บินไทย ระทึก! พายุลมแรง หอบเครื่องแอร์บัส 350 ลำล่าสุดหลุดขอบรันเวย์ ขณะลงจอดที่สนามบินนานาชาติ ภูเก็ต โชคดีกัปตัน สามารถประคองเครื่อง กลับขึ้นพื้นรันเวย์ ได้ 140 ชีวิตปลอดภัย พบยางแตก 4 เส้น สีคิ้ว โคราชยังอ่วม เจาะเกาะกลางถนนมิตรภาพ ช่วยเร่งน้ำระบาย พิจิตรน้ำน่านแรง เซาะบ้านพังทั้งหลัง เตือนเมืองนครสวรรค์ รับมือน้ำแม่วงก์ล้นตลิ่ง ปภ.เผยเหลือ 7 จว. ยังประสบภัยพิบัติ เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบาย เตือนซ้ำพื้นที่ท้ายเขื่อน อ่างทองเริ่มแล้ว น้ำล้นตลิ่ง กาญจน์สลดเฒ่าขับกระบะฝ่าสายน้ำ ถูกพัดจมดับ ปทุมฯ ฝนถล่มกลางดึก หมู่บ้านที่คูคตจม
วันที่ 22 ก.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายพื้นที่ในระยะนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 8 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ พังงา กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครราช สีมา สุโขทัย พิษณุโลก และหนองบัวลำภู โดยล่าสุดพบว่าระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีที่ จ.เพชรบูรณ์น้ำในแม่น้ำป่าสักเอ่อเข้าท่วม อ.เมืองเพชรบูรณ์ ระดับน้ำสูง 50 ซ.ม. ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว จ.สุโขทัย ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่วน อ.เมืองสุโขทัยระดับน้ำทรงตัว จ.พิษณุโลก น้ำจากแม่น้ำยมไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.บางระกำ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
ส่วนที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ยังมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนชาวบ้าน ทั้งนี้ มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) 35 จังหวัด 120 อำเภอ 439 ตำบล 2,609 หมู่บ้าน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 28 จังหวัด เหลือ 7 จังหวัด 23 อำเภอ 113 ตำบล 649 หมู่บ้าน ขณะที่สถานการณ์น้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยายังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทางสำนักงานชลประทานที่ 12 แจ้งว่าจะบริหารจัดการน้ำเข้าพื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตกและตะวันออกด้าน เหนือเขื่อนเจ้าพระยาตามศักยภาพที่สามารถรับน้ำได้
นายฉัตร ชัยกล่าวอีกว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำกับสำนักงานชลประทานที่ 12 คาดว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึงบริเวณต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ต.บางหัก ต.บางหลวง ต.วัดตะกู ต.ทางช้าง อ.บางบาล ต.ท่าดินแดง ต.บ้าน กระทุ่ม ต.หัวเวียง ต.บ้านโพธิ์ ต.บ้านแพน ต.รางจระเข้ ต.สามกอ ต.เจ้าเจ็ด ต.บางนมโค และต.น้ำเต้า อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงบริเวณท้ายแม่น้ำน้อย ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 12 จะบริหารจัดการน้ำเข้าพื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตกและตะวันออกด้านเหนือ เขื่อนเจ้าพระยาตามศักยภาพที่สามารถรับน้ำได้ ปภ.ได้ประสาน 7 จังหวัดภาคกลางลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยาและสุพรรณบุรี รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ เพิ่มสูงต่อไปอีก
ผู้สื่อข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต่างๆ ที่แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมาเกิดน้ำป่าหลากท่วมบ้านห้วยต้นนุ่น หมู่ 4 ต.แม่เงา อ.ขุนยวม พื้นที่ทางการเกษตร และบ้านเรือนของราษฎร สะพาน เหมือง ฝายได้รับความเสียหาย ทั้งยังมีดินถล่มทับเส้นทางการค้าชายแดน ช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น ล่าสุดเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือจนสามารถใช้ได้บางส่วนแล้ว
ด้าน ระดับแม่น้ำยม ที่ไหลผ่าน อ.สามง่าม จ.พิจิตร มีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่จุดวัดน้ำ Y-17 หน้าที่ว่าการอำเภอสามง่ามอยู่ที่ระดับ 4.80 เมตร อัตราการไหลประมาณ 337 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สำนักชลประทานที่ 3 เร่งพร่องน้ำยมลงสู่แม่น้ำน่าน ที่คลอง DR2.8 อย่างต่อเนื่อง ตามแผนบริหารจัดการน้ำ ล่าสุดเกิดเหตุน้ำเซาะดินริมตลิ่งแม่น้ำน่าน หน้าบ้านนายแดง ศรีโชติ วัย 60 ปี บริเวณชุมชนถนนประเวศน์เหนือ ในเขตเทศบาลเมืองบางมูลนาก จนพังทลายลงไปในแม่น้ำน่านทั้งหลัง มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท เบื้องต้น ปภ.จังหวัดพิจิตร เข้าสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
นายวิศาล วสุนธาราพร ผอ.โครงการชลประทานนครสวรรค์ แจ้งเตือนสถานการณ์ระดับน้ำในลำน้ำแม่วงก์ มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 75 ซ.ม. และระดับยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ช.ม.ละ 5 – 6 ซ.ม. ซึ่งมวลน้ำจะใช้เวลาประมาณ 12 ช.ม. ก่อนไหลมาถึงสถานีวัดน้ำ Ct4 ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาว และหลากเข้าเทศบาลลาดยาว จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเมืองด้วย
ขณะ ที่สถานการณ์น้ำท่วมขังในชุมชนบ้านโนนกุ่มเหนือ หมู่ที่2 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ที่มีระดับสูงกว่า 50 ซ.ม. ล่าสุด สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ประชาชนบางส่วนก็ยังคงมีการเตรียม กระสอบทรายไว้ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดน้ำท่วมอีกครั้งหลังยังมีฝนตกต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่หมวดการทางสีคิ้ว แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 นำเลื่อยยนต์ตัดปูนบริเวณเกาะกลางถนนมิตรภาพ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 105 -106 เพื่อช่วยระบายน้ำให้ไหลลงสู่ในพื้นที่ต่ำได้หลังเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ทำให้การจราจรติดขัดหลายกิโล
ส่วนในเขตเทศบาลตำบลจัตุรัส อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ มีน้ำท่วมช่วงร.พ.ประจำอำเภอจัตุรัส เฉลี่ยสูงกว่า 30- 50 ซ.ม. ทำให้การจราจรติดขัดกว่า 700 ม. ขณะที่ชาวบ้านและอาสาฯกู้ภัยสว่างคุณธรรมจัตุรัส ยังพยายามค้นหาร่างนายสวัสดิ์ อารีชาติ อายุ 41 ปี ชาวบ้าน ต.หนองบัวใหญ่ อ.จัตุรัส ที่ถูกกระแสน้ำพัดขณะลงหาปลาในคลองอีสานเขียวเมื่อวานนี้ แต่เนื่องจากกระแสน้ำแรงและขุ่นจึงยังหาไม่พบ
ส่วนในพื้นที่ จ.อุบลฯ ยังมีฝนตกหนักในตัวเทศบาลนครอุบลฯ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมถนนราชบุตร พโลชัย อุปราช นครบาล และสรรพสิทธิ์ ช่วงร.ร. เบ็ญจะมะมหาราช ระดับน้ำสูง 30-50 ซ.ม. เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัด มณฑลทหารบกที่ 22 และเจ้าหน้าที่ตำรวจราจร ออกเร่งให้ความ ช่วยเหลือ
ด้าน นายสุรีย์ ยางเงิน นายก ทต.คูเมือง อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด เผยน้ำที่ไหลเอ่อมาจาก อ.เกษตรวิสัย เข้าท่วมนาข้าวจำนวน 5 หมู่บ้าน ใน ต.คูเมือง ซึ่งเป็นการท่วมหนักในรอบ 10 ปี เนื่องจากที่ผ่านมามักประสบปัญหาภัยแล้ง เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระดมเครื่องสูบน้ำ สูบน้ำออกจากนาข้าวเป็นการด่วน ก่อนจะสำรวจความเสียหาย เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป
ขณะ เดียวกันมีรายงานว่า เมื่อเวลา 19.46 น. วันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมาเครื่องบินแอร์บัส รุ่น เอ 350 ของสายการบินไทย ซึ่งเป็นเครื่องลำล่าสุดที่เพิ่งซื้อมา เที่ยวบินที่ ทีจี 221 พาผู้โดยสาร 140 ชีวิต ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 18.38 น. ปลายทางที่สนามบินนานาชาติ จ.ภูเก็ต ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องลงสู่รันเวย์มีฝนตกและลมกระโชกแรง ส่งผลให้ล้อของเครื่องบินหลุดขอบรันเวย์ ลงสู่พื้นดินด้านข้าง แต่นักบินสามารถดึงเครื่อง และล้อกลับสู่พื้นรันเวย์ได้ และนำเครื่องจอดบนรันเวย์ได้ตามปกติ โดยไม่มีผู้โดยสารบนเครื่องได้รับอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ทั้งนี้ เบื้องต้นมีรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบพบเศษหญ้าติดที่ล้อยาง โดยยางได้รับความเสียหาย 4 เส้น อากาศยานได้ลากมาจอดที่หลุม 9 ได้ตามปกติ ไฟขอบรันเวย์ (Runway edge light ) เสียหาย 3 ดวง จึงต้องปิดทางวิ่งเป็นการชั่วคราว เพื่อเก็บเศษไฟที่แตกเสียหายและได้เคลียร์รันเวย์เป็นที่เรียบร้อย จนสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติในเวลา 22.10 น.วันเดียวกัน แต่เครื่องบินที่อยู่ในหลุมจอดจะต้องตรวจสอบเป็นเวลา 12 ช.ม. ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้จ.ภูเก็ต ยังมีฝนตกและ ลมแรงอย่างต่อเนื่องทำให้สนามบินนานาชาติภูเก็ต ต้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการขึ้น-ลงของเครื่องบิน ขณะที่ในตัวเมืองเกิด น้ำท่วมถนนหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณถนนสุรินทร์ ซอย 2 สูง 10 – 30 ซ.ม. ทำให้การจราจรบริเวณใกล้เคียงติดขัดหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายพื้นที่ของ อ.ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง คุระบุรี และอ.กะปง จ.พังงา ยังมีน้ำท่วมขังบางจุดสูงกว่า 1 ม. ทำให้ราษฎรในหลายตำบลถูกตัดขาด ต้องอาศัยเรือเข้าออกหมู่บ้าน นายชัยณรงค์ มหาแร่ นายกเทศมนตรีเมืองตะกั่วป่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำระบายลงสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่เศรษฐกิจชั้นในได้รับความเสียหาย ขณะที่แม่น้ำสายสำคัญ เช่น แม่น้ำตะกั่วป่า และลำคลองเกือบทั้งหมด ในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า และกะปง ระดับน้ำยังอยู่ในขั้นวิกฤต และยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่วนเส้นทางสายบ้านดอกแดง-บ้านปากวีปและสายตลาดเก่า-บ้านย่านยาว ที่ถูกดินถล่มเสาไฟฟ้าล้ม เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมคาดจะใช้การได้ในช่วงเย็นวันนี้
ด้าน บรรยากาศการค้าขายปลาและอาหารทะเล ในตลาดสดตลาดเมืองใหม่ยะลา พบว่าผู้คนออกมาจับจ่ายลดลงกว่าร้อยละ 50 เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้า นำปลาที่เก็บมาหลายวันมาขาย พร้อมกับราคาขึ้นกว่าเดิมกิโลกรัมละ 10 – 15 บาท เพราะปลาขาดตลาด นางยามีละ ซายา แม่ค้าขายปลา บอกว่า ตั้งแต่เกิดมรสุมชาวประมงงดออกหาปลา ทำให้ปลาขาดตลาด และปรับราคาขึ้น 10-15 บาทต่อกิโล อีกทั้งได้โควตาปลามาขายน้อยลงกว่าครึ่ง ในขณะเดียวกันผู้บริโภค ไม่ซื้อปลาที่ไม่สดด้วย ช่วงนี้จึงไม่ออกมาซื้อ ทำให้การค้าขายอาหารทะเลได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
นายทอง เปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.00 น. มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาสูงถึง 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะกระทบต่อพื้นที่ริมแม่น้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทลงมา มีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 60 – 80 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำบริเวณอ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 30-50 เซนติเมตร กรมชลประทาน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกคันกั้นน้ำให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเฝ้าระวังติดตาม สถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วย
ด้านสำนักชลประทานที่ 12 ออกประกาศเตือนสถานการณ์น้ำฉบับที่ 4 ไปยังผวจ. 7 จังหวัดลุ่มแม่น้ำภาคกลาง ให้เตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำไปอยู่ที่ 1,301 ลบ.เมตร/วินาที ซึ่งจะทำให้พื้นที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบ โดยล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดอ่างทองที่สถานีชลมาตร C7A สำนักชลประทานที่ 12 หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง อยู่ที่ 5.42 เมตร/รทก.และมีทีท่าจะเพิ่มขึ้นอีก
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดิน ทางไปตรวจสอบยังพื้นที่ใน ต.โผงเผง และ ต.ป่าโมก พบบางจุดที่น้ำเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมสวนผลไม้และบ้านเรือนประชาชนที่ไม่มี คันกั้นน้ำแล้ว ขณะเดียวกันตลิ่งริมเจ้าพระยา หน้าวัดโบสถ์ หมู่ที่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเขื่อนเรียงหิน เกิดทรุดตัวยาวกว่า 50 เมตร หลังระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงและไหลแรง พร้อมกับดึงเสาเข็มคอนกรีตที่ปักเป็นแนวยาวกว่า 10 ต้นหักพังลงไปในน้ำ และมีทีท่าจะทรุดตัวลงเรื่อยๆ โดยจุดดังกล่าวเป็นโค้งน้ำทำให้ถูกแรงน้ำกัดเซาะเป็นประจำ
ส่วน ที่ จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.บำรุง วสุมทรานิติกุล รอง.ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะถูกน้ำพัดตกลำห้วย บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3445 หน้าวัดสามพระยา ต.บ้านเก่า อ.เมือง จึงประสานชุดประดาน้ำมูลนิธิพักษ์กาญจน์ ผู้เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบพร้อมผู้เกี่ยวข้องนำแบ๊กโฮและเรือมาช่วยค้นหา นานกว่าเวลา 3 ช.ม. จึงพบรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน ลบ 6190 กรุงเทพมหานคร จมอยู่ใต้น้ำ จึงใช้รถแบ๊กโฮลากขึ้นมา ในรถพบศพนายสมโภชน์ ตวงกรวย อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 551 ต.ธรรมคุณากร ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร สอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุผู้ตายขับรถลุยน้ำท่วมถนน โดยไม่ฟังคำเตือนของชาวบ้าน ก่อนรถถูกแรงน้ำพัดตกไปในลำห้วยข้างทางจนเสียชีวิตดังกล่าว
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดฝนตกหนัก ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านทรงพล ต.คูคต อ.ลำลูกกา บางจุดท่วมสูงกว่า 1 ม. นางวินัย นาคเขียว อายุ 61 ปี กล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่กับหลาน 2 คน ซึ่งเมื่อช่วงประมาณ 4-5 ทุ่ม เกิดฝนตกอย่างหนักจนทำให้มีระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเข้าท่วมบ้าน ซึ่งหมู่บ้านของพวกตนเป็นบ้านเก่าแก่ ทำให้พื้นที่ต่ำกว่าที่อื่น เวลามีฝนตกน้ำจากหมู่บ้านข้างๆ ก็จะไหนลงมาทำให้เกิดน้ำท่วมขัง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ท่วมเข้าถึงในตัวบ้าน หลายหลังขนย้ายทรัพย์สินไม่ทันถูกท่วมเสียหาย ขณะที่หมู่บ้านรินทอง ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็ถูกน้ำท่วมเช่นกันแต่ยังน้อยกว่า
