สุดเลือดเย็น! พันศักดิ์ นักอุ้มฆ่า สารภาพสิ้น ทำไมต้องยิงเจ้าของปั๊ม

พันศักดิ์ สารภาพยิงเสี่ยปั๊มสระแก้ว เผยรับงานจากเสี่ยท้ง และยังต้องการตอบแทนบุญคุณที่เคยดูแลกันมา โดยทำแค่คนเดียว ภรรยาไม่เกี่ยว ส่วนปมขัดแย้งเกิดจากปั๊มน้ำมันที่เสี่ยท้งขายให้นายประชา เพราะกิจการไม่ดี แต่ต่อมากิจการดีขึ้นจึงอยากขอซื้อคืน แต่นายประชาไม่ยอม จนกลายเป็นเหตุสั่งตาย ระทึกอีกห้องพักใน รีสอร์ตปลวกแดง ที่พันศักดิ์กบดานก่อนถูกตร.จับ แม่บ้านพบระเบิดเอ็ม 67 ซุกอยู่ 2 ลูก คาดเจ้าตัวซ่อนไว้ก่อนถูกตร.บุกจับ

จากกรณีคนร้ายบุกยิงนายประชา วรทัด เสี่ยเจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง ซอยโรงเลื่อย ถนนเทศบาล 6 อ.เมือง จ.สระแก้ว เสียชีวิต และนางปาลิดา วรทัด ภรรยา บาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ก.ย. จากนั้นเจ้าหน้าที่ออกหมายจับนายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อายุ 62 ปี อดีตตำรวจยศพ.ต.ท.ที่พัวพันคดีอุ้มฆ่าหลายคดี พร้อมนางธนพร สุขโขจัย อายุ 50 ปี ภรรยาใหม่ ก่อนที่จะจับตัวได้ภายใน รีสอร์ตที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายพันศักดิ์ และนางธนพร เดินทางจากกองปราบปรามกลับมาดำเนินคดีที่สภ.เมืองสระแก้ว โดยมีตร.คุ้มกันอย่างแน่นหนา เมื่อมาถึง พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และพ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ออกมารับตัวก่อนพาขึ้นไปชั้นบนของ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อสอบสวนทันที โดยนายพันศักดิ์มีสีหน้านิ่งเฉยไม่แสดงอาการอะไรออกมาและปิดปากเงียบไม่ยอมพูดอะไร ส่วนนางธนพร ภรรยานายพันศักดิ์ มีสีหน้าเคร่งเครียดและวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่สภ.เมืองสระแก้ว นางปาลิดา วรทัด ภรรยานายประชา วรทัด ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมด้วยน.ส.ปัทมาภรณ์ วรทัด บุตรสาว และญาติ เดินทางมาให้ เจ้าหน้าที่สอบปากคำเพิ่มเติม โดยน.ส.ปัทมา ภรณ์กล่าวว่า ดีใจที่จับคนร้ายได้ 12 วันที่ผ่านมากับการรอคอยหลังจากพ่อถูกยิง วันนี้มาให้ปากคำเพิ่ม โดยในคืนที่เกิดเหตุ แม่ฝันไปว่าจะมีคนมาปล้นปั๊ม จึงตื่นขึ้นตอนเที่ยงคืน แต่ก็ไม่ได้ลงมา รู้สึกใจคอไม่ดี จากนั้นตอนตี 4 จึงตื่นและพาออกมาเปิดปั๊ม ซึ่งเร็วกว่าปกติ แต่เกิดความกลัวจึงกำพระผงของครูบาบุญชุ่มติดมือไว้ ส่วนที่ข้อมือก็มีลูกประคำของครูบาบุญชุ่มเช่นกัน จึงเชื่อได้ว่ารอดมาได้เพราะบารมีครูบาบุญชุ่มด้วย

น.ส.ปัทมาภรณ์กล่าวว่า สำหรับเรื่องความขัดแย้ง เคยมีปัญหาเรื่องที่ดินปั๊มน้ำมันดังกล่าวที่ซื้อต่อมาจาก นายดำรงฤทธิ์ กิตติ วราภรณ์ หรือ เสี่ยท้ง ที่ประกาศขายเพราะกิจการไม่ดี โดยไปกู้ธนาคารมาซื้ออย่าง ถูกต้อง แต่ต่อมาเสี่ยท้งต้องการจะซื้อปั๊มคืน เพราะกิจการดีขึ้น แต่นายประชาผู้ตายไม่ยอมขายให้ จึงมีการทะเลาะกันมาตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ผ่านมาก็ไม่เคยระแวงว่าจะกล้าทำแบบนี้เพราะรู้จักกันมานานแล้ว และเขาก็พิการ ส่วนในเรื่องชู้สาวนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน เพราะนายประชาและนางปาลิดาอยู่ด้วยกันมาตลอด 30 ปี ก็ไม่เคยมีเรื่องดังกล่าว ส่วนนายท้งเอง ก็พิการมากว่า 30 ปีแล้ว

น.ส.ปัทมาภรณ์กล่าวต่ออีกว่า ดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนาย พันศักดิ์ได้ ซึ่งทางตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็ว ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยติดตามคดีของพ่อ โดยในวันนี้ได้พาแม่มามอบดอกไม้ขอบคุณให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภาค 2 เดินทางมาที่สภ.เมืองสระแก้ว พร้อมเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องหาได้ตามหมายทั้ง 3 หมาย ประกอบด้วย นายพันศักดิ์ นางธนพร และ นายนิคม หรือ ป๊อด มนต์ศิริ ซึ่งตอนนี้นำตัวฝากขังที่เรือนจำสระแก้วแล้ว ส่วนนายพันศักดิ์ขณะนี้อยู่กระบวนการสอบสวน โดยให้การเป็นประโยชน์บ้าง แม้จะบอกความจริงไม่ครบทั้งหมดก็ตาม อีกทั้งเขาก็เป็นตำรวจเก่า แต่ทางตำรวจก็มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พยานบุคคล พยานแวดล้อม ซึ่งสามารถนำมาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ ส่วนปมขัดแย้งก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องธุรกิจที่ดิน ไม่ใช่ชู้สาว

“จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ถ้าโยงไปถึงใครก็จะขออนุมัติออกหมายจับ ส่วนเสี่ยท้งที่เกี่ยวข้องกับการจ้างวานก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว จากการจมน้ำ ซึ่งให้พนักงานสอบสวนของเราไปตรวจสอบด้วย ก็ต้องรอผลตำรวจอำนาจเจริญสรุปก่อน ส่วนของมือยิงนั้น ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยเฉพาะอาวุธปืน .380 ออโตเมติก เราก็ได้จากตัวพันศักดิ์เอง ซึ่งเราก็จะส่งไปพิสูจน์อีกครั้งว่าใช่อาวุธปืนที่กระทำผิดหรือไม่ ผบ.ตร. สั่งการให้ตรวจสอบอาวุธปืนกระบอกนี้อย่างเร่งด่วน ในส่วนที่เขาแจ้งว่ามีอีก 2 คนที่เป็นคนลงมือนั้น ก็แล้วแต่เขาที่จะให้ปากคำ แต่เรามีวิธีของเราอยู่แล้วว่าเขาพูดจริงหรือเท็จ” พล.ต.ท.จิตติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กจ-4966 สระแก้ว จดทะเบียนใน ชื่อของ นางพิมพ์พิลา ลมผักแว่น จาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มาตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 1 คัน หลังพบว่าเกี่ยวข้องกับนาย พันศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากนางพิมพ์พิลา ใช้โทรศัพท์ติดต่อกับนาย พันศักดิ์เป็นประจำ และทราบว่าเป็นรถที่พานายพันศักดิ์หลบหนีโดยนำมาหาหลักฐานพิสูจน์ลายมือต่างๆ ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนนายพันศักดิ์ รับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ลงมือยิงนายประชาด้วยตัวเอง เนื่องจากต้องการทดแทนบุญคุณเสี่ยท้ง ที่คอยดูแลกันมาตลอดตั้งแต่สมัยรับราชการที่จ.ปราจีนบุรี และได้รับค่าจ้างหลักแสน โดยภรรยาเป็นแค่ผู้ร่วมหลบหนี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ

อย่างไรก็ตามนายพันศักดิ์ไม่ยินยอมไปทำแผน โดยขอทำแผนชี้ที่เกิดเหตุในภาพต่างๆ ที่จนท.ตร.ถ่ายมาในที่เกิดเหตุทั้งหมด ให้นายพันศักดิ์ชี้เป็นการรับสารภาพพร้อมด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการสอบสวนนางปาลิดา ให้การไว้อย่างชัดเจนว่าสามารถจดจำใบหน้าของคนร้ายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากก่อนลงมือก่อเหตุ นายพันศักดิ์ขับรถเก๋งเข้ามาเติมน้ำมันที่ปั๊มของผู้ตาย โดยทำทีพูดคุยกับนางปาลิดาด้วย หลังเติมน้ำมันเสร็จนายพันธ์ศักดิ์ก็ขับรถออกจากปั๊มไป แต่หลังจากออกไปได้ไม่นานก็ย้อนกลับเข้ามาลงมือก่อเหตุทันที

ทั้งนี้สำหรับกรณีที่นางปาลิดาสามารถจดจำใบหน้าของนายพันศักดิ์ได้ดี เพราะว่าเคยรู้จักกับนายพันศักดิ์มาก่อน เนื่องจากก่อนหน้านางปาลิดาทำหน้าที่เป็นพยาบาลส่วนตัวให้กับนายดำรงฤทธิ์ หรือ เสี่ยท้ง ซึ่งเป็น ผู้บงการฆ่า เพราะนายพันศักดิ์เคยมาหาเสี่ยท้ง บ่อยครั้ง โดยปมขัดแย้งที่ทำให้กลายเป็นชนวนสังหารเนื่องจากสมัยที่นางปาลิดายังทำหน้าที่เป็นพยาบาลให้กับเสี่ยท้ง ซึ่งระหว่างนั้นได้ทำหน้าที่คอยดูแลเป็นอย่างดี จนเสี่ยท้งให้ความสนิทสนมและไว้วางใจ จนถึงขั้นยกปั๊มน้ำมันดังกล่าวให้ดูแล

จากนั้นนางปาลิดาหันไปให้เวลากับครอบครัว ขาดการเอาใจใส่ ไม่คอยดูแลเหมือนก่อน ทำให้เสี่ยท้งเกิดความไม่พอใจ ถึงขั้นกับเอ่ยปากว่าจะขอปั๊มน้ำมันและที่ดินคืน แต่ทางนายปรีชา และนางปาลิดาไม่ยอมคืนให้ สุดท้ายทำให้เสี่ยท้งเกิดความแค้น ก็เลยติดต่อนายพันศักดิ์มาวางแผนและรับงานลงมือสังหารคนทั้งสอง ส่วนตัวเสี่ยท้งเองหลังจากสั่งการ และมือปืนไปก่อเหตุแล้ว ก็รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ทำลงไป จึงวางแผนไปฆ่าตัวตาย โดยขอให้ลูกน้องที่สระแก้วพาไปส่งที่บ้านของลูกน้องคนสนิทที่อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ โดยในวันที่เสี่ยท้งฆ่าตัวตาย ก็วางแผนให้คนดูแลช่วยเข็นรถนั่งของตนเองมาจอดไว้ริมน้ำ จากนั้นก็ใช้ให้คนดูแลออกไปหาซื้อข้าว ส่วนตัวเสี่ยท้งก็เข็นรถตกลงไปในน้ำจนทำให้เสียชีวิตในที่สุด

ที่อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พ.ต.ต.ทศพล เปรมกมล สวป. สภ.ปลวกแดง ระยอง รับแจ้งว่าพบลูกระเบิดไม่ทราบชนิด ถูกซุกซ่อนอยู่ในท่อน้ำทิ้งภายในห้องน้ำของห้องพัก ครัวริมอ่างรีสอร์ต ต.ละหาร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

จึงเดินทางตรวจสอบพบห้องที่พบระเบิดเป็นห้องพักของนายพันศักดิ์และภรรยา ที่เข้าพักเมื่อวันที่ 10-12 ต.ค. ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุม ก็สั่งปิดห้องพักไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่คืนห้องพักให้ แม่บ้านจึงเข้าไปทำความสะอาด แล้วก็พบระเบิดซ่อนอยู่ในท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำ ตรวจสอบพบเป็นระเบิดสังหาร แบบ 88 หรือ เอ็ม 67 สภาพที่ใหม่พร้อมใช้งาน แต่ยังไม่ได้ถอดสลักออก วางทับระเบิดเอ็ม 67 อีกลูก ที่แกะสลักออกแล้วโดยใช้เทปกาวพันไว้ คาดว่าเป็นของนาย พันศักดิ์ มาซุกไว้ก่อนถูกจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลา 30 นาทีในการเก็บกู้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน