หนุ่มเปย์ครึ่งล้าน เผยเล่ห์ โปรไฟล์นางฟ้า สร้างเรื่องทายาทเศรษฐี ทำทีใกล้ชิด เสนอตัว!
จากคดี #นัทโอนไว ถูกสาวมิจฉาชีพใช้รูปคนอื่นมาสร้างโปรไฟล์หลอกเงิน ก่อนจะมีชายหนุ่มผู้ถูกกระทำในลักษณะดังกล่าวเริ่มแสดงตัวออกมา ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ “123 คนดีมีน้ำใจ” ซึ่งเป็นต้นเรื่องที่นำเรื่อง #นัทโอนไว มาเปิดเผย ล่าสุด เพจดังกล่าวได้เปิดเผ เรื่องราวของหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน แต่รายนี้หนักสุด สูญเงินกว่าครึ่งล้าน
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พ.ย. ‘ข่าวสดออนไลน์‘ ติดต่อไปยัง นายเติร์ก (นามสมมติ) หนุ่มที่ถูกสาวปลอมโปรไฟล์เป็นนางแบบไต้หวัน พร้อมอ้างว่าทางครอบครัวมีฐานะร่ำรวย มีญาติเป็นนายตำรวจชั้นสูง เพื่อหลอกให้โอนเงินกว่า 500,000 บาท
นายเติร์กกล่าวว่า เมื่อเดือนต.ค.59 ตนรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งผ่านแอพหาคู่ โดยอ้างว่าตัวเองชื่อฟ้า เป็นลูกครึ่งไต้หวัน ครอบครัวและญาติๆ ทำธุรกิจและเป็นนักการเมืองอยู่ไต้หวัน จะเดินทางมาไทยเป็นครั้งคราว ในระหว่างที่คุยกันน.ส.ฟ้า จะส่งรูปที่อยู่ประเทศไทยมาให้ โดยถ่ายกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศ
นอกจากนี้ยังชอบเล่าเรื่องราวครอบครัวให้ฟัง ว่ามีญาติอยู่ประเทศไทยเป็นนายตำรวจชั้นสูง มีสมบัติเก่าแก่ของครอบครัวอยู่ประมาณ 300 ล้านบาท พยายามสร้างโปรไฟล์ให้ร่ำรวย ดูน่าเชื่อถือ เมื่อคุยกันได้ประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก็มีความรู้สึกที่ดีให้ จึงได้นัดเจอกันที่ จ.นครนายก เมื่อถึงเวลานัดน.ส.ฟ้า กลับไม่มาตามนัด แต่กลับส่งคนชื่อหมวยมาแทน อ้างว่าเป็นเลขาฯ ของฟ้า มาดูแลแทน เพราะฟ้าติดธุระด่วนกับญาติ ตนจึงไม่ได้เอะใจอะไร
นายเติร์กกล่าวอีกว่า ต่อมาตนก็ได้คุยกับน.ส.ฟ้า เหมือนเดิม โดยทุกครั้งที่คุยน.ส.ฟ้าจะคุยกับตนตลอด 24 ชั่วโมง พยายามอยากรู้ความเคลื่อนไหวของตนว่าทำอะไรอยู่ เมื่อตนขอดูหน้า น.ส.ฟ้าก็จะโกรธตลอด และเมื่อน.ส.ฟ้าโกรธ น.ส.หมวยก็จะทักมาหาตนบอกว่าช่วงนี้น.ส.ฟ้า อาจจะเครียดเกินไป และบอกตนว่าอย่าคิดมาก และมาปลอบใจตนเสมอ
โดยครั้งแรกที่น.ส.ฟ้า ขอเงินตน บอกว่าจะนำเงินไปซื้อเครื่องปั๊มน้ำ แต่ไม่มีเงินสด ขอให้ตนโอนไปให้ 10,000 บาท ผ่านบัญชีของน.ส.หมวย ซึ่งน.ส.ฟ้าอ้างว่าเปิดบัญชีที่เมืองไทยไม่ได้ ตนจึงโอนไป หลังจากนั้น น.ส.ฟ้ามาขอยืมเงินตนโดยอ้างเหตุผลว่า ครอบครัวของเธอถูกรัฐบาลจับตามองว่ามีการฟอกเงินเพราะมีมรดกเยอะ มีเงินหลายร้อยล้าน เธอเครียด ไม่อยากขอเงินพ่อแม่ จึงขอยืมเงินก่อน ตนจึงให้ไป หลายครั้ง รวมกว่า 500,000 บาท
นายเติร์กกล่าวต่อว่า ต่อมาตนเองเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงได้สืบหาข้อเท็จจริง โดยระหว่างนั้นก็ได้พยายามนัดเจอกับน.ส.ฟ้าตลอด แต่ก็ไม่มา จะส่งน.ส.หมวยมาแทนทุกครั้ง โดยน.ส.หมวยพยายามใกล้ชิดตนมาก จะคอยโทร.หาตลอด พักหลังก็มาบอกชอบตน แต่ตนไม่ได้ชอบ จึงปฏิเสธไป
แต่ระหว่างนั้นน.ส.หมวยก็พยายามจะมีเพศสัมพันธ์กับตน แต่ตนไม่ยินยอม นอกจากนี้น.ส.หมวย ยังมีพฤติการณ์ชอบศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายและดูหนังการ์ตูน เกี่ยวกับสืบสวนสอบสวนด้วย
ระหว่างที่คุยกัน ตนก็มีสืบเรื่องราวมาตลอด กระทั่งพบว่าน.ส.ฟ้า ได้พูดคุยกับชายคนอื่นในแอพหาคู่เหมือนกัน ตนจึงติดต่อไปหาผู้ชายคนดังกล่าว ถามว่ารู้จักคนที่ชื่อน.ส.หมวย หรือไม่ ผู้ชายคนดังกล่าวยืนยันว่า ไม่รู้จัก
จากนั้นตนติดต่อไปยังนางแบบสาวไต้หวัน ที่น.ส.ฟ้า นำรูปมาขึ้นโปรไฟล์ พร้อมสอบถามว่ารู้จักกับ น.ส.หมวยหรือไม่ ซึ่งนางแบบสาวคนดังกล่าวยืนยันว่าไม่รู้จักอย่างแน่นอน ตอนนั้นจึงทราบว่าตนเองถูกหลอกแน่นอนแล้ว
นายเติร์กกล่าวว่า นอกจากนี้ ตนยังมาทราบภายหลังว่าน.ส.ฟ้า กับน.ส.หมวย คือคนคนเดียวกัน ตนบอกกับน.ส.หมวยว่าทราบความจริงหมดแล้ว พร้อมบอกขอเงินทั้งหมดคืน แต่น.ส.หมวยกลับต่อว่าตน พร้อมกับพูดจาเสียหาย ตนจึงนัดเจรจากับน.ส.หมวย ที่ สน.ลาดพร้าว
โดยน.ส.หมวยบอกว่า ตัวเองรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ให้เข้าไปชี้แจงเรื่องเลย แต่ น.ส.หมวยไม่ยอมมา ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ทราบว่ากรณีดังกล่าวเป็นการให้เงินเพราะความเสน่หา
“ผมไม่หวังว่าจะได้เงินคืน แต่ต้องการนำเรื่องราวมาเปิดเผยให้สังคมรับรู้ และให้เป็นบทเรียนว่าอย่าไว้ใจใครในโลกออนไลน์ พร้อมกับอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวน.ส.หมวย มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากคิดว่าอาจจะมีหลายคนที่ถูกน.ส.หมวย หลอกเช่นกัน“ นายเติร์กกล่าว
