สุดสลด “เพชรมงคล ส. วิไลทอง” มวยเด็ก วัย 13 ปี ถูกต่อยน็อกคาเวทีสมุทร ปราการหลังขึ้นชกการกุศลชิงถ้วย “บิ๊กป้อม” ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจอคู่ชกอายุ 14 ปี ต่อยจนร่วง เลือดคั่งในสมอง หามส่งร.พ. ก่อนสิ้นใจ ในเวลาต่อมา เผยเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่แยกทางกัน
เกิดเหตุเศร้าสลดในวงการมวยเด็ก เมื่อเพชรมงคล ป.พีณภัทร หรือเพชรมงคล ส.วิไลทอง นักมวยเด็กวัย 13 ปีเสียชีวิต จากอาการเลือดคั่งในสมอง หลังพ่ายน็อก ฟ้าใหม่ ว.สุดประเสริฐ หรือพุฒ ลูกร่มเกล้า ยก 3 ในการชกมวยการกุศลโครงการต้านภัยยาเสพติดครั้งที่ 1 ชิงถ้วยรางวัลของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 พ.ย. ที่เวทีมวยชั่วคราว โรงเรียนวัดคลองมอญ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
โดยระหว่างยกที่ 3 เพชรมงคลถูกต่อยจนล้มทั้งยืนกลางเวที แต่กรรมการตัดสินบนเวทีไม่ได้เข้ามาช้อนคอรับศีรษะแต่อย่างใด ทำให้ศีรษะกระแทกพื้น จนหมดสติคาเวที ก่อนถูกหามส่งร.พ.บางจากพระประแดง แพทย์พบว่าศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จึงส่งไปรักษาต่อที่ร.พ.สมุทรปราการ และเสียชีวิตในช่วงบ่ายวันที่ 12 พ.ย. ก่อนญาติจะนำศพส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ร.พ.ตำรวจ โดยหลังเกิดเหตุมีคลิปภาพการชกวินาทีสุดท้าย ก่อนนักมวยเด็กรายนี้จะเสียชีวิตแพร่ออกไปทางโลกโซเชี่ยล เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น. ญาตินำศพของเพชรมงคล ส.วิไลทอง หรือด.ช.อนุชา ทาสะโก อายุ 13 ปี มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใหม่บางปลากด ต.บางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ โดยมีญาติ พร้อมด.ช.ณัฐภูมิ วุฒิ อายุ 12 ปี และด.ช.กองทัพ สุริยวงศ์ อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องที่สนิทกัน พร้อมครูอาจารย์มาร่วมพิธีรดน้ำศพ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า
ขณะเดียวกัน นางนิรันดร์ ทาสะโก อายุ 43 ปี แม่ของด.ช.อนุชา หรือ น้องเล็ก ซึ่งขณะนี้ อยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ หลังทราบข่าวว่าลูกชาย เสียชีวิต ได้วิดีโอคอลมาหาญาติ โดยบอกว่าภูมิใจในตัวน้องที่ได้ทำตามความฝันที่น้องรักและได้เสียชีวิตกับสิ่งที่น้องรัก ส่วนตัวเองไม่อยากให้น้องเล็กชกมวยอยู่แล้ว
นายดำรงค์ ทาสะโก อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลุงและเป็นพี่เลี้ยงของ ด.ช.อนุชา ในการชกมวยครั้งนี้ กล่าวว่า “ผมสะเทือนใจมากที่สุด หลานชายคนนี้ผมรักมากที่สุด ชีวิตของผม ให้เขาได้ เขามีเป้าหมายในชีวิต เป็นเด็กมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ เป็นเด็กที่มีความซื่อสัตย์ เด็กคนนี้อยู่ในใจผมตลอด และชื่อเพชรมงคล ส.วิไลทอง จะอยู่ในใจผมตลอด ในวันที่ต่อย ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ตลอด เป็นคนที่พันมือและนวดน้ำมัน เป็นพี่เลี้ยงบนเวที ในส่วนของกรรมการ ผมไม่พาดพิงท่านใดท่านหนึ่ง แต่ต้องได้มาตรฐานที่มีคุณภาพมากกว่านี้ ระดับการตัดสินมวยภูธรต้องมีคุณค่ามากกว่านี้ ผมไม่ติดใจสาเหตุที่น้องเสียชีวิต มันเป็นอุบัติเหตุ อยากฝากถึงผู้จัดงานว่า กรรมการผู้ตัดสินและความปลอดภัยหรือเซฟตี้ต้องมีมาตรฐาน และอยากให้มีกฎหมายเซฟตี้นักมวยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะต้องใส่เครื่องป้องกัน
สำหรับ ด.ช.อนุชา อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 6 บ้านโคกกลาง ต.กุดจิก อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เกิดเมื่อ 2 ส.ค.2548 ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมวัดใหม่สมุทรกิจวิทยา อ.พระสมุทรเจดีย์ มีพี่น้อง 3 คน ผู้หญิง 1 ผู้ชาย 2 คน เป็นเด็กกตัญญู พ่อแม่หย่าร้างกัน โดยแม่อยู่ที่เกาหลีใต้ ปัจจุบันด.ช.อนุชาพักอาศัยอยู่กับลุง ชกมวยตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนอยู่ ป.2 ใช้ชื่อว่า เพชรมงคล ส.วิไลทอง โดยฝึกซ้อมอยู่ที่สนามกีฬาสวนสาธารณะเทศบาลเมือง ลัดหลวง ประวัติการชกมากกว่า 170 ไฟต์ กระทั่งไฟต์ล่าสุดชกในงานต้านภัยยาเสพติด ครั้งที่ 1 ที่เวทีชั่วคราวโรงเรียนวัดคลองมอญ ขึ้นเวทีเป็นรองคู่เอก พิกัด 41 ปอนด์ ที่ผ่านมา จะตระเวนขึ้นชกมวยด้วยค่าตัวไม่กี่พันบาทเพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัวและส่งตัวเองเรียนหนังสือ และมีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา จนกระทั่งขึ้นชกครั้งล่าสุดก่อนจะจบชีวิตลงคาเวที
ด.ช.ณัฐภูมิ กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า ตนรู้จักกับน้องเล็กได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงเข้า ม.1 น้องเล็กเป็นเด็กนิสัยดี เป็นคนเงียบๆ จะไม่ยุ่งไม่คุยกับใคร แต่ถ้าใครมาคุยด้วยก่อนน้องเล็กก็จะคุยด้วยเสมอ ส่วนเรื่องที่น้องเล็กเป็นนักมวย มีแต่เพื่อนสนิทน้องเล็กเท่านั้นที่รู้ น้องเล็กมักจะบอกตนเสมอว่าสัปดาห์นี้จะมีขึ้นชกนะ แต่ตนก็ไม่เคยไปดู จะดูผ่านไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กของน้องเล็ก
“น้องเล็กถือว่าเป็นเด็กที่เรียนเก่งที่สุดในผู้ชายในห้อง โดยส่วนตัวน้องเล็กไม่เคยบอกใครว่าตัวเองเป็นนักมวย เพราะน้องเล็กไม่เคยใช้วิชาความรู้เรื่องมวยมาข่มเหงใคร เพื่อนๆ ในห้องรู้ว่าน้องเล็กเป็นนักมวย ก็เพราะมีอยู่วันหนึ่ง ช่วงเช้าของวิชาเรียน น้องเล็กฟุบหลับ คุณครูเลยถามน้องเล็กไปทำอะไรมา ทำไมถึงเหนื่อย น้องก็บอกว่า เมื่อเช้าตี 5 ไปวิ่งมา คุณครูก็ถามต่อว่าไปวิ่งทำไม น้องเล็กก็ตอบว่าซ้อมมวยครับ เพื่อนๆในห้องถึงได้รู้ ผมรู้สึกเสียใจมากกับการจากไปของน้องเล็ก เขาเป็นคนที่ขยัน เรียนเก่ง เขาเคยบอกผมว่าจะชกมวยจนถึง ม.6 จากนั้นจะหางานทำเพื่อส่งตัวเองเรียน” ด.ช.ณัฐภูมิกล่าวด้วยความโศกเศร้า
ด้าน น.ส.ณภัทร ขันการไร่ อายุ 35 ปี ครูผู้สอนที่โรงเรียนมัธยมวัดใหม่สมุทรกิจวิทยา กล่าวว่า ด.ช.อนุชาเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน เชื่อฟัง ครูบาอาจารย์ มีบางมุมเขาจะเงียบบ้าง แต่ก็ยังเป็นคนที่นิสัยร่าเริง เขาย้ายมาจากจ.กาฬสินธุ์ มาเข้าม.1 ที่โรงเรียนนี้ ตนไม่ทราบมาก่อนว่าเขาไปชกมวย เคยเห็นมาต่อยเป็นบางครั้ง ไม่ทราบว่าไปต่อยเป็นอาชีพ เมื่อทราบว่าเสียชีวิตก็ทำใจไม่ได้ คิดว่าไม่น่าจะมาเสียชีวิตด้วยเหตุการณ์อย่างนี้ ไม่อยากเสียคนดีๆ ไป
ด.ช.กองทัพ สุริยวงศ์ อายุ 14 ปี เพื่อนสนิทและเรียนอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน กล่าวว่า ตนรู้จักอนุชามาตั้งแต่เปิดเทอม เขาเป็นคนเงียบๆ แต่เรียนเก่ง ตนรู้ว่าเขาไปต่อยมวย แต่เมื่อทราบว่าเสียชีวิตจากการต่อยมวยครั้งนี้ รู้สึกเสียใจจนร้องไห้ ขอบอกว่าถ้าชาติหน้า มีจริง ขอให้เกิดมาเป็นเพื่อนกันอีก ตนยังติดค้างชานมไข่มุกกับเขาว่าจะเลี้ยงเขา
ด้าน ฟ้าใหม่ ว.สุดประเสริฐ คู่ชกของเพชรมงคลโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หลังจากโดนต่อว่าอย่างหนักกรณีที่มีส่วนทำให้เพชรมงคลเสียชีวิตในครั้งว่า “ใครจะด่าผมใครจะว่าผมเป็นยังไงก็แล้วแต่ ผมอยู่บนเวทีผมทำหน้าที่ของผม ผมทำตามสัญชาตญาณของผม เรื่องแบบนี้ผมไม่อยากให้เกิดเลยครับ รู้สึกเสียใจ แต่ก็ทำตามหน้าที่ของผม ผมอยู่บนเวที ก็ต้องทำเพื่อเอาชัยชนะเพื่อแลกกับเงินส่งตนเองเรียน ผมอยู่บนเวทีผมก็ต้องสู้เขา ถ้าผมไม่ทำเขา เขาก็ทำผม คุณจะด่าผมก็เชิญผมยังจะเดินต่อทางนี้ ผมต้องไปให้สุดเพื่อครอบครัว เพื่อคนข้างหลังผม #ด่าผมก็เชิญด่าครับ#คนรักผม ก็มีคนเกลียดผมก็มี Rip.เพชรมงคล ส.วิไลทอง”
ค่ำวันเดียวกัน ฟ้าใหม่ ว.สุดประเสริฐ หรือ ด.ช.นิติกร สรดี คู่ชกของด.ช.อนุชา เดินทางมาร่วมพิธีศพด้วย พร้อมกล่าวต่อหน้าโลงศพว่า “อย่าได้จองเวรจองกรรมกันเลย เรารักเพื่อนนะ ตั้งแต่รู้ข่าวก็เสียใจ ทำอะไรไม่ถูกเลย ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตาย ต่อยทำไปตามเกม หลังจากนี้จะบวชหน้าไฟ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับด.ช.อนุชา ผมนำกางเกงตัวที่ชกในวันเกิดเหตุมาประมูล เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือ ผู้ตายต่อไป”
จากนั้นด.ช.นิติกรนำดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมาญาติของผู้ตาย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมครม. นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เศร้าสลดครั้งนี้ว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ ส่วนการแก้ไขปัญหา ที่ให้เยาวชนชกมวยนั้น ขณะนี้กระทรวงได้รับ ข้อเสนอและร่างแก้ไขพ.ร.บ.มวย พ.ศ.2542 ของสนช.ที่ได้เขียนไว้แล้ว ในร่างดังกล่าวกำหนดหลักเกณฑ์อายุของเยาวชนที่จะเข้าแข่งขันกีฬาประเภทนี้ไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการรอร่างของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่กำลังดำเนินการ โดยจะเร่งเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาให้เร็วที่สุด
ส่วนที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยพล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) พยายามผลักดันแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ. กีฬามวย พ.ศ.2542 ห้ามนักมวยไทยที่มีอายุไม่ถึง 12 ปีขึ้นชกโดยเด็ดขาด ส่วนเด็กที่มีอายุ 15 ปีต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง, หัวหน้าค่าย และขออนุญาตจากคณะกรรมการกีฬามวยเสียก่อน โดยกฎหมายฉบับเดิม ระบุไว้ที่ 15 ปี ซึ่งเป็นข้อเสนอจากแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น ประเด็นดังกล่าวทำให้คนวงการมวยไทยไม่พอใจอย่างมากและออกมาต่อต้านอย่างหนักถึงขั้นอาจมีการนัดรวมตัวกันเดินถนนเพื่อประท้วงหากมีการเดินหน้าในการแก้กฎหมายดังกล่าว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
“บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ และสมาชิกสนช.กล่าวว่า ยังไม่เห็นร่างแก้ไข แต่ทราบว่ามีการผลักดันกันอยู่ แต่ยังไม่ได้บรรจุ เข้าในวาระพิจารณา เรื่องนี้ตนเข้าใจเหตุผลของทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายแพทย์ทำวิจัยกันมาเป็น 10 ปี ว่าหากเด็กได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง จะทำให้ความเจริญเติบโตไม่ปกติ ซึ่งเรา ต้องเคารพในแง่ของแพทย์ แต่ขณะเดียวกันตนก็เข้าใจพวกกลุ่มคนมวยไทย ทั้งค่ายมวย นักมวย ซึ่งต้องมีภาระหาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ ประเด็นนี้มีการพูดกันมานานแล้ว ทางออก ดีที่สุดในตอนนี้อยากเสนอว่าทั้งสองฝ่ายต้องหาทางออกที่ดีร่วมกัน เช่นคุยกันได้ไหมเจอกันครึ่งทางให้นักมวยใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายทั้งเฮดการ์ด, สนับศอก, สนับแข้ง คุยกันให้ลงตัวเข้าใจว่าทางแพทย์ก็น่าจะยอมรับ ฟังเหตุผลของคนมวย ขณะเดียวกันคนมวยไทย ก็ต้องเข้าใจความหวังดีของแพทย์ด้วยเช่นกัน
“การเรียกร้องเป็นสิ่งที่ดี แต่การเกินเลยถึงขั้นจะมาเดินถนนประท้วงนั้น ผมไม่เห็นด้วย ขอเสนอให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันจะดีกว่า” พล.ต.จารึกกล่าว
ด้าน “ขาวผ่อง”ทวี อัมพรมหา ตำนานนักมวยเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 1984 ในฐานะเลขาธิการสมาคมกีฬามวยไทยนายขนมต้ม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนพร้อม สามารถ พยัคฆ์อรุณ นายกสมาคมฯนายขนมต้ม และเจริญทอง เกียรติบ้านช่อง ได้ยื่นคำร้องคัดค้าน กฎหมายมวยไทยฉบับใหม่ที่ห้ามเด็กต่ำกว่า 12 ปีชกมวย ต่อนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อส่งต่อไปยังนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ แล้ว เพื่อร้องเรียนไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาทบทวน เสนอร่างแก้ไขพ.ร.บ.มวยฉบับใหม่ ที่มีสาระสำคัญคือกำหนดให้นักกีฬามวยที่ประสงค์จะเข้าแข่งขันต้องขึ้นทะเบียนต่อนายทะเบียน ผู้เยาว์ที่ประสงค์ขึ้นทะเบียนเป็นนัก กีฬามวย ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน นอกจากนี้ห้ามไม่ให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวยและนายสนามมวยอนุญาตให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าร่วมแข่งขัน เว้นแต่ได้รับความชอบจากนายทะเบียน แต่สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีนั้นจะไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้
“ขาวผ่อง” ยังกล่าวถึงนักมวยเด็กที่ต้องสังเวยชีวิตจากการชกมวยรายล่าสุดว่า “โศก นาฏกรรมดังกล่าวถือเป็นเรื่องน่าเศร้า เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องมองให้ลึกลงไปในรายละเอียด สิ่งที่เกิดขึ้นต้องมองถึงปัจจัยในหลายด้าน กรรมการ ผู้ทำหน้าที่บนเวทีทันต่อเกมหรือไม่ มีแพทย์สนามข้างเวทีที่ดีหรือเปล่า และเวทีนั้นได้มาตรฐานแค่ไหน รวมถึงการจัดประกบคู่มวย ต้องวิเคราะห์หลายประเด็นเพื่อดูที่มาของสาเหตุ เรื่องนักมวยเด็กนั้นเราต้องมองถึง พื้นฐานโดยละเอียดด้วยเช่นกัน ผมมองไปที่เป้าใหญ่ว่าเด็กกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน จำเป็นต้องชกมวยเพราะต้องการเงินไปจุนเจือครอบครัว ถามว่ากีฬามวยมีผลกระทบต่อสมองหรือไม่ จริงๆ แล้ว ฟุตบอล เทควันโด หรือกีฬาปะทะอื่นก็ล้วนมีผลกระทบกันหมด การชกมวยนั้น ต้องกระทบกระทั่งกันอยู่แล้ว ยอดมวยไทยทุกคนไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน 99 เปอร์เซ็นต์ล้วนแต่ชกมวยครั้งแรกอายุต่ำกว่า 10 ขวบ นับเรียงตัวกันได้เลย และพ.ร.บ.กีฬามวย ปี 2542 เดิมที่ใช้อยู่นั้น ก็ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า เราต้องเน้นการป้องกันให้มากขึ้น”
“มวยเด็กกับเด็กชกกัน หากอายุน้ำหนักตัวเท่ากัน ผมยังเชื่อว่าไม่อันตรายหรอก แม้กระทั่ง เด็กผู้หญิงก็ยังชกกับเด็กผู้ชายได้เลย แต่ปัญหา ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพวกผู้ใหญ่เห็นแก่ตัวเหล่านี้ แหละ ที่ทำให้เกิดปัญหา เราต้องเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ ไม่ใช่แต่จะเอาผลประโยชน์ ความได้เปรียบของตัวเองเป็นหลัก วงการมวยก็เจ๊งกันหมดเพราะแบบนี้ ปัจจุบันเขาใช้วิทยาศาสตร์ การกีฬาเข้าช่วย แต่บางค่ายมวยยังไม่นำมาใช้”
