“บิ๊กตู่”เปิดทำเนียบ จัดงาน “ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้” พร้อมประเดิมบริจาคก้อนแรก1 แสนบาท และช่วยรับโทรศัพท์บริจาคเงิน โดยมีดารา-นักร้อง และคณะรัฐมนตรีร่วมรับโทรศัพท์ด้วย ได้ยอดเงินบริจาคกว่า 329 ล้านบาท ด้านกรมอุตุฯ ระบุ 16-18 ม.ค. ฝนถล่มซ้ำอีกตั้งแต่ประจวบฯ ยันนราธิวาส เตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ด้านปภ.สั่งทุกจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือ โดยน้อมนำพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมสรุปน้ำท่วมใต้ 12 จังหวัด รวม 119 อำเภอ กว่า 1.6 ล้านคนเดือดร้อน ตาย 41 ราย สุราษฎร์ฯ เร่งสำรวจฟาร์มจระเข้ในพื้นที่หวั่นหลุดออกมา

บิ๊กตู่เปิดทำเนียบรับบริจาค

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 15 ม.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานรับมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ในรายการพิเศษ ?ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้? ซึ่งรัฐบาลจัดขึ้นเพื่อรับบริจาคเงินสมทบทุนในการช่วยฟื้นฟูและเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีรับมอบเงินบริจาค จากผู้แทนองค์กรและบริษัท และจะเป็นผู้รับโทรศัพท์และพูดคุยกับประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามาบริจาคเงิน ด้วยตัวเองอีกด้วย อย่างไรก็ตามยังมีรองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีร่วมรับบริจาคเงินและรับโทรศัพท์ พร้อมกันนี้ มีดารานักร้องร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นันทิดา แก้วบัวสาย เบล-สุพล แก้ม-เดอะสตาร์ เสือ-ธนพล โป่ง-หินเหล็กไฟ เจี๊ยบ-พิสุทธิ์ อี๊ด-วงฟลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการดังกล่าวถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ระหว่างเวลา 18.00-20.00 น. สำหรับผู้บริจาครายใหญ่ อาทิ นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้บริจาคเงินจำนวน 10 ล้านบาท บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) จำนวน 20 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจำนวน 20 ล้านบาท บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จำนวน 10 ล้านบาท ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ ร่วมบริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 100,000 บาท

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวก่อนเข้าร่วมงาน ถึงกรณีที่มีหลายหน่วยงานร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือประชาชนในภาคใต้ว่า ?ดีใจแทนคนไทย ดีใจแทนคนใต้?

เตรียมงบประมาณฟื้นฟู

ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้ ว่า เป็นที่ทราบดีว่าประชาชนในจังหวัดภาคใต้ประสบ ผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง อิทธิพลจากลมฟ้าอากาศ ความกดอากาศต่ำจากฝั่งอันดามัน และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ในการนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งผ่านวันขึ้นปีใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ และงานวันเด็กเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ตนในนามรัฐบาลและประชาชนทั่วไปในพื้นที่ต่างๆ นั้นความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวใต้ที่ไม่มีโอกาสได้เฉลิมฉลองความสุขเหล่านั้น โดยเราได้ส่งกำลังใจอย่างต่อเนื่อง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สั่งการทุกส่วนราชการแก้ไข ที่สำคัญได้มีการมอบหมายบูรณาการจัดตั้งศูนย์ในการช่วยเหลือ ประกอบด้วย ทีมกู้ภัย โรงประกอบอาหาร ดูแลสิ่งของอุปโภคบริโภคและถุงยังชีพ โดยมีโอกาสไปเยี่ยมมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมารัฐบาลมีมติหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการภาษี งบประมาณต่างๆ ที่ต้องเตรียมการไว้รองรับการฟื้นฟู แก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เรื่องสำคัญคือ ประชาชนที่บริจาคช่วยเหลือครั้งนี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ถึง 1.5 เท่า นอกจากนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษมาพิจารณาเรื่องของการเยียวยาต่อไป

ปีติพระมหากรุณาธิคุณ

นายกฯ กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าปลาบปลื้ม และเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงพระราชทานมาหลายอย่าง ทั้งความห่วงใย แนวทางในการปฏิบัติ สิ่งของ เครื่องใช้ที่จำเป็น ทุกวันนี้ขอให้มาช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ชาวใต้มีความสุข หรืออย่างน้อยก็ให้อยู่ในภาวะปกติในการดำรงชีวิตให้ได้ก่อน จึงจัดรายการประชารัฐร่วมใจช่วยอุทกภัยภาคใต้ขึ้น เพื่ออยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม โดยจะได้รวบรวมส่งไปช่วยเหลือประชาชนภาคใต้ต่อไป

ส่วนการช่วยเหลือขอรัฐบาลมีมาตรการหลายอย่างด้วยกัน มาตรการเร่งด่วนคือช่วยเหลือเยียวยาให้ทันต่อสถานการณ์ คือการเยียวยาขั้นต้นตามกฎหมาย สำหรับสิ่งที่จะตามมาจะมีมาตรการเพิ่มเติมอีกครั้ง ทั้งนี้ด้วยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเราต้องช่วยกันให้กำลังใจต่อเนื่อง และตลอดเวลาจนกว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเข้าสู่สภาวะปกติ เราต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน เมื่อพี่น้องชาวใต้ทุกข์เราก็ทุกข์ไปด้วย เราต้องไม่ทิ้งใครไว้ เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งประเทศตามแนวพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นั่งรับสายคู่?น้องเมย์-รัชนก?

นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายในช่วงที่ผ่านมา และขอให้ทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอให้ระมัดระวัง และเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ให้ได้ ขอเดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายปกป้องพี่น้องคนไทยทุกคน และเจ้าหน้าที่ ทำงานได้อย่างปลอดภัย ประสบความสำเร็จทุกอย่าง

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ช่วยรับโทรศัพท์เพื่อรับบริจาค โดยนั่งคู่กับ ?น้องเมย์?รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย ซึ่งผู้บริจาครายแรกที่โทรศัพท์เข้ามาและนายกฯรับสายเอง คือนายโอวาท พรหมรัตนพงศ์ ซึ่งเป็นนักจัดรายการวิทยุของยูบีซี หรือ ทีเอ็นเอ็น โดยบริจาคเงิน 10,000 บาท

เงินบริจาคกว่า 329 ล้านบาท

ต่อมา นายกฯ ตอบคำถามของชาวบ้านจากภาคใต้ที่เดือดร้อนว่า ขอขอบคุณทุกคนโดยเฉพาะเด็กนักเรียน เกษตรกร และพี่น้องชาวใต้ทั้ง 12 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สั่งหน่วยงานทุกหน่วยไปแล้วให้เร่งช่วยให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งอยากขอบคุณทุกคนที่เสียสละและอดทน โดยรัฐบาลจะดำเนินทั้ง 2 ส่วน คือ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเร่งเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และการแก้ไขปัญหาในระยะยาวในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ดูแลเรื่องป่าไม้ และดิน โดยเฉพาะทางระบายน้ำ เพราะเราจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องแก้ปัญหาเรื่องที่กักเก็บน้ำ ทางระบายน้ำ คู คลอง ซึ่งต้องขอให้ทุกคนช่วยรัฐบาลด้วย รัฐบาลยินดีและพร้อมที่จะช่วยทุกประการ และขอให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติมีความปลอดภัย และขอบคุณที่ทุ่มเทร่วมกันทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารายการพิเศษ ?ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้? เปิดรับบริจาคถึงเวลา 22.00 น. สรุปยอดผู้บริจาค 1,340 ราย รวมยอดเงินบริจาค 329,305,809.58 บาท

เตือน 16-18 ม.ค. ฝนถล่มใต้อีก

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ วันเดียวกัน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา ออกประกาศฉบับที่ 2 (29/2560) ลงวันที่ 15 ม.ค. เรื่องคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย และฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศ เย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน แผ่ลงมา ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันที่ 15 ม.ค.60 ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ภาคใต้ฝั่ง ตะวันออกจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นบริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และ จ.นราธิวาส

รายงานข่าวว่าให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช ระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก ปริมาณฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในวันที่ 16-18 ม.ค.นี้ คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในวันที่ 16-18 ม.ค. อ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนใน วันที่ 19-21 ม.ค. อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ปภ.เผยตัวเลขสูญเสียตาย 41

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 119 อำเภอ 722 ตำบล 5,613 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 531,911 ครัวเรือน 1,621,414 คน เสียชีวิต 41 ราย สถานที่ราชการเสียหาย 20 แห่ง ถนน 1,172 จุด คอสะพาน 191 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง นราธิวาส ปัตตานี กระบี่ และชุมพร ยังคงมีสถานการณ์ใน 6 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และประจวบคีรีขันธ์ รวม 34 อำเภอ 194 ตำบล 1,398 หมู่บ้าน

นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่าจะมีฝนตกหนักอีกนั้น ปภ.ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที

ใช้แนวทางพระราชดำริ

นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า จะได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมในการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างเต็มกำลัง พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 9 และหลักการทรงงาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาเป็นแนวทางในการวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน

นครศรีฯยังเดือดร้อน

ที่ จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิญช์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำคณะเพื่อนนักเรียนนายร้อย รุ่น 47 ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ โดยลงพื้นที่แจกถุงยังชีพและน้ำดื่มมอบให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งคลองชะอวด ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

สภาพในหมู่บ้านของสองฝั่งคลองดังกล่าวพบว่าถนนถูกน้ำท่วมสูง ยังไม่สามารถใช้รถยนต์ผ่านเข้าหมู่บ้านได้ มีระดับน้ำสูงกว่าลำคลองกว่า 2 เมตร เส้นทางในหมู่บ้านมีน้ำท่วมขังเป็นระยะๆ ขณะที่บ้านเรือนนั้นจมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตในน้ำ ใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้านมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งแม้ระดับจะลดลงจากเดิมแต่ในหมู่บ้านรวมทั้งในพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำระบายลงอย่างช้าๆ

นอกจากนั้นพื้นที่โรงเรียนบ้านบางไทร ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่ระดับน้ำในพื้นที่ยังสูงอยู่ระยะทางจากถนนเข้าโรงเรียนร่วม 4 ก.ม.น้ำท่วมสูง 2 เมตร คณะตำรวจได้เดินทางด้วยเรือท้องแบนเข้าไป พร้อมลำเลียงถุงยังชีพไปแจกพี่น้องประชาชนที่พายเรือมารอรับความช่วยเหลือกว่า 200 ครอบครัว นอกจากนั้นยังพบว่ายังมีอีกหลายหมู่บ้านยังจมอยู่ใต้น้ำใน 3 อำเภอ คือ อ.เชียรใหญ่, เฉลิมพระเกียรติ และ อ.ปากพนัง

ในหลวงทรงห่วงพสกนิกร

พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานมอบสิ่งของพระราชทานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จุดแรกมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอชะอวด ที่โรงเรียนขอนหาดประชาสรรค์ ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบ 11 ตำบล 87 หมู่บ้าน 20,100 ครัวเรือน 62,500 คน

จากนั้นเดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ที่ศาลาประชาคมอำเภอจุฬาภรณ์ ที่ได้รับผลกระทบทั้ง 6 ตำบล 30 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 7,300 ครัวเรือน 28,000 คน และมอบสิ่งของพระราชทานให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอร่อนพิบูลย์ ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 7 ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 57 หมู่บ้าน 11,952 ครัวเรือน 35,856 คน

พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์กล่าวว่า นำความห่วงใยในในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีต่อพสกนิกรที่ประสบอุทกภัยว่าพระองค์ทรงรับฟังรายงานความเดือดร้อนของพสกนิกรทุกวัน และทรงพระกรุณาโปรดให้นำสิ่งของพระราชทานแก่ผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่มในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทุกคนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณกับพสกนิกร จ.นครศรีธรรมราช เป็นอย่างยิ่ง

นปช.เปิดรับบริจาคช่วยใต้

ที่หอประชุมอภิวันท์ วิริยะชัย ชั้น 5 ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.พร้อมด้วยแกนนำ นปช.และอดีตรัฐมนตรี อาทิ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางธิดา โตจิราการ ประธานที่ปรึกษา นปช. นายอารี ไกรนรา นายสมหวัง อัสราษี นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษก นปช. เป็นต้น ร่วมจัดกิจกรรมรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ผ่านรายการ ?ธารน้ำใจไหลสู่ใต้ จากประชาชนสู่ประชาชน? โดยประชาชนสามารถบริจาคผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธ.กรุงไทย สาขาอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ชื่อบัญชีนายเกริกมนตรี รุจโสตถิรพัฒน์ เลขที่บัญชี 982-6-9103-5

นายจตุพรกล่าวว่า นปช.ขอเป็นส่วนเล็กๆ ที่จะร่วมช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเราไม่ได้คิดจะแข่งขันว่าใครจะสมทบมากกว่ากัน แต่เป็นการแสดงออกถึงจิตใจที่เสมอภาค เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะแสดงออกถึงความสามัคคี ปรองดองของคนในชาติอีกด้วย ซึ่งรัฐบาลเองก็ประสงค์ที่จะเดินหน้าสร้างความปรองดองหลังรับพระบรมราโชวาทเรื่องการสร้างความสามัคคีและปรองดองมา ทั้งนี้ ที่ความปรองดองไม่เกิดขึ้นเพราะไม่ได้ทำให้เกิด เป็นคำที่แค่เอาไว้ใช้พูดกันอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ต้องไม่คิดว่าใครอยู่ซีกใคร อยู่ข้างใคร แบบนี้ความปรองดองก็ไม่เกิด ดังนั้น สิ่งที่จะมากกว่าพูดคือการลงมือทำ อย่างไรก็ตาม หลังรวบรวมเงินบริจาคเรียบร้อยแล้วทางแกนนำจะได้หารือกันอีกครั้งว่าจะนำเงินและสิ่งของบริจาคทั้งหมดไปช่วยเหลือประชาชนอย่างไรต่อไป

พด.แจกสารบำบัดน้ำเสีย

นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน (พด.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมขนาดนี้ในพื้นที่ภาคใต้สิ่งที่กำลังจะตามมา คือปัญหาน้ำเน่าเสีย สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้คือสิ่งปฏิกูล หรือพวกขยะต่างๆ กรมพัฒนาที่ดินจึงลงพื้นที่แจกและฉีดพ่นสารเร่ง พด.6 เพื่อบำบัดน้ำเสีย และขจัดกลิ่นเหม็น เพราะสารเร่ง พด.6 เป็นสารที่ได้จากการย่อยสลายขยะสด ลดกลิ่นเหม็นตามท่อระบายน้ำและพื้นที่ที่มีความสกปรก ช่วยลดกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดการเน่าเสียและย่อยสลายสิ่งปฏิกูลในน้ำท่วมขังได้เร็ว และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่หากพื้นที่ใดที่มีน้ำท่วมขังและมีลูกน้ำยุงรำคาญเกิดขึ้น ให้ใช้สารเร่งซูเปอร์ พด.6 (ชนิดผง) โรยในพื้นที่น้ำท่วมขัง จะช่วยลดปัญหายุงรำคาญได้อย่างดี

ผู้ที่สนใจทั่วไปสามารถขอรับบริการสารเร่งซูเปอร์ พด.6 ได้ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินในเขต 1-12 สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด หมอดินอาสาประจำหมู่บ้านในชุมชน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน โทร. 0-2941-1565 หรือกลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมพัฒนาที่ดิน โทร. 0-2579-8515

ราษฎร์ฯ สำรวจฟาร์มจระเข้

นายวิชวุชย์ จินโต รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกตรวจสอบดูความมั่นคงของฟาร์มจระเข้ในพื้นที่ 7 อำเภอ ที่มีอยู่ทั้งหมด 42 ฟาร์ม จระเข้กว่า 4,000 ตัว หลังจากน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่เพื่อลดความเสี่ยงจระเข้หลุดจากฟาร์มให้มากที่สุด พร้อมมอบให้ชลประทานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประสานขอสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรือมาติดตั้งเพิ่มเติมตามลำน้ำแม่น้ำตาปี ให้ผลักดันน้ำต่อเป็นทอดๆ ออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. ประกอบกับจะมีมวลน้ำระลอกใหญ่จากพื้นที่อ.พระแสง และอ.เคียนซา ลงแม่น้ำตาปีล้นเอ่อในหลายพื้นที่

พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภาค 8 นำเฮลิคอปเตอร์ กองบินตำรวจ ประจำหน่วยบินสุราษฎร์ธานี ขึ้นสำรวจสภาพน้ำท่วมขังในพื้นที่อ.เคียนซา และอ.พุนพิน หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำตาปีล้นเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนอีกระลอก พบว่าสภาพน้ำท่วมขังกระจายเป็นวงกว้าง มีประชาชนที่ติดอยู่ตามบ้านจำนวนมากไม่สามารถออกมารับความช่วยเหลือ จึงนำอาหารและเครื่องใช้จำเป็นส่งทางอากาศบรรเทาความเดือดร้อน เบื้องต้นก่อน

ช่วยน้ำท่วม – พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. (191)พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิญช์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช นำเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 15 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน