ร่างทรงหื่นลวงสาว 22 น.ศ.ราชภัฏทำพิธีครอบครู ที่สำนักทรง อ.สอง พี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ก่อนให้ดื่มน้ำชาผสมยาฆ่าหญ้าจนเหยื่อหมดแรงแล้วขืนใจกระทั่งสาวช็อกตายอนาถ หลังก่อเหตุนำศพไปทิ้งบนคันนาไม่ไกลจากสำนักทรง ก่อนกลับไปใช้ชีวิตปกติทำเหมือนไม่มีอะไร กระทั่งตำรวจบุกรวบตัวคาสำนักทรง สารภาพสิ้นแอบหลงรักผู้ตายข้างเดียวเลยก่อเหตุโหด ชาวบ้านฮือรุมประชาทัณฑ์ขณะทำแผนฯ จนชุลมุน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ม.ค. พล.ต.ต. สุคุณ พรหมายน ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี สั่งการ พ.ต.อ.วิสูตร สถิตย์ ผกก.สภ.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มาสอบสวนเพิ่มเติมนายกฤษฎา ใจเอื้อย อายุ 20 ปี ร่างทรงและเจ้าสำนักทรงปู่เจ้าเสือ เลขที่ 209/1 ม.11 ต.ทุ่งคอก ผู้ต้องหาลวงนักศึกษาสาวอายุ 22 ปี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง ดื่มน้ำผสมยาฆ่าหญ้าแล้วก่อเหตุขืนใจจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปทิ้งไว้บนคันนาไม่ไกลจากสำนักทรง จนมีชาวบ้านมาพบศพในช่วงบ่ายวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่บุกจับตัวนายกฤษฎาคาสำนักทรงเมื่อกลางดึกวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

นายกฤษฎาให้การว่า รู้จักกับผู้ตายประมาณ 1 ปี ผ่านทางญาติซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องและเป็นเพื่อนกับผู้ตาย โดยพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊กและชักชวนมาทำพิธีครอบครู ที่ผ่านมาผู้ตายมาเข้าพิธีประมาณ 5 ครั้ง ทำให้แอบชอบผู้ตายข้างเดียว วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ออกอุบายให้ผู้ตายมาหาเพื่อทำพิธีครอบครูให้ เมื่อผู้ตายมาถึงบ่นปวดท้อง จึงนำน้ำชาผสมยาฆ่าหญ้าให้ดื่ม

กระทั่งผู้ตายมีอาการสะลึมสะลือ อาเจียนจนหมดแรง จึงฉวยโอกาสลงมือขืนใจ จนพบว่าผู้ตายเกิดอาการช็อกและเสียชีวิตไปแล้วจึงนำศพใส่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปทิ้งที่คันนา กลางทุ่งนาบ้านปากคอก ห่างจากสำนักทรง 2 กิโลเมตร บริเวณจุดที่พบศพ แล้วใช้ถุงปุ๋ยปิดอำพรางศพพร้อมวางอิฐบล็อกทับอีก 1 ก้อน ก่อนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งถูกตำรวจบุกจับตัวในช่วงค่ำวันเดียวกัน

จากนั้นพ.ต.อ.วิสูตร พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำกำลังตำรวจและทหารกว่า 100 นาย ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่สำนักทรงและบริเวณคันนาจุดที่ทิ้งศพ โดยมีชาวบ้านกว่า 300 คนที่ทราบข่าวมารอดูพร้อมตะโกนสาปแช่งด้วยความโกรธแค้น ช่วงที่ตำรวจคุมตัวนายกฤษฎาชี้จุดที่ทิ้งศพมีชาวบ้านหลายคนวิ่งฝ่าที่กั้นลุยข้ามท้องนาจะมารุมประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องรีบ ทำแผนแล้วนำตัวนายกฤษฎาขึ้นรถตู้กลับสภ.ทุ่งคอก ทันที เพราะเกรงว่าอาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ เนื่องจากชาวบ้านมีความโกรธแค้นอย่างมาก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่าฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนา และข่มขืนกระทำชำเรา จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปิดบังซ่อนเร้นศพ ก่อนนำส่งฝากขังศาลจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมของกลางประกอบด้วย โทรศัพท์ของผู้ตาย 2 เครื่อง กระเป๋าใส่เสื้อผ้าของผู้ตาย 1 ใบ กระป๋องยาฆ่าหญ้า และอื่นๆ พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ

ด้านร่างทรงแป๊ะทง (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 75 ปี ยายของนายกฤษฎา เผยว่า เป็นร่างทรงมานานกว่า 30 ปี เป็นที่นับถือของชาวบ้านและมีลูกศิษย์จำนวนมาก ส่วนนายกฤษฎาเป็นลูกของลูกสาวที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ เพิ่งมาประทับร่างทรงได้เพียงปีกว่า ปกติช่วงเย็นหลานชายจะไปช่วยขายน้ำดื่มหน้าโรงเรียน เป็นคนไม่ค่อยพูดมักเก็บตัวเงียบ แต่จะมีคนมาให้ดูดวงและเข้าพิธีครอบครูเป็นประจำ โดยวันที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้านเพราะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เหลือเพียงนายกฤษฎาอยู่เพียงลำพัง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เรื่องคดีความไม่ขอพูดถึงแล้ว ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

ขณะที่นายสุรพล ตันกสิกิจ นายก อบต.ทุ่งคอก กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญ คนในหมู่บ้านเองยังไม่คิดว่านายกฤษฎาจะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมขนาดนี้ เท่าที่สืบทราบประวัติมาพบเคยมีคดียาเสพติดและมีคดีลักขโมย ในฐานะผู้นำชุมชนจะประสานขอกำลังตำรวจและทหารตรวจสอบสำนักร่างทรงต่างๆ ในพื้นที่ และขอความร่วมมือจากชาวบ้านหากพบเห็นหรือมีเบาะแสของผู้กระทำการไม่ดีขอให้แจ้งตำรวจทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน