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน