ไฟคลอก 3 ศพคาซากปิกอัพ สยองเพชรเกษม ขาออกธรรมศาลา หลังบรรทุกน้ำมันขี้โล้มาเต็มคันแล้วชนเกาะกลางพลิกตะแคงครูดมาชนต้นไม้ข้าง ทางจนไฟลุกท่วม ควันดำพวยพุ่งอย่างรุนแรง กว่าจนท.จะมาควบคุมเพลิงได้ก็กลายเป็น ตอตะโก

เมื่อ เวลา 06.30 น. วันที่ 20 ก.ย. ร.ต.อ. บุญญฤทธิ์ พินิจ รองสารวัตรสอบสวน สภ. สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุรถปิกอัพพลิกคว่ำแล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ มีคนขับและผู้โดยสารติดอยู่ภายในรถ บริเวณถนนเพชรเกษม ขาออก หลักก.ม.ที่ 50-51 ม.7 ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลธรรมศาลา เทศบาลนครนครปฐม กู้ภัยมูลนิธิสุขศาลา นุเคราะห์นครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบไฟ กำลังลุกไหม้ซากรถยนต์ปิกอัพที่พลิกตะแคงอยู่ข้างถนนอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจรถนนเพชร เกษมบริเวณดังกล่าว เนื่องจากไฟได้โหมไหม้รุนแรงเนื่องจากรถคันดังกล่าวบรรทุกน้ำมันเครื่องเก่า (น้ำมันใช้แล้ว) มาจำนวนมาก ใช้เวลากว่า 1 ช.ม.จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังเพลิงสงบเข้าตรวจสอบพบเป็นรถโตโยต้าแบบตอนครึ่ง ทะเบียน ตบ 2900 กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 3 รายถูกไฟเผาไหม้เกรียมติดอยู่ในซากรถ

พ.ต.ท.ธนบดี บุญพา นักวิทยาศาสตร์ (สบ.3) ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พฐ.เข้าตรวจที่เกิดเหตุ เก็บหลักฐานในตัวรถ คราบน้ำมันในที่เกิดเหตุ และแนวเส้นทางตั้งแต่รถกระแทกกับเกาะกลางถนนเป็นทางยาวประมาณ 100 เมตร ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายยังไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงส่งศพไปร.พ.ศูนย์นครปฐม ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและดีเอ็นเอตามกระบวนการทางกฎหมาย

สอบ สวนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุให้การเบื้องต้นว่า ได้ยินเสียงรถชนเกาะกลางถนน และเกิดเสียงดังคล้ายยางระเบิด จากนั้นรถได้พลิกตะแคงครูดมากับถนนชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางจนไฟลุกไหม้ มีควันไฟสีดำพวยพุ่งสูงและรุนแรงมาก จนชาวบ้านละแวกนั้นไม่มีใครกล้าเข้าช่วยเหลือเนื่องจากเกรงจะเกิดระเบิดซ้ำ

ต่อ มาทราบชื่อผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย นายจักรวุฒิ รุ่งโรจน์ อายุ 33 ปี อยู่ แขวงและเขตคลองเตย กทม., นายธีรวัฒน์ ลอยหมื่นไว อายุ 28 ปี อยู่ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. และนายศิริมงคล โภคินกิตติเจริญ อายุ 38 ปี อยู่ หมู่ 6 ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี

ส่วน สาเหตุการเกิดอุบัติครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน ทั้งนี้รถคันดังกล่าวบรรทุกน้ำมันขี้โล้หรือน้ำมันที่ใช้แล้วมาเต็มกระบะ ท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน