สาวสุดเซ็ง ปั๊มดัง ย่านลาดกระบัง เติม น้ำมัน ผิด ดีเซลเป็นเบนซิน ค่าซ่อม 1.1 แสน
น้ำมัน – วันที่ 14 พ.ย. โลกออนไลน์มีการแชร์ต่อเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง โดยเธอระบุว่า เธอได้รับความเดือดร้อนหลังจากที่ ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เติมน้ำมันให้เธอผิด จาก ดีเซลเป็นเบนซิน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Saruta Jansila ได้โพสต์ระบุว่า อัพเดท เวลา 13.00 – 14.40 วันที่ 14 พ.ย. ทางปั๊มได้ส่งให้ผู้จัดการมาเจรจา ขอต่อรองให้ยกรถไปที่อู่ที่มีดิวกับทางปั๊ม เราได้ถอยให้ 1 ก้าว ที่จะไม่เปลี่ยนหัวฉีด มูลค่า 49,xxx บาท ขอเพียงแค่ล้าง แต่ทางศูนย์ ไม่มีบริการล้างให้ จึงคุยต่อรองกันว่า จะยกรถไปที่อู่ แต่จะขอให้เบิกอะไหล่จากศูนย์ทั้งหมด แต่ไปเปลี่ยนที่อู่ ทางเจ้าของปั๊มก็ไม่ยอม
คือจะไม่เปลี่ยนขอแค่ซ่อมเท่านั้น ทางผู้จัดการคุยดีค่ะ เห็นใจทางเรา แต่ทางเจ้าของไม่ยอมรับข้อตกลงที่ทางเราขอ ดังนั้นจึงให้ตัวแทนท่าน สว. โทรมาแจ้งว่าให้ประกันมาสู้เอง และดำเนินกันตามกฎหมายต่อไป ส่วนในเรื่องของเรา ตอนนี้ทางประกันภัย ออกใบสั่งเคลมเบื้องต้นให้ ทางประกันจะมาตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนให้ก่อนค่ะ คืบหน้าจะรีบแจ้งนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและให้กำลังใจ ให้คำแนะนำต่างๆด้วยค่ะ
อัพเดจ 10.55 วันที่ 14 พ.ย. ได้มีทางปั๊มโทรติดต่อมา ทางเจ้าของปั๊ม สว. ได้ส่งคนมาเจรจา เรื่องค่าใช้จ่าย จะขอซ่อมเป็นบางรายการ และออกหนังสือรับรองการันตี อะไหล่ชิ้นนั้น แต่รายละเอียดทั้งหมดจะต้องเข้าไปคุยที่ศูนย์อีกทีค่ะ พูดออกมาได้!!! เฮงซวย!!! (ละครจบ อารมณ์ไม่จบ)
สืบเนื่องจาก ปั๊มเติมน้ำมันผิด คำตอบที่ได้ในวันนี้ ดูไม่น่าฟังเอาซะเลยค่ะ ในวันแรกที่เกิดเรื่อง ทางกัปตันปั๊ม พยายามแสดงความรับผิดชอบจนเราอุ่นใจ ยอมทิ้งรถไว้ หวังว่าจะได้ความรับผิดชอบอย่างถูกต้อง ตามความสมควร แต่ไม่เลย คำตอบที่เรารอมาเกิน 2 วันคือ ทางเจ้าของปั๊ม ขอรวบรวมหลักฐาน และขอเอกสารอย่างเป็นทางการจากเรา??? คือความผิดของคุณ 100% แต่ขอเอกสารจากเรา
เรื่องราวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 11 โมง ของวันที่ 11 พฤศจิกายน เราได้เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม ย่านลาดกระบัง ซึ่งเราใช้บริการเป็นประจำ ตั้งแต่วันแรกที่ปั๊มเปิด หลังจากเติมเสร็จ เราก็ออกรถมาจากปั๊ม เพื่อกลับรถขึ้นมอเตอร์เวย์ แต่เราสังเกตความผิดปกติของรถ มีอาการแปลกๆ สั่นๆ กระตุกๆ
จึงฉุกคิดได้ว่า เพราะเพิ่งออกจากปั๊ม หรือว่าทางปั้มจะเติมน้ำมันผิดให้เรา เราจึงวนรถกลับไปที่ปั๊ม และแจ้งกับเด็กปั้มว่าเติมน้ำอะไรให้เรา ซึ่งตรวจเช็กใบเสร็จแล้ว พบว่าเติมเบนซิน 95 เด็กปั้มบอกว่าพี่แจ้งว่า เป็น เบนซิน 95 ซึ่งเราก็เถียงกันซักพัก เพราะว่าประตูฝาก็เขียนบอกว่า ดีเซล ฝาปิด ก็เขียนย้ำว่าดีเซล
จนกัปตันปั๊ม ได้ติดต่อประสานงานกับผู้ใหญ่ของปั๊ม ว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถเรา ทางปั๊มได้ยื่นขอเสนอ ว่าจะให้เราเข้าอู่ที่ดิวกับปั๊มอยู่ แต่เราแจ้งความประสงค์ไปว่า รถเข้าอยู่ในประกันของศูนย์ เราไม่อยากเข้าอู่ ซึ่งทางปั๊มก็โอเค ตอนแรกจะเรียกรถมาลาก เพราะรถขับไม่ได้แล้ว แต่รถของเราเกียร์ออโต้ ต้องยกเท่านั้น
เราจึงโทรเรียกบริการยกรถฉุกเฉินจากทางศูนย์ ใช้เวลารอร่วม 3 ชั่วโมง ซึ่งในเรามีลูกอีก 3 คน นั่งรอด้วย ร้อนก็ร้อน เราพยายามไม่บ่น พยายามใจเย็นมาก เลยให้น้องนุ่น นั่งแท็กซี่กลับไปเอารถเก๋งที่บ้าน เพราะวันนี้เรามีนัดส่งของให้ลูกค้าด้วย โอเค จบลงด้วยการยกรถไปศูนย์
เราและทีมงานปั๊ม ตามไปรับฟัง ขั้นตอนต่างๆ ทางศูนย์แจ้งว่า จะทำการตรวจเช็คความเสียหายได้วันจันทร์ ซึ่งต้องทิ้งรถไว้ตั้งแต่วันเสาร์ ซึ่งเราก็ไม่ค่อยสะดวก แต่จำเป็นต้องรอ จนกระทั่งวันจันทร์ ทางศูนย์ได้ส่งใบเสนอราคา การเปลี่ยนอะไหล่และค่าใช้จ่ายทั้งหมด ให้ทางเรา และทางปั๊ม เพื่อพิจารณา เป็นจำนวนเงิน 113,xxx บาท
ซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว ทางศูนย์ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ที่จะเป็นผลกระทบกับเครื่องยนต์ในอนาคต รถเราออกมาป้ายแดง ปีกว่า ยังอยู่ในประกันทั้งหมด แต่ทางศูนย์ได้มาต่อรองกับเรา ว่าขอเอาบางรายการออกได้ไม๊ ถ้าอีก 1 เดือนข้างหน้ามีปัญหา เค๊าจะรับผิดชอบ เราตอบปฏิเสธทันที ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ
ทางศูนย์โทรมาว่ารอทางปั๊ม เข้ามาเซ็นยินยอมรับทราบ เพื่อที่จะได้ดำเนินการขั้นตอนต่อไป จนกระทั้ง 14.00 น. ของวันจันทร์ที่ 12 ไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางปั๊ม เราเลยขับรถเข้าไปที่ปั๊ม เพื่อติดต่อสอบถาม ทางผู้จัดการกำลังย้อนดูกล้องวงจรปิดอยู่เลย จะเอาผิดกับเราหรอ ความผิดของเราคือ ผิดที่เข้าไปเติมปั๊มของคุณในวันนั้น เราเห็นดังนั้นจึงได้พูดคุยเรื่องเซ็นรับทราบและยินยอมการซ่อม เพื่อที่จะรีบดำเนินการ หลังจากคุยกับผู้จัดการเสร็จ
เค้าได้เดินทางเข้าไปที่ศูนย์ แต่!! ไม่ได้เซ็นเอกสารใดๆทั้งสิ้น และได้พาช่างที่อู่เข้าไปด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์รถแจ้งเราว่าทางปั๊มจะขอยกเลิกบางรายการ อย่างที่กล่าวไปด้านบน ทางปั๊มไม่ได้ติดต่อเรามาเลย เราจึงรีบโทรไปสอบถามความคืบหน้า ทางผู้จัดการแจ้งเราว่าขอคุยกับผู้ใหญ่ก่อน จะติดต่อกลับภายใน 30 นาที ซึ่งก็หายไปเลย จนกระทั่งวันที่ 13 พฤศจิกายน ทางศูนย์ได้ติดตามความคืบหน้า ว่าทางปั๊มว่าอย่างไรบ้าง
เราก็แจ้งกลับไปว่าไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้นจากทางปั๊ม เราจึงโทรหาผู้จัดการอีกครั้ง เวลา 10 โมงกว่า ไม่มีคนรับ จึงเข้าไปที่ปั๊มอีกครั้ง ปรากฎว่าไม่อยู่ กัปตันแจ้งว่าวันนี้ผู้จัดการไม่เข้า เราจึงลองพยายามโทรติดต่ออีกครั้งเวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ ก็คงไม่มีคนรับ และได้มีการโทรกลับมาในเวลาต่อมาว่า ทางเจ้าของปั้ม จะขอรวบรวมหลักฐานก่อน และขอเอกสารเป็นทางการส่งมาที่ปั๊ม
ตอนนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ เราขาดรถใช้งานเพื่อส่งสินค้าไป 1 คัน ทำให้ล่าช้า เกิดความเสียหายต่อธุรกิจของเรา และการจอดทิ้งไว้ที่ศูนย์โดยไม่มีการดำเนินการใดๆมีค่าใช้จ่ายในการจอดแต่ละวัน วันนี้เราแจ้งประกันไว้แล้วตั้งแต่แรก
แต่เราเห็นความรับผิดชอบจากทางปั๊ม ด้วยคำพูด เราจึงเบรกไว้ก่อน แต่ตอนนี้ เราขอดำเนินการตามกฎหมาย และความถูกต้องต่อไปแล้วกันเนอะ วันนั้นถ้าเราขับไปไกลกว่านี้ เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ลูกเรา 3 คน เป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ทั้งที่เจ้าหน้าที่แคชเชียร์รู้แล้วก่อนที่เราจะออกมาว่าเติมผิด!!
ที่มา : Saruta Jansila
