โกงสอบนครบาลบาน ตร.สั่งรื้อใหม่-ทั่วปท.

โกงสอบนายสิบบาน บช.ศ.สั่งทุกกองบัญชาการรื้อผลสอบทั้งหมด ตรวจกระดาษคำตอบและกระดาษทด หวั่นมีกรณีทุจริตเหมือนที่บช.น. หากพบพร้อม เสนอผบ.ตร.เพิกถอนผลสอบทันที บช.น. ตรวจสอบต่อ หากพบรุ่นก่อนหน้านี้มีพฤติกรรมทุจริต ก็จะให้ออกจากราชการ ขณะที่เตรียมเอาผิดน.ศ.แพทย์ที่มายิงข้อสอบ พร้อมเสนอให้สภาวิชาชีพพิจารณาว่าขัดจริยธรรมหรือไม่ ด้านผู้เข้าสอบวอน ตร.ให้ความเป็นธรรม หลังทุ่มเทเงินทอง อ่านหนังสือจนสอบได้ ขอให้จัดการเฉพาะกลุ่ม อย่าเหมารวม

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่บช.น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีโกงการสอบคัดเลือกนายสิบตำรวจสังกัดบช.น.ว่า เบื้องต้นสั่งการให้ทางศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (ศฝร.บช.น.) โดยพ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บช.น. รวบรวมพยานหลักฐานภายใน 1-2 วันนี้เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องที่ สน.หัวหมาก จากนั้นให้ทางพนักงานสอบสวนเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มในการแจ้งข้อกล่าวหา และตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ที่แอบอ้างเป็นตำรวจว่าจ้างมือปืน พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้อง หากมีหลักฐานถึงใคร แล้วแจ้งความดำเนินคดี จนขออนุมัติศาลออกหมายจับ จึงสามารถยืนยันได้

เมื่อถามว่าเสนอพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพิกถอนผลสอบแล้วหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเพิ่งประชุมเสร็จเมื่อวาน อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลทั้งหมด คาดว่าจะเสนอได้ภายใน วันที่ 9 ม.ค.

ที่กองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) พล.ต.ต. จักรกฤษศณ์ สิงห์ศิลารักษ์ รอง ผบช.ศ. ฐานะกองบัญชาการที่อำนวยการดูแลด้านการสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า บช.ศ.ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ถึง 12 กองบัญชาการทั่วประเทศ ได้แก่ บช.ภ.1-9 บช.ศชต. บช.ตชด. และบช.น. ที่มีการจัดสอบ โดยให้บช.น.ชี้เเจงข้อมูลให้ทราบ และสั่งการให้ทุกหน่วยการสอบตรวจสอบย้อนกลับไปเปิดลังข้อสอบ ดูกระดาษคำถามและกระดาษคำตอบ ว่ามีการกระทำผิดลักษณะเดียวกันหรือไม่ โดยให้ชี้แจงผลให้ทราบภายใน 2 วัน เพื่อเสนอต่อผบ.ตร.ว่าต้องยกเลิกการสอบทั้งหมด หรือยกเลิกเป็นบางส่วน ในวันที่ 9 ม.ค.

พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บช.น. กล่าวว่า ตนจะเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สน.พหลโยธิน ในวันที่ 7 ม.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. โดยเป็นการแจ้งความเอาผิดกลุ่มผู้ที่ทุจริตการสอบซึ่งกรอกข้อมูลการสมัครสอบอันเป็นเท็จลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้สถานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาฯ ในการนัดแนะเพื่อจะโกงข้อสอบ และแจ้งความที่ สน.หัวหมาก ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุในการโกงสอบ

เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้สอบได้เรียกร้องให้เยียวยา พ.ต.อ.อุเทนกล่าวว่า ต้องเข้าใจว่ากระบวนการคัดเลือกยังไม่เสร็จสิ้น การคัดเลือกนักเรียนนายสิบตำรวจมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน ครั้งแรกคือการสอบข้อเขียน คนที่สอบข้อเขียนได้คะแนนสูงสุดไม่ได้หมายความว่าจะได้เป็นตำรวจ เพราะว่าการสอบครั้งนี้ไม่ใช่การสอบแข่งขัน แต่เป็นการสอบคัดเลือก เมื่อสอบข้อเขียนเสร็จแล้วให้คัดไว้ แล้วเอาผู้ที่คัดเลือกไว้มาวิ่ง ว่ายน้ำ จากนั้นก็เอาไปตรวจโรค และเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์ สุดท้ายคือการตรวจสอบคุณสมบัติทั่วไป ซึ่งบางคนอาจมีประวัติต้องหาคดีอาญา ซึ่งตอนนี้ได้รับรายงานจากคณะกรรมการสอบข้อเขียนเท่านั้นว่าเลือกใครมา 1,800 คน และได้รับรายงานจากกรมการสอบพละว่าคัดเลือกแล้วเหลือจำนวนเท่าใด ตอนนี้ยังรอผลจากคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์

“ตามประกาศรับสมัครเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 59 ระบุไว้ชัดเจนว่าหากระหว่างการคัดเลือกตรวจพบว่าขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งมีเหตุสงสัยว่ามีการทุจริต คณะกรรมการขอสงวนสิทธิ์ที่จะยกเลิกทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ซึ่งหากใครต้องการคัดค้านประกาศดังกล่าวต้องทำภายใน 15 วัน หลังประกาศ เมื่อไม่มีใครโต้แย้งและเข้ามาสู่กระบวนสอบคัดเลือกมา แต่เมื่อพบว่ามีการทุจริตเราก็ใช้สิทธิ์ที่สงวนไว้ที่จะยกเลิกขั้นตอนที่ส่อไปในทางทุจริตทั้งหมดที่ดำเนินการมา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเปิดรับสมัครใหม่ ซึ่งแนวทางต่อไปอาจจะกำหนดให้ผู้ที่ผ่านคัดเลือกข้อเขียนทั้งหมดมาสอบใหม่อีกรอบหนึ่ง นอกจากนี้ภายหลังจากการประชุมร่วมกับบช.ศ. และภาคอื่นๆ แล้ว ทางบช.ศ.ได้สั่งการให้ทางบช.น.สรุปแผนประทุษกรรมการกระทำผิดในการกระทำความผิดต่อไป” พ.ต.อ.อุเทนกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางกองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) ประสานทางศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศฝร.บช.น.) ให้ตรวจสอบเพิ่มเติม ถึงการสอบที่ผ่านมาว่ามีผู้สมัครที่สอบได้แล้วด้วยวิธีการทุจริตดังกล่าวเป็นตำรวจหรือไม่ หากมีจะให้ออกจากการรับราชการทันที รวมถึงตรวจสอบข้อมูลกลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดของกลุ่มมือปืนนักศึกษาทั้ง 34 คน ว่าก่อนหน้านี้เคยมีการลงสนามมาสมัครสอบแล้วมีการกระทำ ความผิดลักษณะดังกล่าวด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ยังหารือกันด้วยว่ากรณี ดังกล่าวเป็นเรื่องการละเมิดจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ด้วยหรือไม่ อย่างกรณีนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ที่ทำงานไปแล้วเคยมาลงสนามเพื่อร่วมขบวนการโกงการคัดเลือกสมัครสอบตำรวจ เนื่องจากเป็นนักศึกษาที่เป็นเด็กเรียนเก่งอยู่ในสถานศึกษาชั้นนำของประเทศแล้ว กรณีที่มีการมารับจ้างก่อเหตุดังกล่าวสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษาหรือสภาวิชาชีพทางการแพทย์ที่อาจมีการกระทำความผิดควรตรวจสอบด้วยหรือไม่ เนื่องจากถือว่าเป็นการกระทำความผิดที่มีโทษทางอาญา

ด้านนายชยพล ขำทองทับ ผู้เข้าสอบ เปิดเผยว่า อยากให้ บชน.ให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่สอบผ่านด้วยความสุจริต เพราะตนมุ่งมานะมีความพยายามให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ แต่ต้องกลับมาเจอเรื่องแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกตน แต่เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่มีธุรกิจซึ่งควรดำเนินการลงโทษคนกลุ่มนั้น ไม่ใช่เหมารวมผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด ทุกคนที่สอบเสียค่าใช้จ่าย 3-5 หมื่นบาท อาทิ 1.ค่าสมัครสอบ 2.ค่าพิมพ์มือตรวจประวัติ 3.ค่าตรวจโรคของโรงพยาบาลตำรวจ 4.ค่าที่พักตอนไปสอบที่ศาลายา 3 วัน 5.ค่าที่พักในกรุงเทพฯ ประมาณ 7 วัน 6.ค่าเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปส่งเอกสารให้โรงพัก 7.บางคนได้ลาออกจากงาน 8.บางคนสอบได้เป็นปีสุดท้าย ปีหน้าอายุจะเกิน 9.บางคนเสียเงินทองไปทำเลสิกมาเพื่อให้ผ่านการตรวจสายตา เสียเงินจำนวนมาก 10.บางคนเป็นลูกชาวนาชาวสวนชาวไร่ ต้องไปขอกู้เงิน หยิบยืมเงินคนอื่นมาให้ลูกตัวเองมาสอบ จึงขอความเป็นธรรมด้วย