เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่ห้องประชุมอาคารข่าวสด เครือมติชน ร่วมกับจังหวัดบึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)บึงกาฬ พร้อมหน่วยงานราชการและภาคเอกชน จัดแถลงข่าว “งานวันยางพารา บึงกาฬ 2562” ซึ่งงานจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 13-19 ธ.ค.2561 ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จ.บึงกาฬ ภายใต้แนวคิด“บึงกาฬ ศูนย์กลางยางพารา เศรษฐกิจก้าวหน้า การค้าก้าวไกล”

 

โดยมีนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ผู้ริเริ่มการจัดงาน และในฐานะประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯบึงกาฬ, นายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นายเฉิน หู้เซิง ผู้อำนวยการฝ่ายประเทศไทย บริษัท รับเบอร์ วัลเล่ย์ กรุ๊ป จำกัด ประเทศจีน และผอ.ศูนย์วิจัยวิศวกรรมยางแห่งชาติประเทศจีน ประจำประเทศไทย

 

พร้อมด้วยนายประชา เกษลี ผอ.โครงการชลประทานบึงกาฬ กรมชลประทาน, นายนพรัตน์ วิชิตชลชัย ผอ.กลุ่มอุตสาหกรรมยาง สถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย, ผศ.ดร.ระพีพันธ์ แดงตันกี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ , นายเอกสิทธิ์ สุนทรนนท์ ผจก. ฝ่ายบริหารข้อมูลข่าวสารธุรกิจ และสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด นายประยุทธ์ พุทธาโกฐิรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ คิว จำกัด (มีดนกเงือก), นายจุลเทพ ขจรไชยกุล ผอ.ศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค), นายบัญชา ธนบุญสมบัติ ผอ.ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และน.ส.ปานบัว บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมงาน

นอกจากนี้มีผู้แทนองค์กรหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วย สำนักงานจังหวัดบึงกาฬ, องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ, คาราบาว เครื่องดื่มระดับโลก, การยางแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, กลุ่มบริษัท ประวิทย์กรุ๊ป จำกัด,

 

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, บริษัท ไทยฮั้วระยองยางพารา จำกัด, บริษัท อี้ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท หวาอี้ กรุ๊ป(ประเทศไทย), จำกัด, บริษัท เซาท์แลนด์ รีซอร์ซ จำกัด, ปุ๋ยไข่มุก ตราเรือใบไข่มุก บริษัท ไฮโดรไทย จำกัด, ปุ๋ยมรกต ตรารุ่งอรุณ บริษัท ปุ๋ยไวกิ้ง จำกัด, บริษัท ซูซูกิเจียงอุดร จำกัด, บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด, บริษัท มิตซูเจียงหนองคาย จำกัด, บริษัท ไทยยานยนต์ จำกัด , บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

นายพินิจ กล่าวว่า ครั้งนี้จัดเป็นปีที่7แล้ว จัดระหว่างวันที่ 13 – 19 ธ.ค. ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ภายใต้แนวคิด “บึงกาฬ ศูนย์กลางยางพารา เศรษฐกิจก้าวหน้า การค้าก้าวไกล” ปีนี้มีพันธมิตรมาร่วมกันจัดเพิ่มขึ้นเป็น 29 องค์กร ที่ผ่านมาการจัดวันยางพาราบึงกาฬในปีก่อนก่อให้เกิดนวัตกรรมขึ้นมามากมาย และส่งผลให้มีการตั้งโรงงานแปรรูปน้ำยางพาราเป็นหมอนและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการทำถนนที่มีส่วนผสมของยางพารา

“บึงกาฬยังคงเป็นจังหวัดในภาคอีสานที่ปลูกยางมากเป็นอันดับหนึ่ง ประมาณ 1.3 ล้านไร่ วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานคือต้องการให้เกษตรกรที่ปลูกยางพาราสามารถนำน้ำยามาแปรรูป โดยทำตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ เป็นการเพิ่มมูลค่า ไม่ใช่ขายแค่น้ำยางในขณะที่ทุกวันนี้ราคาน้ำยางตกต่ำมาก ซึ่งการที่ยางราคาตกไม่ใช่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีคนไหน แต่ขึ้นอยู่กับราคาน้ำยางในตลาดโลก ประกอบกับผู้ใช้ยางพารารายใหญ่ยังเก็บสต็อกยางพาราไว้มากพอ ทำให้แรงซื้อในตลาดไม่สูงมาก ส่งผลให้ราคาซื้อขายในตลาดอยู่ในทิศทางขาลง และปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา อีกทั้งมีปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ”นายพินิจกล่าว และว่า ปีนี้มีชาวเวียดนามให้ความสนใจเข้ามาร่วมงานด้วย นอกเหนือจากลาวที่มาทุกปี นอกจากนี้ทางบริษัท รับเบอร์ วัลเล่ย์ฯ ที่เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลจีน ยังจะนำนวัตกรรมการกรีดยางที่ทันสมัยที่สุดมาโชว์ด้วย

 

“ผู้ค้ายางจากเมืองยูนนาน นครคุนหมิงเตรียมนำเสนอนวัตกรรมเครื่องกรีดยางรุ่นใหม่ ทำงานด้วยระบบมอเตอร์ โดยอาศัยแรงคนกรีดยางตามปกติ แต่กรีดยางได้เร็วกว่าเดิม แถมได้หน้ายางเรียบ ช่วยยืดอายุการกรีดต้นยางได้ยาวนานขึ้น โดยทั่วไป แรงงานที่ใช้มีดกรีดยางทั่วไป จะกรีดยางได้ 700-800 ต้น/คน/วัน แต่นวัตกรรมชิ้นนี้ จะทำให้กรีดยางได้มากกว่าเดิม เฉลี่ย 1,000 ต้น/คน/วัน”

 

ด้านนายนิรัตน์ กล่าวว่า ตนสั่งการให้องค์กรปกครองท้องถิ่นและหน่วยราชการต่างๆ ใช้งบประมาณในการทำถนนยางพาราแอสฟัลท์และถนนพาราดินซีเมนต์ รวมทั้งสั่งการให้โรงพยาบาลและหน่วยงานราชการที่จำเป็นต้องใช้หมอนและที่นอนสั่งซื้อที่นอนและหมอนที่ทำจากยางพารา เพื่อช่วยให้มีการระบายการใช้น้ำยางพาราให้มากที่สุด

 

นายเฉินกล่าวว่า ทางบริษัทสั่งซื้อหมอนจากชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬ จำกัด ล็อตแรก 2,001 ใบ หากตลาดไปได้ด้วยดี คาดว่าปีหน้าจะสั่งซื้อเป็นหมื่นหรือแสนใบก็ได้ และได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ”บึงกาฬ” โดยปรึกษาหารือกับทางผู้ใหญ่ของจังหวัดบึงกาฬเรียบร้อยแล้ว และอนุญาตให้ใช้ชื่อนี้เพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัดไปในตัว ยืนยันได้ว่าหมอนยางพาราราของบึงกาฬคุณภาพดีมากเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีน

 

นายนิพนธ์กล่าวว่า ปีที่แล้วทางชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬ จำกัด ขายหมอนยางพาราใบละ 360 บาท แต่ปีนี้จะขายถูกกว่านี้

 

นายกมลดิษฐ์กล่าวว่า วันที่ 13 ธ.ค. ที่เป็นวันเปิดงาน จะมีการแสดงคอนเสิร์ตเต็มวงของคาราบาว นำโดยแอ๊ด คาราบาว และหากซื้อเครื่องดื่มคาราบาวจะมีคูปองให้ชิงโชคทั้งทีวี ตู้เย็นและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ นอกจากนี้ทางคาราบาวยังให้การสนับสนุนการแข่งขัน “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2019″
สำหรับการจัด”วันยางพาราบึงกาฬ 2562” ได้ยกระดับการจัดงานยิ่งใหญ่กว่าครั้งที่ผ่านๆ มา เพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ “สนับสนุน” ให้เกิดการผลิต การแปรรูป และการวิจัยอุตสาหกรรมยางพารา เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยางพาราในจังหวัดบึงกาฬ “ผลักดัน” การค้าขายและการลงทุนของอุตสาหกรรมยางพาราและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง “ส่งเสริม” การท่องเที่ยวในจังหวัดเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างแหล่งรายได้เสริมให้กับพี่น้องชาวบึงกาฬ อีกทั้งเสริมศักยภาพของเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อตอกย้ำการเป็นเมืองศูนย์กลางยางพาราของภาคอีสานที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดยในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากบริษัทและอุตสาหกรรมการค้ายางพาราจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมจัดแสดงนิทรรศการและนวัตกรรมยางพาราในโซน China Pavilion อันเป็นการต่อยอดธุรกิจยางพาราของบึงกาฬ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจการค้ายางพารา สู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราของภาคอีสาน ที่สำคัญคือเป็นการเปิดประตูการค้าระดับนานาชาติ

 

พร้อมกันนี้ มีการจัดแบ่งโซนนิทรรศการและกิจกรรมออกเป็น 12 โซน อาทิ โซนบึงกาฬรวมใจ เทิดไท้องค์ราชา จัดแสดงสวนไฟเฉลิมพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยนิทรรศการ “ปกแผ่นดิน…บดินทร” เล่าเรื่องจากปกหนังสือพิมพ์ หนังสือ และนิตยสารต่างๆ ตั้งแต่ประสูติจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงนิทรรศการภาพกิจกรรมจิตอาสาโครงการ “เราทำความดีด้วยหัวใจ” และภาพที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวบึงกาฬ โซนบึงกาฬเมืองก้าวหน้า นำเสนอยุทธศาสตร์ทิศทางการพัฒนาและวิสัยทัศน์ในการสร้างบึงกาฬให้น่าอยู่ ยุทธศาสตร์และผลงานที่พร้อมผลักดันให้ชุมชนเข้มแข็งขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ เรียนรู้ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” กับศูนย์การเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา พร้อมกิจกรรมร่วมแสดงความคิดเห็น “ไปไหนดีที่บึงกาฬ”

 

โซนบึงกาฬลานเด็กเล่น ปีนี้มีความพิเศษที่กิจกรรมห้องเรียนธรรมชาติ กับการสอนทักษะดูนกเบื้องต้น และพาไปดูนกที่บึงโขงหลง พื้นที่ชุ่มน้ำโลกในจังหวัดบึงกาฬ ที่มีนกกว่า 167 ชนิด, ห้องเรียนท้องฟ้าและวิทยาศาสตร์ สนุกได้ความรู้กับการดูเมฆ, ห้องเรียนศิลปะกับเทคนิคการระบายสีไม้ สีน้ำ วาดการ์ตูน และกิจกรรมมหัศจรรย์การพับกระดาษแบบโอริงามิ “เสกกระดาษ…สร้างศิลป์สนุก”

 

นอกจากนี้มี โซนเปิดโลกยางพารา นวัตกรรมการค้าและการลงทุน นำเสนอนิทรรศการความสามัคคีในกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางในจังหวัดบึงกาฬ นำไปสู่การรวมกลุ่มกันจัดตั้งสหกรณ์กองทุน สวนยางจังหวัดบึงกาฬ “บึงกาฬรับเบอร์กรุ๊ป” รวมถึง “บึงกาฬโมเดล” นำเสนอความเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ถือเป็นจุดแข็งในการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราของบึงกาฬที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ อีกทั้งยังมีการลงนามความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารากับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ จังหวัดบึงกาฬยังเป็นต้นแบบของการศึกษาดูงานเพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมจนประสบความสำเร็จ เช่น โรงงานยางแผ่นรมควันและโรงงานผลิตยางแท่ง STR20 ของสหกรณ์กองทุนสวนยาง อำเภอบ่อทอง จำกัด จังหวัดชลบุรี โดยในโซนนี้ ยังได้นำเสนอการต่อยอดไปสู่นวัตกรรมต่างๆ อาทิ สนามฟุตซอลจากยางพารา 100% และหมอนยางพารา ของชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬ

 

โซนเวทีปราชญ์ชาวบ้าน รวบรวมหัวข้อเสวนา และวิทยากรที่ดีที่สุดมาให้ความรู้ในเรื่องยางพารา เพื่อสร้างความรู้สู่รายได้ ด้วยการให้ความรู้ด้านการผลิต การแปรรูป และการวิจัยอุตสาหกรรมยางพารา จากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมถึงปราชญ์แผ่นดิน และเกษตรกรตัวอย่าง อาทิ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำเสนอผลงานนวัตกรรมจากยางพารา, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กับนวัตกรรม “สารจับยาง IR” สำหรับน้ำยางพาราความเข้มข้นต่ำ ที่ใช้สำหรับแยกเนื้อยางพาราออกจากน้ำ ช่วยแก้ปัญหาน้ำยาง DRC (Dry Rubber Content) ต่ำ พร้อมการเสวนา “ถนนยางพาราดินซีเมนต์ ทางรอดของการใช้ยางพารา” อีกหนึ่งผลงานการต่อยอดยางพาราจาก มจพ. และ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) จะมาให้ความรู้ พร้อมกับการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เพื่อชาวสวนยางพารา อาทิ “สารบีเทพ (BeTHEP)” สำหรับรักษาสภาพน้ำยางสดเพื่อแปรรูปยางแผ่น ช่วยยืดอายุยางสดได้นานกว่าเดิม, “ParaFIT” น้ำยางพาราข้นสำหรับทำผลิตภัณฑ์โฟมยางที่มีจุดเด่นเรื่องปริมาณแอมโมเนียต่ำกว่าน้ำยางพาราข้นทางการค้า 30 – 75% และ “กาวดักแมลงจากน้ำยางพารา (ParaTRAP)” พัฒนาและออกแบบให้สะดวกต่อการใช้งาน

 

ในโซนนี้ยังมีกิจกรรมสาธิตเมนูอาหาร โดยเชฟจารึก ศรีอรุณ อาจารย์ประจำหลักสูตรอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ศูนย์ปฏิบัติการอาหารนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เพื่อให้พี่น้องที่สนใจได้นำความรู้ไปเป็นช่องทางเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนไฮไลท์สำคัญในภาคบันเทิงของงานปีนี้ คือ การแข่งขัน “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2019” แชมป์ชนแชมป์ จากโรงเรียนแชมป์ถ้วยพระราชทานฯ ได้แก่ โรงเรียนเทพมิตรศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการนนทบุรี, โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา, โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์ จ.อ่างทอง, โรงเรียนบึงกาฬ จ.บึงกาฬ และโรงเรียนประจำอำเภอ ทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดบึงกาฬ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 500,000 บาท โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านดนตรีระดับประเทศ ได้แก่ ครูสลา คุณวุฒิ, ครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่, และครูเรืองยศ พิมพ์ทอง มาเป็นคณะกรรมการตัดสิน

 

ภายในงานยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกมากมาย อาทิ การแข่งขันกรีดยางพาราชิงแชมป์ประเทศไทย, การแข่งขันลับมีดกรีดยางพารา, การแข่งขันกองเชียร์ยางพารา และพลาดไม่ได้กับครั้งแรกของการแข่งขันบึงกาฬฟุตซอลคัพ 2019 รวมทั้งคอนเสิร์ตส่งท้ายปีจากศิลปินระดับประเทศ รวมไปถึงกิจกรรม “Check in Bueng Kan” ที่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้โพสต์ภาพบรรยากาศภายในงาน พร้อมติด #RubberDay2019 และกิจกรรม “Bueng Kan Passport” เพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษภายในงาน
//////


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน