พ่อแม่น.ร. “ป.5” ร้องมูลนิธิปวีณาฯ โวยครูปล่อยคนแปลกหน้ามารับลูกจากโรงเรียนไปขืนใจ-ขู่ฆ่า ทั้งที่อยู่ในเวลาเรียน ระบุข้องใจทำไมไม่ติดต่อสอบถามมายังผู้ปกครองก่อน อีกทั้งวันเกิดเหตุยังไม่ให้ดูกล้องวงจรปิด ขณะนี้ลูกหวาดผวาจนไม่กล้าไปโรงเรียน ด้านปวีณาแจ้งกระทรวงศึกษาฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมประสานนักจิตวิทยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก
เมื่อ เวลา 14.30 น. วันที่ 21 ก.ย. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายภูมิ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี และนางอ้อม (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา พาน้องลำไย (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ บุตรสาว นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เข้าร้องทุกข์กับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีครูปล่อยให้ชายแปลกหน้ามารับลูกสาวออกไป นอกโรงเรียนจนถูกบังคับพาไปข่มขืนและขู่ฆ่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายภูมิเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุไปส่งลูกเข้าไปในโรงเรียนตามปกติ หลังนักเรียนเข้าแถวร้องเพลงชาติเสร็จมีชายแปลกหน้าขับขี่จักรยานยนต์มาจอด หน้าโรงเรียนแล้วแจ้งกับครูว่าจะขอรับน้องลำไย โดยอ้างว่าผู้ปกครองให้มารับเดี๋ยวจะพามาส่ง จากนั้นเวลาประมาณ 10 โมงเช้าครูประจำชั้นก็พบลูกสาวอยู่หน้าโรงเรียนสภาพเนื้อตัวมอมแมม จึงโทร.มาหาผู้ปกครอง เมื่อตนไปถึงก็บอกครูว่าไม่ได้ให้ใครมารับลูก เมื่อสอบถามลูกถึงได้รู้ว่ามีชายวัยรุ่นมาอ้างกับครูว่าแม่ให้มารับกลับบ้าน แล้วพาออกจากโรงเรียนไปกระทำชำเราในป่าหญ้า ครูประจำชั้นถามลูกว่าครูคนไหนปล่อยให้ไปก็ทราบว่าเป็นครูเวร และครูเวรก็รู้ว่า คนที่มารับเป็นอดีตนักเรียนที่เรียนจบจากโรงเรียนไปแล้ว
นาย ภูมิกล่าวต่อว่า จากนั้นตนไปแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ มี ร.ต.อ.อิทธิเดช เทศกุลวิเศษ เป็นร้อยเวรและเดินทางมาสอบถาม ครูเวร ก่อนตามไปจับคนร้ายได้ที่บ้านพัก ชื่อนายสมชาย เสียงเอก อายุ 21 ปี พร้อมรถจักรยานยนต์ ทะเบียน ขทย 97 สระบุรี เหล็กแหลมยาว 10 ฟุต เสื้อแจ๊กเกต 1 ตัว ซึ่งยอมรับว่ามารับลูกสาวไปข่มขืนในซอยเปลี่ยวห่างจากโรงเรียนกว่า 10 ก.ม. แล้วข่มขู่หากนำเรื่องไปบอกครูหรือพ่อแม่จะฆ่าให้ตาย จนลูกสาวเกิดความกลัวไม่กล้าไปโรงเรียนอีก
“ตั้งแต่เกิด เรื่องลูกสาวผมมีอาการซึมเศร้า หวาดผวากลัวคนจะมาทำร้ายตลอดเวลา ที่ผ่านมาครูไม่เคยมาสอบถามหรือเป็นห่วงเด็กแม้แต่น้อย ผมข้องใจโรงเรียนปล่อยให้เด็กไปกับคนอื่นทั้งที่ไม่ใช่พ่อแม่ ตอนไปขอดูกล้องวงจรปิดก็ไม่ได้รับความร่วมมือ และไม่มีครูคนไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบ ขณะนี้ลูกสาวหยุดเรียนไม่มีกำหนดและเป็นช่วงใกล้การสอบด้วย ฝากเตือนผู้ปกครองให้ระมัด ระวัง ให้โรงเรียนประสานผู้ปกครองทุกครั้งก่อนให้เด็กไปกับคนแปลกหน้า ผมยังโชคดีที่ได้ลูกสาวที่มีชีวิตกลับคืนมา ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย” นายภูมิกล่าว
ด้านนางอ้อมกล่าว ว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยถ้าครูไม่ปล่อยเด็กออกไปนอกโรงเรียนกับคนอื่น ทั้งที่ยังอยู่ในเวลาเรียน ครูเวรทำไมไม่ติดต่อมาที่ผู้ปกครองก่อน คนเป็นพ่อเป็นแม่คิดว่าโรงเรียนเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด และครูก็เหมือนพ่อแม่คนที่สองไม่น่าทำอย่างนี้ ถ้าเป็นลูกของครูถูกกระทำเช่นนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไร ครอบครัวตนจึงต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและขอให้ตรวจสอบการ กระทำของครู ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก
ขณะ ที่นางปวีณาเปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องอุกอาจมากเพราะคนร้ายไปรับเด็กถึงโรงเรียน การจะให้เด็กไปกับใครจะต้องขออนุญาตและความยินยอมจากผู้ปกครอง มีการลงบันทึกว่ามีใครเป็นผู้มารับแทน ซึ่งได้ประสานไปยังกระทรวงศึกษาฯ ขอให้ตรวจสอบและพิจารณาโทษครูที่บกพร่อง ส่วนเรื่องเด็กใกล้สอบนั้นจะขอให้จัดสอบนอกรอบอีกครั้ง สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือสุขภาพและจิตใจของเด็ก โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะพาไปตรวจร่างกายอีกครั้งพร้อมฉีดยาป้องกันโรค พร้อมประสานกรมคุ้มครองสิทธิฯ เพื่อรับเงินเยียวยา และให้นักจิตวิทยาเข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กต่อไป
วันเดียวกัน พ.ต.ต.เทอด หาญณรงค์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองเสือ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์จากแพทย์ร.พ.หนองเสือ ซึ่งจะทราบผลภายใน 1 เดือน ส่วนผู้ต้องหาถูกส่งไปฝากขังที่เรือนจำธัญบุรีแล้ว โดยคัดค้านการประกันตัวด้วย พร้อมทั้งแจ้ง 3 ข้อหา คือ ข่มขืน พรากผู้เยาว์ และข่มขู่จะทำร้ายด้วยอาวุธ เมื่อพยานหลักฐานครบก็จะส่งฟ้องต่อไป
ส่วน บรรยากาศที่โรงเรียน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่าโรงเรียนแห่งนี้ไม่มีผู้อำนวยการมา 2 ปีแล้ว มีแต่ครูชั้นผู้น้อย ดังนั้น การให้ข่าวหรือให้ข้อมูลถือว่ามีความผิด แม้แต่ภาพกล้องวงจรปิดที่ผู้ปกครองเด็กมาขอดูก็ให้ไม่ได้ วันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุบอกว่าแม่เด็กให้มารับ และเด็กมาขออนุญาตหลายครั้งจึงยอมให้ออกไป เพราะเห็นว่าเด็กกับผู้ก่อเหตุรู้จักกัน เพียงแต่ครูไม่ได้โทรศัพท์ไปสอบถามแม่เด็กก่อน จึงเกิดความเสียหายทั้งเด็กและโรงเรียนขึ้น ดังกล่าว
