หนุ่มญี่ปุ่นวัย 21 หายตัวปริศนาในไทย แม่-พี่ชาย-แฟนสาวเข้าร้องตำรวจช่วยตามหา หวั่นเกิดเหตุร้าย เผยเรียนจบที่ญี่ปุ่นแล้วไปทำงานที่ออสเตรเลีย ช่วงพักผ่อนเลยเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย พร้อมนัดแฟนสาวบินมาเจอกันที่สุวรรณภูมิ แต่กลับหายตัวไปไม่มารับตามนัด อีกทั้งยังติดต่อไม่ได้อีกเลยนานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ขณะที่ ผบก.สส.บช.น.สั่งเช็กกล้องวงจรปิด ย่านถนนข้าวสาร หลังเข้ามาพักเกสต์เฮาส์ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ม.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอะซะโกะ ซึโบอิ สัญชาติญี่ปุ่นมารดาของนายโซนัม ซึโบอิ อายุ 21 ปี พร้อมด้วยพี่ชายของนายโซนัม และแฟนสาวของนายโซนัม ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ ไทย แล้วหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2559 เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. เพื่อให้ช่วยตามหานายโซนัม เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย
นางอะซะโกะเปิดเผยว่า ลูกชายเรียนจบที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วได้ไปทำงานอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ช่วงพักผ่อนได้เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา แต่เพื่อนได้กลับประเทศไปแล้ว ส่วนลูกชายได้นัดกับแฟนสาวชาวญี่ปุ่นให้เดินทางมาพบกันที่เมืองไทยในวันที่ 7 ม.ค.2560 โดยคืนวันที่ 27 ธ.ค.แฟนสาวได้โทรศัพท์ผ่านทางเฟซบุ๊กเพื่อยืนยันว่าจะเดินทางมาตามนัดหมาย แต่พบว่าน้ำเสียงของลูกชายตนไม่สู้ดีและยังบอกว่าไม่ต้องเดินทางมาพบกันแล้ว แต่แฟนสาวยืนยันว่าจะเดินทางมาพูดคุยกันที่เมืองไทย ซึ่งลูกชายก็ตอบตกลง จากนั้นวันที่ 7 ม.ค.แฟนสาวของลูกชายก็ได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ปรากฏว่าลูกชายไม่ได้เดินทางไปรับตามที่นัดกันไว้
นางอะซะโกะกล่าวต่อว่า ทุกคนในครอบครัวจึงแปลกใจมากและเป็นห่วงมาก เพราะเขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน ปกติจะเป็นคนนิสัยดี รักครอบครัว มีความรักผิดชอบ แต่จะชอบในสถานที่ใหม่ๆ และพบเพื่อนใหม่ๆ การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เกรงจะเกิดเหตุร้ายหรือถูกทำร้ายเกิดขึ้น และไม่สามารถติดต่อใครได้ ทำให้ครอบครัวต้องเดินทางมาหาด้วยตัวเอง โดยตามหาสถานที่ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่ติดต่อได้ คือที่พักในถนนข้าวสารและตามร้านอาหารที่ถนนข้าวสาร
“ภาพล่าสุดของลูกชายจะมีลักษณะผมฟูหยิก ยาว และมัดผมไว้ข้างหลัง และบริเวณเท้าซ้ายจะมีรูปรอยสัก ที่เจ้าตัวได้ออกแบบเอง จะไม่ซ้ำแบบใคร อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวมีข้อมูลไม่มากนัก เพราะหลังเรียนจบก็ได้ย้ายไปทำงานที่ออสเตรเลียได้ 1 ปี มีนิสัยชอบท่องเที่ยว และชอบเมืองไทยทั้งที่ จ.เชียงใหม่ และตามเกาะแก่งในภาคใต้มาก โดยเคยมาเที่ยวก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่งแล้ว ก่อนจะหายตัวไปขณะนี้เงินท่องเที่ยวก็น่าจะหมดแล้ว เพราะปกติมีกำหนดกลับประเทศวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาโดยได้จองตั๋วกลับประเทศพร้อมแฟนสาวไว้แล้วด้วย” นางอะซะโกะระบุ
ด้านพล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวว่า หลังผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์จึงได้ซักถามข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นทราบว่าผู้สูญหายเป็นนักศึกษาไปเรียนที่ประเทศออสเตรเลียออกจากประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว 2 ปี แล้วมาเที่ยวที่ประเทศไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ จ.เชียงใหม่ โดยเข้ามาพักอยู่ที่เกสต์เฮาส์ย่านถนนข้าวสารสักระยะ ก่อนมาหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2559 อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามภาพวงจรปิดบริเวณโดยรอบพื้นที่ถนนข้าวสารเพื่อเร่งติดตามหาเบาะแสต่อไป จากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของนายโซนัม นำภาพถ่ายของนายโซนัมไปให้นักท่องเที่ยวและเจ้าของร้านอาหาร บนถนนข้าวสาร เพื่อหาเบาะแสของนายโซนัม
