ระดมงมเจอแล้ว 1 ศพ ฝี พายเรือล่มในแม่น้ำป่าสัก-เพชรบูรณ์ พบลอยขึ้นมาบนโค้งน้ำ-ติดคาต้นมะเดื่อ ห่างจากจุดเรือล่ม 2 ก.ม. ญาติร่ำไห้รับศพ ยืนยันใช่โจ๋ฝีพายวัย 17 ปีที่จมหายไป เร่งค้นหาอีกราย ส่วนเหตุเรือท่องเที่ยวจมที่อยุธยาอธิบดีสั่งเด้งเจ้าท่านนทบุรี หลังเซ็นต่อใบอนุญาตเรือโดยไม่ได้ทำประกันภัย พร้อมตั้ง คกก.สอบให้เสร็จใน 10 วัน
จากเหตุระทึกขวัญเรือพายประเพณีอุ้มพระดำน้ำที่ กำลังซ้อมอยู่ในแม่น้ำป่าสัก หน้าวัดไตรภูมิ อ.เมืองเพชรบูรณ์ เกิดล่มขณะพายเข้าฝั่ง ทำให้ฝีพายถูกกระแสน้ำพัดสูญหาย 2 คน สอบพบสาเหตุมาจากลำเรือเกิดหันขวางทางน้ำที่ไหลเชี่ยว จนถูกกระแสน้ำพัดจม ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 ก.ย. เจ้าหน้าที่ยังคงจัดทีมระดมค้นหาฝีพายที่สูญหายอีก 2 คน โดยมีญาติทำพิธีขอขมาแม่ย่านางและต้นตะเคียน บริเวณหน้าวัดไตรภูมิ ซึ่งเป็นจุดที่เรือล่ม จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เรือท้องแบนขนาดใหญ่ล่องไปตามแม่น้ำ เพื่อสำรวจหาจุดดำน้ำ กระทั่งมาถึงบริเวณโค้งแม่น้ำที่ชาวบ้านเรียกว่าโค้งรุ่งโรจน์ ได้พบศพลอยขึ้นมาติดกับต้นมะเดื่อ ห่างจากจุดเรือล่มประมาณ 2 ก.ม. ลักษณะลอยคว่ำ จึงนำศพขึ้นเรือเข้าฝั่ง
จากการชันสูตรทราบ ผู้ตายคือนายพิทยา ไข่ทอง อายุ 17 ปี โดยญาติยืนยันเพราะบริเวณขาขวามีร่องรอยผ่าตัดและดามเหล็กไว้ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุขาหักเมื่อหลายเดือนก่อน จากนั้นนำศพมอบให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
สำหรับการ ค้นหาผู้สูญหายอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนออกค้นหาบริเวณที่พบศพอีกครั้ง เนื่องจากคาดว่าน่าจะอยู่ใกล้เคียงกัน แต่ก็ยังไร้วี่แวว
ส่วน เหตุเรือนำเที่ยวสมบัติมงคลชัย บรรทุกผู้โดยสารชาวมุสลิมเสียหลักชนท่าน้ำหน้าวัดสนามไชย จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วเกิดล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 28 ศพและบาดเจ็บ 51 คน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีแผ่นปูนยื่นออกมาจากตลิ่ง 5 เมตร เตรียมตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น
ความ คืบหน้าเหตุการณ์นี้ นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมาลงนามในคำสั่งกรมเจ้าท่าที่ 772/2559 ให้ย้ายนางหทัยกาญจน์ เพ็ญกูล นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานนทบุรี ไปช่วยปฏิบัติราชการที่สำนักมาตรฐานทะเบียนเรือ โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผอ.สำนักจะมอบหมายเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพราะจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรือโดยสารล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดสนามไชย พบเรือลำดังกล่าวไม่จัดทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด แต่ นางหทัยกาญจน์ลงนามต่ออายุใบอนุญาตให้เมื่อเดือนมิ.ย. ซึ่งฝ่าฝืนกฎกระทรวงที่กำหนดให้การขอรับหรือต่อใบอนุญาตใช้เรือ โดยสารรับจ้างต้องจัดให้มีการประกันภัยสำหรับ ผู้โดยสาร พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จใน 10 วัน หรือภายในสิ้นเดือนก.ย. หากผลสอบเข้าข่ายมีความผิดจะตั้งกรรมการสอบวินัย เพื่อเอาผิดทางวินัยต่อไป ซึ่งจะใช้เวลาสอบอีก 20 วัน
ด้าน นายณัฐ จับใจ รองอธิบดี จท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างตรวจสอบทุกเรื่อง รวมถึงการก่อสร้างเขื่อนลักษณะเป็นปูนที่ยื่นออกมายังลำน้ำ โดยทุกเรื่องต้องได้ข้อสรุปในวันที่ 30 ก.ย.
ขณะที่พ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้พิจารณาช่วยเหลือผู้เสียหายที่เสียชีวิต 28 ราย เป็นเงิน 3,430,000 บาท
ส่วน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ. พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เชิญนายสุนทร พันธ์เสือทอง เจ้าของเรือเข้าพบ เพื่อรับทราบ 4 ข้อหา โดยนายสุนทรให้การปฏิเสธ ระบุไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งมีเรือเพียง ลำเดียวเท่านั้นและไม่มีประกัน ก่อนส่งฝากขังและศาลให้ประกันตัว 6 แสนบาท
