โจรสาว น้ำตานองหน้า นัท โอนไว เผยมีปมความรัก ชี้ยังมีเหยื่อโอนอีกเป็นแสน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ธันวาคม ที่กองกํากับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เป็นต้น

ได้ร่วมกันจับกุมตัวนางนันท์นลิล ภควัตสุวรรณ หรือผึ้ง อายุ 32 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 17/53 หมู่ที่ 2 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ จ.58/2560 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ในข้อหาฉ้อโกง โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าอาคาร 6 การเคหะร่มเกล้า เลขที่ 123/23 ซอยการเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

นางนันท์นลิล กล่าวทั้งน้ำตา ว่า สาเหตุที่ก่อเหตุ เพราะไม่มีเงิน และต้องเลี้ยงลูก 2 คน โดยก่อนหน้านี้เคยเล่นมาแล้วหลายแอป แต่ไม่สำเร็จ จนมาเจอแอปนี้ และก่อเหตุมา 6-7 ครั้ง ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งคนที่เสียเงินมากที่สุดคือ 1 แสนบาท แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความ และอยากขอโทษผู้เสียหายทั้ง 2 รายทำให้เดือดร้อน ส่วนภาพที่เลือกนั้นเพราะเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกับผู้เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนันท์นนิล ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายทั้งสองราย พร้อมทั้งร้องไห้ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาตัวเข้าไปสอบปากคำต่อ

ด้าน นายสรฉัตร ผลวัฒนา หรือ เจ้าของฉายา “นัท โอนไว” ได้เดินทางมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ พร้อมเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ตำรวจจับคนร้ายได้ ส่วนตัวได้ไปไหว้พระ 9 วัดที่ภาคอีสาน เพราะไม่อยากให้คนร้ายไปก่อเหตุลักษณะนี้กับใครอีก และหลังจากที่เกิดเหตุก็มีผู้หญิงทักมาให้โอนเงินให้

เช่น เติมเงินโทรศัพท์ แต่ก็ไม่ได้โอนให้ใคร ซึ่งจะโอนให้เฉพาะคนที่สนิทเพียงเท่านั้น หลังจากที่คนร้ายยกมือไหว้ขอโทษ ตนก็ยกโทษให้และไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก ส่วนเงินที่โอนไปให้ ก็ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะไม่ได้คืน

นายสรฉัตร กล่าวอีกว่า ตนเป็นคนมีปมในเรื่องของความรัก ทุกครั้งที่คบกับใคร ฝ่ายหญิงจะเป็นคนปลีกตัวออกและบอกเลิกตนเสมอ ตนคิดว่า อายุก็มากขึ้นแล้ว ตนก็อยากมีครอบครัวเหมือนคนอื่น ตนจึงได้มีการพูดคุยกับผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิต

“ก่อนหน้านี้ ผมก็เคยโดนผู้หญิงหลอกมาเหมือนกัน โดยเสียเงินประมาณ 3,000 บาท ตอนนั้น ห่างจากการคุยกับผู้หญิงสักพัก จนกระทั่งรายล่าสุด ผู้ต้องหาได้เข้ามาคุยกับตน ในตอนนั้น ผมเหงา และอยากเจอเนื้อคู่ จึงได้ตัดสินใจคุย และให้ใจไปบ้างแล้ว จึงยอมโอนเงินให้ เพราะจริงใจ ไม่คิดว่าจะถูกหลอก”

ด้าน น.ส.อริยพัช หรือ จี มีแก้ว อายุ 37 ปี อาชีพแม่ค้าขายของออนไลน์ และเป็นผู้ที่ถูกคนร้ายใช้รูปไปหลอกลวงผู้อื่น เปิดเผยว่า อยากให้คนร้ายกลับตัวกลับใจ ตนก็ไม่อยากเดือดร้อน ที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งเมื่อคนร้ายขอโทษ ตนก็พร้อมยกโทษให้ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะขายของออนไลน์ต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.กองวิเคราะห์ข่าว เผยว่า การจับกุมในครั้งนีัเป็นการจับตามหมายของ สน.พระราชวัง ซึ่งก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยคนร้ายรับว่า เอาเงินไปใช้ส่วนตัว โดยก่อนหน้านี้เคยใช้บัญชีธนาคารของตนเองแต่กลัวตำรวจจับได้ จึงเปลี่ยนเลขบัญชีเป็นของมารดา ซึ่งตำรวจต้องเอาไปตรวจสอบ ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ และต้องประสานธนาคารเพื่อตรวจสอบบัญชี หลังจากนี้ตำรวจจะนำตัวส่งสน.พระราชวัง และหากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมก็จะอายัดตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน