พสกนิกรทั่วประเทศมากกว่า 26 ล้านคน ร่วมกิจกรรมถวาย “ในหลวง ร.9” ขณะที่สำนักพระราชวังสรุปประชาชนเข้ากราบพระบรมศพในพระบรมมหาราชวัง 67 วัน 2.9 ล้านคน ยอดถวายเงิน 3.6 ล้านบาท เด็กหญิงสระแก้ววัย 11 ขวบ เชิญพระบรมสาทิสลักษณ์วาดเองเข้ากราบพระบรมศพ เจ้าหน้าที่ร.พ.ชุมพรพาลูกๆ ร่วมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานความช่วยเหลือเมื่อครั้งประสบภัยพิบัติพายุเกย์ปี 2540 อาจารย์ช่างยนต์เทคนิคสุราษฎร์ฯ เผยทรงเป็นองค์ต้นแบบนักประดิษฐ์ นักวิจัย คณะครูร.ร.วังไพรวิทยาคมจากสระแก้วนำนักเรียนเข้ากราบพระบรมศพด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานเงินจากกองทุนการศึกษา นับเป็นโครงการพระราชดำริโครงการสุดท้าย สองนักเรียนยากไร้ปีติได้รับพระราชทานบ้านหลังใหม่และทุนการศึกษาจนจบปริญญาตรี

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันที่ 86 การนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชา นุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาห กิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และถวายเป็นพระราชกุศล เป็นวันที่ 32

เวลา 07.04 น. สมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวด พระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมโกศพระบรมศพ ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร จากนั้นทรงประเคนภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดอนงคารามวรวิหาร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 6 ม.ค. การนี้ คุณพลอยไพลิน เจนเซน ร่วมในการพระราชพิธีด้วย โดยมีกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 เขตสุขภาพที่ 10 เขตสุขภาพที่ 11 เขตสุขภาพที่ 12 เป็นเจ้าภาพร่วมบำเพ็ญกุศลพระบรมศพ

เวลา 10.30 น. นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สถาบันยานยนต์ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเป็นเจ้าภาพ

เวลา 15.10 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ มายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร 8 รูป สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ การนี้มีข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาเป็นเจ้าภาพร่วมในการบำเพ็ญกุศลด้วย

สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมชุดไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อยมาต่อคิวเข้าแถวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้ามืด โดยเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีตั้งแต่เวลา 04.50 น.

ด.ญ.ณภัทรกมล ช่างต่อ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพวงคราม ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า เดินทางมากับแม่ซึ่งเป็นครูพร้อมเพื่อนๆ แม่รวม 11 คน เมื่อทราบว่าแม่จะพามากราบสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนจึงเริ่มวาดภาพในหลวง เพื่อบรรยายถึงความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ และโครงการในพระราชดำริที่พระองค์ทรงจัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชน

“ในภาพบรรยายถึงความรู้สึกที่อยากขอบพระคุณในหลวง ร.9 ที่อยู่เคียงข้างและคอยช่วยเหลือประชาชน ความรักที่มีต่อพระองค์รักโดยไม่มีข้อแม้ รักที่พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถที่ทรงมีโครงการต่างๆ มาช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน และขอขอบพระคุณที่พระองค์รักและห่วงใยประชาชนตลอดมา หนูอยากเฝ้าฯ รับเสด็จในหลวง ร.9 แต่ไม่มีโอกาส เพราะพ่อและแม่งานยุ่งไม่มีเวลาพามาเฝ้าฯ รับเสด็จ รู้สึกเสียดาย และร้องไห้เสียใจมากเมื่อทราบว่าพระองค์เสด็จสวรรคต รู้สึกช็อกไม่คิดว่าจะถึงวันนี้เร็ว เพราะพระองค์เคยรับสั่งไว้ว่าจะอยู่จนอายุครบ 120 ปี” ด.ญ.ณภัทรกมลกล่าว

ด.ญ.ณภัทรกมลกล่าวด้วยว่า หนูจะนำคำสอนเรื่องความพอเพียงมาปฏิบัติ โดยที่บ้านปลูกผักกินเอง ทำความดี มีจิตอาสา ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น เก็บขยะรอบโรงเรียน ทำบุญข้าวสารอาหารแห้งถวายแด่พระสงฆ์ที่ท่านส่งไปให้ทหารในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหนูจะขยันเรียนเพื่อเป็นสถาปนิก ถ้ามีรายได้ส่วนหนึ่งก็แบ่งให้พ่อแม่ ส่วนหนึ่งก็เพื่อตนเอง และอีกส่วนหนึ่งนำไปช่วยเหลือคนยากจน

นางทัน ช่อมะลิ อายุ 77 ปี เกษตรกรจาก จ.สุรินทร์ เดินทางมาพร้อมลูกสาวและญาติ เปิดเผยหลังเข้ากราบสักการะพระบรมศพว่า ตื้นตันใจมากๆ ที่ได้มากราบสักการะใกล้ๆ เราคนไทยต้องมาให้ได้ ขนาดคนไทยที่อยู่ต่างประเทศหรือคนต่างชาติที่เคารพรักพระองค์ท่านก็ยังมาเลย เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงทำในการช่วยเหลือคนมาตลอดพระชนม์ชีพแซ่ซ้องไปไกลทั่วโลก ส่วนตัวน้อมนำปรัชญาที่ในหลวง ร.9 ทรงชี้แนะให้คนไทยมาใช้ โดยปลูกข้าว ปลูกผักและผลไม้ต่างๆ ไว้กินไว้ใช้ในครัวเรือน ข้าวเปลือกพระราชทานที่ได้รับจะนำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป

ด้านนางศศิธร เงินถาวร พนักงานประจำโรงพยาบาลชุมพร อายุ 43 ปี ซึ่งเดินทางเข้ากราบสักการะพระบรมศพพร้อมสามีและลูกชายสองคน เล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนที่ทราบข่าวว่า ในหลวง ร.9 สวรรคตรู้สึกเสียใจและใจหายเช่นเดียวกับพสกนิกรชาวไทยทุกคน ตั้งใจว่าจะพาลูกๆ มากราบพระบรมศพสักครั้งหนึ่งในชีวิต อยากให้ลูกๆ ซึมซับว่าพวกเขาเกิดในแผ่นดินกษัตริย์รัชกาลที่ 9 ที่ทรงห่วงใยดูแลพสกนิกรอย่างล้นเหลือ ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเองเป็นคน จ.ชุมพร ที่เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเกิดภัยพิบัติพายุเกย์ ปี 2540 ในหลวง ร.9 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระ บรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมและช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนั้นที่โรงพยาบาลชุมพร ซึ่งตัวเองมีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จด้วย หลังจากนั้นทำให้มีโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดำริ จังหวัดชุมพร (โครงการแก้มลิง) ซึ่งสามารถช่วยให้น้ำไม่ท่วม นอก จากนี้ยังกักเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้งได้มาจนถึงวันนี้

ขณะเดียวกันลูกชายคนเล็ก ด.ช.กฤติธี เงินถาวร อายุ 10 ขวบ เล่าว่า คุณพ่อคุณแม่ชอบพาไปเที่ยวโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 หลายครั้ง อาทิ โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดำริ จังหวัดชุมพร และโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ทำให้รู้ว่าทรงทำงานเหนื่อยเพื่อช่วยเหลือประชาชนหลายอย่าง วันนี้แม้จะต้องตื่นแต่ดึกทำให้ง่วงนอนมากแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะได้นอนหนุนตักพ่อสบายดี อีกทั้งตอนที่ได้ขึ้นไปกราบสักการะหน้าพระบรมศพยิ่งรู้สึกตื้นตันใจและมีความสุข

นายธวัชไชย ลิ้มสุวรรณ อายุ 55 ปี อาจารย์จากแผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี เดินทางจาก จ.สุราษฎร์ ธานี พร้อมด้วยภรรยา นางเนาวรัตน์ ลิ้มสุวรรณ และลูกสาว 2 คนซึ่งอาศัยอยู่ย่านพระราม 9 เข้ากราบสักการะพระบรมศพ เผยว่า ตนเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของ รศ.ดร.สุธี อักษรกิตติ์ ผู้สนองพระราชดำริในโครงการระบบสื่อสารสายอากาศและอิเล็กทรอนิกส์ ในหลวง ร.9 ทรงเป็นต้นแบบของนักประดิษฐ์ นักวิจัย สิ่งที่พระองค์ทรงประดิษฐ์ส่วนมากเป็นสิ่งที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่มีประโยชน์มาก อย่างเช่นกังหันชัยพัฒนา ที่ไม่ได้มีแนวคิดซับซ้อนแต่เป็นเรื่องที่ไม่มีใครนึกถึง ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองทั้งในเรื่องการทำงานและการสอนลูกศิษย์ให้เป็นนักคิด นักพัฒนา

ด้านนางสุกัญญา คล้ายแก้ว อายุ 65 ปี ชาวดาวคะนอง เขตจอมทอง กทม. อดีตพนักงานการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ในหลวง ร.9 ทรงมีโครงการในพระราชดำริช่วยเหลือประชาชนเยอะมาก ในย่านดาวคะนองก่อนนี้น้ำจะท่วมประจำ แต่หลังจากมีโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ช่วยให้น้ำไม่ท่วม รวมถึงการสร้างสะพานภูมิพลข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แก้ปัญหารถติดในย่านนั้นได้มาก โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนาช่วยบำบัดน้ำเน่าเสีย รวมถึงโครงการหลวงต่างๆ วันนี้เราไม่มีในหลวง ร.9 แล้ว อยากให้คนไทยสามัคคีกัน ช่วยเหลือกันแบบนี้ มีน้ำใจให้อภัยกัน เพราะพระองค์ท่านคงอยากเห็น ไม่เช่นนั้นประเทศก็เดินต่อไปไม่ได้

นางวรรณวนา พิทักษ์สงคราม อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนวังไพรวิทยาคม ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ที่เดินทางมาพร้อมคณะครูและนักเรียน จำนวน 39 คน เผยว่าเสียใจมากที่พระองค์จากไป ทรงมีเมตตาต่อคณะครู นักเรียน และโรงเรียนอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนชายขอบ อยู่ห่างไกล แต่พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ก็ยังมาถึง เมื่อปี 2555 โรงเรียนได้รับเลือกเป็น 1 ใน 20 โรงเรียนรุ่นแรกที่ได้รับเงินทุนพระราชทานจากกองทุนการศึกษา ถือเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโครงการสุดท้ายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ช่วยให้โรงเรียนเกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งการปรับปรุงและสร้างบ้านพักครู การติดตั้งคอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ รวมทั้งการให้ทุนแก่นักเรียนที่ยากไร้จนเรียนจบปริญญาตรี

น.ส.อนงค์ประภา เย็นเป็นสุข นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนวังไพรวิทยาคม นักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์จากในหลวง ร.9 กล่าวว่า บ้านมีฐานะยากจนและลำบาก เมื่อตอน ม.4 คุณครูแนะนำให้เขียนเรียงความถึงพระองค์ท่าน ซึ่งได้รับพระมหากรุณา ธิคุณจากพระองค์ให้เป็นนักเรียนในพระ บรมราชานุเคราะห์รับทุนการศึกษาจนจบชั้นปริญญาตรี จนตอนนี้กำลังจะเรียนจบชั้นม.6 แล้ว และสามารถเข้าเรียนต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ด้านน.ส.มณเฑียร โพธิ์พุ่ม นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนวังไพรวิทยาคม นักเรียนทุนพระราชทานจากกองทุนการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กล่าวว่า ฐานะที่บ้านลำบากมาก เนื่องจากแม่พิการ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ บางวันต้องหยุดเรียนเพื่อมาดูแลแม่ และรับจ้างหาเงินโดยการเก็บพริก ค่าแรง 200-300 บาทต่อวัน ตอน ม.2 ได้รับพระราชทานบ้านหลังใหม่จากพระองค์ท่าน จากนั้นยังได้รับความช่วยเหลือจากเงินกองทุนการศึกษา จะตั้งใจเรียนและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ

ที่เต็นท์อาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ เยื้องกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ภายในศูนย์อาหารบริการประชาชน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชนตลอดทั้งวัน

ที่รถหน่วยเคลื่อนที่ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณข้างกำแพงมหาวิทยาลัยศิลปากร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โปรดให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ปรุงเมนูข้าวเหนียวไก่ทอดแจกจ่ายพสกนิกรเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ โดยวันเดียวกันนี้มีไก่จำนวน 1,300 กิโลกรัม ข้าวเหนียว 500 กิโลกรัม โดยมีอาสาสมัครจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในพระอุปถัมภ์ฯ เจ้าหน้าที่จากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และจิตอาสากาชาด สภากาชาดไทย มาร่วมปรุงและแจกจ่ายประชาชน นอกจากนี้ยังร่วมกับศิษยานุศิษย์จากวัดป่าประชาเจริญธรรม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม วัดป่าห้วยบัวใหญ่ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และวัดป่าหนองแหวน อ.นาหว้า จ.นครพนม ปรุงอาหารประกอบด้วย ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้มทรงเครื่อง ข้าวกล่องกะเพราไก่ไข่ดาว ข้าวเหนียวหมู เค้กกล้วย ไข่ต้ม และเครปญี่ปุ่น แจกประชาชนด้วย

สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางเข้าสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. หลังปิดการเข้าสักการะในเวลา 21.30 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 47,710 คน รวม 67 วันมี 2,911,599 คน ยอดถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล 3,630,957.25 บาท รวม 67 วันเป็นเงินทั้งสิ้น 236,807,000.50 บาท

วันเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยสรุปผลการจัดกิจกรรมลงนามแสดงความอาลัยและการจัดกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในส่วนของต่างจังหวัดว่า มีประชาชนลงนามแสดงความอาลัย ณ วันที่ 6 ม.ค. จำนวนทั้งสิ้น 10,573 ราย มียอดสะสมการลงนามแสดงความอาลัยตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.59 เป็นต้นมา จำนวนทั้งสิ้น 10,043,050 ราย ขณะที่กิจกรรมสวดอภิธรรม วันที่ 6 ม.ค. มีผู้เข้าร่วม 4,734 คน ยอดสะสมมีจำนวนทั้งสิ้น 15,232,656 คน, การทำบุญตักบาตร มีผู้เข้าร่วม 819 คน ยอดสะสมมีจำนวนทั้งสิ้น 4,256,518 คน, กิจกรรมอื่นๆ จำนวน 2,615 คน ยอดสะสมมีจำนวนทั้งสิ้น 7,159,359 คน รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมถวายในหลวง ร.9 ทั่วประเทศกว่า 26 ล้านคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน