พบรองเท้าสงสัย ของเซลส์แมน

พ่อกับเมียรุดดู เสธ.โผล่ให้การ

ตร.ลุยค้นสวนหย่อม ริมถนน บรมฯ หลังพบสัญญาณมือถือ หนุ่มเซลส์แมนโผล่นิ่งราว 50 นาที เจอรองเท้าต้องสงสัย ก่อนประสานสุนัขตำรวจดมกลิ่น ทั้งนักประดาน้ำลงดำในบึงน้ำ แต่ยังไม่พบ ยังไม่ระบุเสียชีวิตหรือไม่ แต่บัญชีธนาคารไม่เคลื่อนไหว ตั้งแต่ 20 ธ.ค. ขณะที่ พันเอก คนสนิทน.ส.มิ้ว ย่องพบตร. ให้การไม่เกี่ยวข้อง มีพยานยันที่อยู่ได้ ตร.ยังมุ่งปมชู้สาว เพราะสืบพบหนุ่มเซลส์แมนคารมดี มีหญิงติดพันไม่ต่ำ 5 คน แต่ล้วนมีเจ้าของแล้ว ส่วนเรื่องยา แค่เสพไม่ถึงขาย ขณะที่พ่อกับเมียโผล่ดู เผยเชื่อลูกชายยังไม่ตาย หมอดูบอกตรงกันหลบซ่อนอยู่ บอกเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อวันพ่อ ก่อนโทร.คุยกันอีกครั้ง วันที่ 18 ธ.ค. ล่าสุดตร.ใช้รถแบ๊กโฮลุยขุดหากลางดึกแต่ยังไม่พบ

จากกรณีนายรัติภูมิ พิมใจใส หรือเบิร์ด อายุ 34 ปี เซลส์ขายรถโตโยต้า ย่านเกษตร- นวมินทร์ หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2559 โดยนายรัติภูมิโทร.หาผู้จัดการที่ทำงานเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยมีการส่ง โลเกชั่นที่บริเวณซอยบรมราชชนนี 78 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ซึ่งเป็นซอยบ้านของสาวคนสนิท ก่อนจะขาดการติดต่อ ภรรยาเกรงว่าจะได้รับอันตราย ออกติดตามหา ก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่สน.ธรรมศาลา เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งตร.พบโทรศัพท์ถูกทิ้งไว้บริเวณตอม่อที่ 147 บนเกาะกลางถนนบรมราชชนนี ใกล้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ สายใต้ใหม่ โดยมีพนักงานดูแลรักษาต้นไม้ 2 คนของสำนักงานเขตแห่งหนึ่งมาพบเข้า โดยพบกับกล่องพลาสติกตกอยู่ใกล้กัน ภายในมีเงินสด 2 หมื่นบาท จากนั้นได้นำโทรศัพท์มือถือของนายรัติภูมิไปขายให้กับคนขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในราคา 3 พันบาท รวมทั้งออกหมายเรียกตัวน.ส.นันทิยา หรือกิ๊ก สุวรรณวาสี ภรรยานายรัติภูมิมาพบเพื่อสอบสวนปากคำภายหลังไม่สามารถติดต่อได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ขณะที่ความคืบหน้าในการติดตามตัวนายรัติภูมิ เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ห้องประชุมสน.ธรรมศาลา พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก. สส.บชน. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก. พร้อมด้วยพ.ต.อ. ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ ผกก.สน.ธรรมศาลา พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุทธิพล แสงบุญ สว.สส.บก.น.7 ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่กก.สส.บก. น.7 ร่วมประชุมคลี่คลายคดี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะแยกย้ายออกไปทำงาน โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังมุ่งประเด็นไปเรื่องชู้สาวเป็นหลัก และประเด็นเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากพบว่านายรัติภูมิไปติดพันผู้หญิงหลาย คนที่มีเจ้าของ รวมไปถึงสาเหตุที่ทะเลาะกับน.ส.นันทิยา สุวรรณวาสี อายุ 34 ปี ภรรยาจนขนของออกจากบ้านพักย่านนวมินทร์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2559 ขณะที่ประเด็นเรื่องยาเสพติดที่อ่อนลงเพราะตรวจสอบพบว่าเจ้าตัวเป็นเพียงผู้เสพเท่านั้นไม่ถึงขั้นเป็นผู้ขาย

นอกจากนี้ ชุดสืบสวนได้ประสานไปตาม ร.พ.ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้ตรวจสอบศพชายไร้ญาติ โดยให้สังเกตรอยสักรูปดาวที่ข้อมือขวา ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบัญชีของนายรัติภูมิซึ่งมีเงินสดประมาณ 60,000 บาท พบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2559 ขณะที่นายทหารยศพันเอกคนสนิทน.ส.มิ้ว ได้เดินทางเข้ามาพบกับตำรวจเมื่อคืนวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ อีกทั้งยังมีพยานบุคคลที่ระบุสถานที่ในช่วงวันและเวลาเกิดเหตุอย่างแน่ชัด จากการตรวจสอบประวัติส่วนตัวของนายรัติภูมิ พบว่าเคยได้รับรางวัลนักขายมือทอง เนื่องจากมีความสามารถในการใช้วาท ศิลป์เป็นอย่างมากในการขาย อีกทั้งมีผู้หญิงเข้ามาติดพันไม่ต่ำกว่า 5 คน ส่วนใหญ่มักจะเป็นหญิงสาวที่มีเจ้าของแล้ว

ต่อมาเวลา 16.00 น. ชุดคลี่คลายคดีนำกำลังลงพื้นที่บริเวณสวนสาธารณะใต้ทางต่างระดับฉิมพลี หรือสวนสาธารณะร่มเกล้าชาวทาง จุดที่พบว่ามีความเคลื่อนไหวทางโทร ศัพท์ของนายรัติภูมิประมาณ 50 นาที ก่อนจะพบสัญญาณอีกครั้งบริเวณหน้าวัดชัยพฤกษ์ ถนนบรมราชชนนี ขาเข้ากว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะกลับรถเพื่อวิ่งบนถนนบรมราชชนนีด้านขาออกมุ่งหน้าจังหวัดนครปฐม ก่อนที่สัญญาณจะขาดหายไปตรงจุดที่พบกระเป๋าของนาย รัติภูมิ ที่ตอม่อ 147 ใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก โดยเบื้องต้นพบรองเท้าหนังข้างซ้ายยี่ห้อ DesGn เบอร์ 43 ตกอยู่ใกล้กองขยะ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของนายรัติภูมิหรือไม่ ต้องรอทางญาติมายืนยันอีกครั้ง ต่อมาเวลา 17.45 น. นักประดาน้ำจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงค้นหาในบริเวณบึงน้ำใต้ทางต่างระดับฉิมพลี พร้อมนำสุนัขตำรวจ เค 9 ร่วมตรวจหาในจุดดังกล่าวเพิ่มเติม โดยใช้กลิ่นจากรองเท้าที่พบเป็นตัวตั้งต้นในการตามรอย โดยสุนัขวิ่งเลียบไปยังหนองน้ำต้องสงสัยได้เพียง 2 นาทีก็หยุดนิ่งอยู่ที่จุดแห่งหนึ่ง แต่จากการงมค้นหากว่า 3 ชั่วโมงไม่พบสิ่งที่คาดจะเป็นเบาะแสอื่นใด ซึ่งทางชุดสืบสวนยังไม่ยืนยันว่านายรัติภูมิยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว เพราะยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ชัดได้ อย่างไร ก็ดี เจ้าหน้าที่จะได้นำรองเท้าข้างดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับรองเท้าของนายรัติภูมิ รวมถึงสอบถามร้านรองเท้าร้านประจำที่นายรัติภูมินำรองเท้าไปซ่อมว่าเป็นของนายรัติภูมิหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ให้ความสนใจในจุดดังกล่าว นอกจากเหตุผลทางโทรศัพท์แล้ว ยังมีพยานบุคคลที่เป็นคนรับส่งเอกสารเดินทางมาจอดรถพักผ่อนช่วงกลางวันในช่วงเวลาหลังวันที่ 20 ธ.ค. ได้กลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั้งบริเวณจนต้องหนีไปพักผ่อนที่อื่น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ประสานรถแบ๊กโฮมาขุดดินบริเวณจุดต้องสงสัยเพื่อเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติม

ต่อมานางนันทิยา ภรรยา และนายละเอียด พิมใจใส อายุ 65 ปี บิดาของนายรัติภูมิ ได้เดินทางมาดูจุดที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันค้นหาอยู่ โดยนางนันทิยาไม่ยืนยันว่ารองเท้าที่พบเป็นของสามีหรือไม่ แต่ให้การว่าคล้ายมากส่วนนายละเอียดกล่าวว่า เจอลูกครั้งสุดท้ายวันที่ 5 ธ.ค.ปีที่แล้ว ก่อนโทร.คุยกันครั้งสุดท้ายวันที่ 18 ธ.ค. ตนยังมั่นใจว่าลูกชายน่าจะยังมีชีวิตอยู่ เพราะตระเวนดูหมอดูมาหลายที่ ต่างพูดเหมือนกันว่ายังไม่ตายแต่หลบซ่อนอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน