พ่อเด็กหญิงรุมโทรม เปิดใจ บทสนทนาปวดใจ ป้าเบ้ปากใส่ด่าซ้ำ จนเป็นเหตุต้องลาออก!
จากกรณี เด็กหญิงโดนฉุดไปรุมโทรมข่มขืน โดยวัยรุ่น 5 คน ต่อมากลายเป็นเหตุวุ่นวาย และพบว่ามีอบต.รายหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้อง พยายามจะเคลียร์และจ่ายเงินให้ จบเรื่อง แต่พ่อไม่ยอม และบันดาลโทสะทำร้ายร่างกาย พ่อและเด็กที่ก่อเหตุ โดยพบว่าระหว่างเจรจามีการเรียกเด็กหญิงมาคุย พร้อมกับถามว่า ใครเสร็จบ้าง และกล่าวว่า เด็กมันก็แค่มั่วกัน มาคุยกันก่อนว่าจะเอาอย่างไร จนกลายเหตุการณ์บานปลายทำให้ชาวสระบุรีไม่พอใจอย่างหนักนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. ที่หมู่บ้านอยู่สบาย ต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาคม กำหนดพรหม อายุ 30 ปี พ่อของ ด.ญ.วัย 12 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อได้เปิดใจถึงกรณีดังกล่าวว่า ก่อนอื่นเลยตนขอขอบคุณพี่ๆ ทุกท่าน ขอบคุณกำลังใจทุกกำลังใจ ขอบคุณพี่นักข่าวที่ช่วยเหลือตนมาตลอด
ในวันนี้ตนอยากจะพูดถึงเรื่องที่ว่าที่โรงเรียนของน้อง ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ถามน้องถึง 2 ครั้ง ว่าเรื่องราวมันเป็นเช่นไร ซึ่งน้องก็ตอบเหมือนกันทั้ง 2 ครั้ง น้องเล่าให้ตนฟังว่า หลังจากที่เกิดเรื่องไปแล้วนั้น แล้วน้องก็ได้กลับไปเรียนตามปกติ แต่ทาง ผอ.โรงเรียน ที่น้องเรียนอยู่นั้นได้ให้น้องทานยาแล้วก็นอน
“ในขณะที่น้องนอน ซึ่งมีผอ.โรงเรียนคอยดูแล จู่ๆก็มีป้า 2 คนเดินเข้ามาหาน้อง แล้วก็พูดว่า “ เธอก็รู้จักผู้ชาย 5 คนนั้น เธอก็ยอมมันเอง เธอจะทำให้มันเป็นเรื่องทำไม” ก่อนที่น้องจะตอบไปว่า “หนูไม่รู้จัก แล้วหนูก็ไม่ได้ยอม” ก่อนที่ป้าคนเดิมจะพูดกับน้องต่อว่า “ เธอทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง เธอยังอยากจะเรียนอยู่มั้ย ถ้าเธอขาดเรียนอีกครั้งฉันจะไล่เธออกเลยนะ หน้าตาเธอก็ดีนะ แต่ทำไมนิสัยไม่ดี”
ก่อนที่ป้าคนดังกล่าวจะเบะปากแล้วเดินออกจากห้องไป ซึ่งน้องบอกกับตนว่าป้าทั้ง 2 คนนั้น มีตำแหน่งสูงกว่า ผอ.โรงเรียน ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมากที่ ผอ.โรงเรียนอนุญาตให้ 2 คนนั้นเข้าไปพูดกับลูกตนแบบนี้ แม้ตัวผอ.เองจะไม่ได้พูดอะไรกระทบจิตใจน้องก็ตาม
“หลังจากเกิดเรื่องนี้แล้วน้องก็รู้เครียดเพิ่มมากขึ้น น้องพูดกับตนว่า “หนูใช่มั้ย ที่เป็นคนผิด” ตนรู้สึกว่าน้องพยายมที่จะหนีปัญหา ตนกลัวว่าน้องจะหนีไปอยู่ที่อื่น น้องเคยพูดกับตนว่า ถ้าหนูไม่อยู่พ่อจะเสียใจมั้ย ถ้าหนูตายไปเรื่องทุกอย่างจะจบใช่ไหม” หลังจากผู้จบนายอาคมหลั่งน้ำตาออกมา
นายอาคม เปิดเผยต่อว่า ตนก็เลยตัดสินใจให้น้องลาออกจากโรงเรียนนั้นเลย ตนไม่มีโอกาสที่จะไปพูดคุยกับคนที่พูดแบบนั้นกับน้อง เพราะตนต้องทำเรื่องที่ใหญ่กว่า คือการสู้คดี และการหาที่อยู่ใหม่ให้น้อง ส่วนเรื่องของน้องตอนนี้มีหน่อยงานเอกชน กระทรวงยุติธรรม และนายธวัชชัย งามกรม รองปลัดสำนักงานคุ้มครองพยาน ที่ได้นำน้องไปดูแลแล้ว ในโครงการคุ้มครองพยาน
ซึ่งก็เป็นการดูแลลูกของตน และดูแลน้องอีกคนหนึ่งที่อายุ 16 ปี ซึ่งทางนายธวัชชัย จะเยียวยาจิตใจของน้องทั้ง 2 คน จนกว่าจะดีขึ้น ก่อนที่จะมีการสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีตนก็ยังจะดำเนินการต่อไป ตนก็จะเอาผิดให้ถึงที่สุด ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์โดยจะให้ทนายเข้าไปจัดการมากขึ้นด้วย
