แยกรัชโยธินวุ่นอีก หลังปรับระบบจราจรเป็นวงเวียนวันแรกเพื่อใช้พื้นที่ขุดอุโมงค์ลอดทางแยกและสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ผู้ใช้รถสับสนเข้า ช่องทางไม่ถูกทำรถติดหนึบเป็นวงกว้าง รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมบก.จร.ร่วมตัวแทนผู้บริษัทรับเหมา สั่งให้ปรับขนาดวงเวียนลง เพิ่มช่องจราจรเป็น 4 เลน เร่งระบายรถ พร้อมระดมตำรวจช่วยโบกรถเสริมการเปิดสลับสัญญาณไฟ และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ทางรับทราบ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ม.ค. พล.ต.อ. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาด้านการจราจร บริเวณแยกรัชโยธินซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างทางลอดแยกรัชโยธิน และรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) โดยมีพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. ตัวแทนจากบริษัทอิตาเลียนไทย เข้าร่วมประชุม หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เริ่มปรับระบบจราจรบริเวณ ดังกล่าวเป็นวงเวียนวันแรก แต่การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ทำให้ส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง

พล.ต.อ.เดชณรงค์เผยว่า การดำเนินการขุดสร้างอุโมงค์ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว โดยใช้ระยะเวลา 3 เดือน จึงต้องทำพื้นผิวการจราจรด้านบนให้เป็นลักษณะวงเวียน เบื้องต้นหลังจากที่เปิดให้ใช้งานวงเวียนแล้วคาดว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงแก้ไขปรับวงเวียนให้เล็กลงและเพิ่มช่องทางจราจรเป็น 4 ช่องทาง เพื่อระบายการจราจรได้มากยิ่งขึ้น

แต่เมื่อช่วงเช้าที่การจราจรติดขัดนั้นประชาชนยังไม่คุ้นชินกับเส้นทางใหม่ จากนี้สิ่งที่ต้องทำขณะนี้คือสร้างการรับรู้และประชา สัมพันธ์ให้ประชาชนที่ต้องสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว หากผู้ใดไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น สำหรับเส้นทางหลีกเลี่ยงสามารถใช้เส้นวิภาวดีฝั่งขาเข้า ลาดพร้าว พหลโยธิน 21 และรามอินทรา ส่วนเส้นทางลัดที่มีผู้จอดรถกีดขวางจะให้ตำรวจสายตรวจเข้าไปดำเนินการเจรจา หากยังมีรถฝ่าฝืนกีดขวางอยู่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนเหตุผลที่เลือกทำอุโมงค์ช่วงเวลานี้ เนื่องจากต้องการย่นระยะเวลาในการสร้างให้เร็วขึ้น หากรอให้ถึงช่วงที่เด็กนักเรียนปิดเทอมก่อนจะทำให้เสียเวลา และประชาชนจะเดือดร้อนระยะยาวขึ้น จึงขอแนะนำให้ประชาชนเตรียมตัววางแผน และเผื่อเวลาก่อนออกจากบ้านเพิ่มขึ้น สำหรับปรับวงเวียนให้เล็กลงเป็นการแก้ปัญหาที่ถือว่ามาถูกทางแล้ว เพราะทำให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเดิม แต่ประชาชนจะต้องใช้ความอดทนที่เพิ่มขึ้นในระยะนี้ บก.จร.มีแผนรองรับด้วยการใช้กำลังพล 20 นาย เข้ามาช่วยควบคุมการจราจรบริเวณวงเวียนนอกเหนือจากการใช้สัญญาณไฟ

สำหรับกระแสข่าวเรื่องการปิด 5 แยกลาดพร้าว เพื่อก่อสร้างเสาตอม่อต่อจากโครงสร้างรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยฝั่งหมอชิตข้ามมาฝั่งห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ปิดการจราจร 5 แยกลาดพร้าว แต่ต้องปิดช่องทางจราจรบางช่องทางเท่านั้น และไม่ส่งผลกระทบการจราจร เนื่องจากเป็นช่วงที่นักเรียนปิดเทอม

ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณแยกรัชโยธินว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.อ.เดชณรงค์สั่งการให้วางแนวทางแก้ไขการจราจรบริเวณดังกล่าว ดังนี้ 1.การจัดระบบพื้นที่ทำเป็นวงเวียนให้แคบลงและเน้นใช้สัญญาณไฟจราจรทั้ง 4 ด้านมีความคล่องตัวมากขึ้น เพราะประชาชนยังสับสนกับการใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าว

2.ปรับการใช้สัญญาณไฟตามปกติ ภายหลังจากมีการปรับพื้นที่ว่าการใช้สัญญาณไฟจราจรทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้นหรือไม่ หากมีปัญหามากยิ่งขึ้นจะมีการใช้แผนห้ามเลี้ยวขวาไปยังถนนรัชดาภิเษกขาเข้าเพื่อลดการจราจรติดขัดบริเวณดังกล่าว และ 3.ให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบข้อมูลเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น

สำหรับสภาพการจราจรเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณติดขัดมากที่สุด ได้แก่ 1.ถนนรัชดา ภิเษกท้ายแถวอยู่บริเวณสะพานพระราม 7 ถนนประชาชื่นอยู่บริเวณแยกประชานุกูล ถึงซอยกรุงเทพ-นนท์ บริเวณแยกวงศ์สว่าง 2.ถนนวิภาวดีรังสิตท้ายแถวสะสมอยู่บริเวณแยกหลักสี่ตัดถนนแจ้งวัฒนะ และ3.ถนนพหลโยธินท้ายแถวอยู่บริเวณสถานีรถไฟดอนเมือง ทั้งนี้ ตำรวจจราจรจะดำเนินการประสานปรับปรุงสภาพการจราจรให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณดังกล่าวต่อไป

ก่อนหน้านั้น ช่วงเช้าวันเดียวกัน เว็บไซต์ข่าวจราจร จ.ส.100 รายงานว่า หลังจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งเปลี่ยนเส้นทางการจราจรบริเวณแยกรัชโยธินซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างทางลอดแยกรัชโยธิน และรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากเดิมเป็นสี่แยกเปลี่ยนเป็นวงเวียน โดยเริ่มในวันเดียวกันนี้เป็นวันแรกและจะมีผลต่อเนื่องไป 4 เดือนนั้น ล่าสุดการจราจรบริเวณแยกรัชโยธินนั้นติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากหลายคนยังไม่ชินกับเส้นทางใหม่ ทำให้สภาพการจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก

จ.ส.100 รายงานอีกว่า ผู้ใช้ทางยังสับสนเมื่อต้องผ่านแยก เช่น หากต้องการจะเลี้ยวขวา ต้องวนวงเวียนจากด้านซ้ายก่อน ประกอบกับยังไม่ทราบข่าวการเบี่ยงช่องทาง ทำให้รถเกิดการชะลอตัวมากขึ้นกว่าเดิม มีรายงานการจราจรติดขัดหลายเส้นทาง อาทิ ถนนพหลโยธิน ติดยาวถึงตลาดสะพานใหม่ ถนนรัชดาภิเษก โดยเฉพาะบริเวณถนนรัชดาฯหน้าศาลอาญาการจราจรติดขัดอย่างหนัก จนผู้โดยสารรถประจำทางบางส่วนตัดสินใจลงเดิน นอกจากนี้ ถนนลาดพร้าว และถนนวิภาวดีรังสิต ก็ติดหนักไม่แพ้กัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน