ตร.ไล่เช็กวงจรปิดล่าคนร้ายคล้ายผู้หญิงสวมหมวกกันน็อก สาดน้ำพริก ใส่สาวขับเบนซ์ หลังขี่จยย.มาจอดแล้วเคาะกระจกเรียกเหยื่อขณะจอดรถติดไฟแดงย่านจตุจักร เมื่อสบโอกาสหยิบถุงบรรจุพริกป่นผสมน้ำสาดใส่ใบหน้า จนแสบตา หลังเกิดเหตุโทร.หาญาติพาส่งร.พ. พบกระจกตาอักเสบ ตอนนี้อาการปลอดภัย ยันตนเองไม่เคยมีศัตรู

จากกรณีมีผู้โพสต์เตือนในเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์คนร้ายสาดพริกผสมน้ำใส่รถที่น้าสาวของตัวเองขับอยู่จนได้รับบาดเจ็บ โดยระบุว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้าของตัวเองซึ่งกำลังขับรถกลับบ้านคนเดียว ระหว่างทางรถติดไฟแดงอยู่ที่แยกจตุจักร มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับมาจอดข้างๆ แล้วเคาะกระจกเพื่อถามทาง น้าของเธอจึงลดกระจกลงเพื่อบอกทาง แต่เพียงไม่กี่วินาทีคนร้ายสาดน้ำผสมพริกป่นซึ่งมีพริกเยอะมากเข้าใส่ใบหน้าของน้าสาวทันที

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 พ.ย. ร.ต.อ.สุทัศน์ แก้วสมศรี รองสว.สส.สน.บางซื่อ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยกรณี นางวาสนา เวสารัชเวศย์ อายุ 48 ปี เจ้าของรถเบนซ์สีขาว เลขทะเบียน 5 กฮ 6804 กรุงเทพฯ ที่ถูกคนร้ายใช้น้ำพริกสาดหน้า เหตุเกิดบริเวณแยกศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ขณะจอดรอสัญญาณไฟจราจรเพื่อเลี้ยวขึ้นทางด่วน เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 20.00 น. วันที่ 2 พ.ย.

โดยคนร้ายลักษณะคล้ายผู้หญิงสวมหมวกกันน็อกมาเคาะที่กระจกทำทีเหมือนจะสอบถามเส้นทาง ก่อนใช้น้ำพริกสาดใส่หน้า โดยได้แจ้งผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อจะสเกตช์รูปคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว พร้อมประสานฝ่ายสืบสวนเพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง และหาพยานแวดล้อมในจุดที่เกิดเหตุที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อให้ข้อมูลกับทางตำรวจแล้ว

ต่อมาเวลา 16.30 น. นางวาสนา เวสารัชเวศย์ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ ร.ต.อ.สุทัศน์ หลังจากให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว นางวาสนา เปิดเผยว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนนัดให้ตนมาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อสเกตช์รูปพรรณของผู้ก่อเหตุ โดยขั้นตอนอยู่ระหว่างการสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวคนร้าย ส่วนอาการบาดเจ็บตอนนี้ดีขึ้นเกือบเป็นปกติแล้ว แต่ยังมีอาการเคืองตานิดหน่อย

ส่วนความเสียหายของรถประมาณ 1 หมื่นบาท เนื่องจากต้องนำเข้าอู่เพื่อซักล้างภายใน และซ่อมกระจกเนื่องจากระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน ยอมรับว่าทุกวันนี้ยังกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่จึงไม่กล้าไปไหนเพียงลำพัง ต่อไปนี้หากมีเหตุลักษณะดังกล่าวหรือใกล้เคียงกันเกิดขึ้นอีกก็จะไม่ยอมเปิดกระจกหรือลงจากรถอย่างเด็ดขาด ส่วนตัวคิดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากคนร้ายมีการเตรียมการนำพริกผสมน้ำบรรจุมาอย่างดี

ทั้งนี้ นางวาสนาเดินทางเข้าแจ้งความกับร.ต.อ.สุทัศน์ แก้วสมศรี รองสว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 พ.ย. นางวาสนา เล่าเหตุการณ์ว่า วันที่ 1 พ.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่ตนกำลังขับรถเพื่อกลับบ้านพักย่านหัวลำโพงหลังจากไปทำธุระส่วนตัว โดยขับมาตามเส้นทางถนนกำแพงเพชร ผ่านแยกสะพานดำ มาที่แยกศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จากนั้นรอสัญญาณไฟเพื่อจะเลี้ยวขวาขึ้นทางด่วนไปลงที่หัวลำโพง

ขณะนั้นมีหญิงสาวขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้ามาเคาะกระจกฝั่งคนขับ ตนก็ไม่ได้สงสัยพฤติกรรมเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงจึงลดกระจกลง จากนั้นหญิงคนดังกล่าวถามตนว่าเส้นทางนี้ไปไหน ทันใดนั้นก็หยิบถุงออกมาแล้วสาดสิ่งหนึ่งเข้าที่ใบหน้าของตนจำนวนมากโดยมีลักษณะเป็นผง จากการตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นพริกป่น แล้วขับหนีไป ด้วยความตกใจประกอบกับมีอาการแสบตา ตนจึงเร่งเครื่องยนต์เลี้ยวเข้าทางด่วนเพื่อไม่ให้คนร้ายตามมาทำร้ายอีก

จากนั้น จึงโทรศัพท์ไปหาหลานสาวเพื่อให้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลหัวเฉียว เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นสารเคมีที่เป็นอันตราย เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่ากระจกตาอักเสบ แพทย์ให้ยาหยอดตาแล้วกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน จากนั้นนำใบรับรองแพทย์เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อไว้เป็นหลักฐาน ขอยืนยันว่าไม่เคยมีศัตรูที่ไหน และไม่ได้ขับรถปาดหน้าใคร เพราะขับรถด้วยความระมัดระวังมาตลอด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนพานางวาสนาไปชี้จุดเกิดเหตุ และสอบสวนพยานแวดล้อม แต่เนื่องจากในรถยนต์ผู้เสียหายและที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด จึงต้องตรวจสอบกล้องที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน