เปิดใจ! ผู้ป่วยเอดส์ นอนหน้า วัดพระบาทน้ำพุ “ขอร้องให้เขามาทิ้งเอง”

จากกรณี เพจ วัดพระบาทน้ำพุ ได้เผยแพร่ภาพ ผู้ป่วยเอดส์ รายหนึ่ง ถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณหน้าวัด พร้อมที่นอน และเสื้อผ้า เป็นภาพสะเทือนใจต่อผู้พบเห็นอย่างมาก

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 พ.ย. วัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี “ข่าวสดออนไลน์” ได้มาพบเพื่อสอบถามรายละเอียดกับผู้ป่วยชายรายนี้ ที่ห้องพักเดี่ยวโซน 4 ภายในอาคารห้องแถวชั้นเดียว เพื่อแยกผู้ป่วยติดเชื้อที่เป็นวัณโรคออก ระหว่างที่เดินผ่านเพื่อจะไปห้องของผู้ป่วยที่เป็นข่าว ก็ได้พบกับผู้ป่วยที่อยู่ห้องติดกัน ทั้งชายและหญิง ออกมานั่งพูดคุย กันอยู่หน้าระเบียง

นายตี๋ อายุ 51 ปี ชายที่อยู่ภาพตามที่เป็นข่าว นอนอยู่บนเตียงพยาบาล เปิดเผยว่า ตนเป็นคน จ.กาญจนบุรี ติดเชื้อเอชไอวี เมื่อตอนที่ติดคุก ปี 2553 และใช้เข็มสักเดียวกับคนที่เป็นโรค จากนั้นก็ใช้ชีวิตตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน พ่อแม่เสียหมดแล้ว

อ่าน : วัดพระบาทน้ำพุ เผยภาพสุดเวทนา ผู้ป่วยเอดส์ ถูกทิ้งข้างกำแพงวัด นอนรอความเมตตา

หลังจากที่ตรวจพบว่าติดเชื้อก็เริ่มไปรับยาจากโรงพยาบาลมากิน บางครั้งต้องฉีดยาฆ่าเชื้อ ร่างกายก็อ่อนแอ กินข้าวกินปลาไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามรักษาต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ไปรับยาตลอด เพราะ บ้านอยู่ห่างจากโรงพยาบาลประมาณ 30 – 40 กิโลเมตร ที่ผ่านมาอาศัยเพื่อนบ้านคอยดูแล เรื่องอาหารการกิน หรือสิ่งของใช้จำเป็นต่างๆ

นายตี๋ เปิดเผยถึงเหตุที่มีคนนำมาทิ้งที่หน้าวัดว่า ความจริงแล้วไม่ใช่การถูกทิ้ง แต่เป็นเพราะ ตนขอร้องให้เพื่อนบ้านนำมาทิ้งเอง คือ ไม่อยากอยู่เป็นภาระให้พวกเขา ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมนำไปส่งที่วัดโดยตรง ก็เพราะว่ากลัวทางวัดจะไม่รับไปดูแล

“ความจริงแล้วเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง จึงคิดว่าอยากจะใช้ชีวิตบั้นปลายในวัดนี้ และเชื่อว่าทางวัดจะดูแลผมได้เป็นอย่างดี” นายตี๋กล่าว

ด้าน นายธนชัย ไม้ประดิษฐ์ อายุ 71 ปี หัวหน้าโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ 1 ผู้ดูแลวัดพระบาทน้ำพุ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยรายนี้ความจริงแล้วถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือ ถูกทิ้งจริงๆ เพราะเมื่อวานทางญาติเพิ่งนำเอกสารมาส่งให้กับทางวัด ส่วนที่นายตี๋ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแบบนั้นก็ต้องยอมรับว่า ผู้ป่วยเอดส์ส่วนใหญ่จะมีอาการเบลอๆ หรือไม่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ได้ตามปกติ เพราะจิตใจของคนเหล่านี้ต้องพบกับแรงกดดันจากสังคม โดยเฉพาะการถูกรังเกียจจากคนในครอบครัว

สาเหตุส่วนใหญ่ของการติดเชื้อก็มักจะมาจากการมีเพศสัมพันธ์ กรณีของนายตี๋ก็เช่นเดียวกัน การดูแลรักษาผู้ป่วยเอดส์นั้น เป็นเพียงการรักษาปลายเหตุ แต่เราควรจะป้องกันที่ต้นเหตุมากกว่า ฉะนั้นการให้ความรู้ในเรื่องของการป้องกันโรคติดต่อนี้ ก็ควรจะถูกสอนให้เข้าใจในช่วงวัยต่างๆ เมื่อเราปฏิเสธที่จะไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ได้ เราก็ต้องหาทางป้องกันในส่วนนี้แทน

ขณะนี้ทางวัดมีผู้ป่วยประมาณ 153 ราย เป็นชาย 101 ราย และหญิง 43 ราย เรื่องยาที่ใช้รักษาทั้งหมด ส่วนนี้ต้องขอบคุณทางรัฐบาลในทุกๆ สมัยที่ยังคงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งอาหาร และของใช้ ก็มีผู้บริบาคมาตลอด ก็ถือว่ายังพออยู่ได้

“ทั้งนี้หากมีผู้ใดไม่สามารถดูแลผู้ป่วยติดเชื้อเองได้ ก็อยากจะขอร้องให้นำมาส่งให้กับทางวัดโดยตรง พร้อมนำเอกสารประจำตัว และประวัติการรักษามาด้วย เพื่อที่จะรับช่วงดูแลต่อได้”

นายธนชัย เปิดเผยอีกว่า ท่านเจ้าคุณอลงกต เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ก็ยังมีจิตใจเมตตาผู้ป่วยเหล่านี้อยู่เสมอ ท่านยินดีที่จะยอมรับหากคนอื่นไม่ต้องการ ส่วนเรื่องการขอรับเงิน หรือของบริจาคนั้น สามารถนำมามอบไว้ให้โดยตรง เพราะ ไม่มีเลขบัญชีรองรับการโอนเงิน ซึ่งก็รู้สึกว่าคนไทยเป็นคนจิตใจดี และมีเมตตาเป็นต่อเพื่อนมนุษย์มาก เพราะตลอดมาตั้งแต่เปิดศูนย์รักษาผู้ป่วย ก็มีคนมาบริจาคเสมอ


ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน