จับแอดมิน เว็บพนันบอลออนไลน์ 8คนไทยเจอหนัก ร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาต
เว็บพนันบอลออนไลน์ / เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ สน.ประเวศ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1
พ.ต.อ.ศารุต แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล ผกก.2 บก.ทท.1 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายกฤตภพ ชีธรรมรัตน์ อายุ 41 ปี นายอดิศร เจริญกิจไพเลิศ อายุ 28 ปี น.ส.ชลธิชา ภูผิวผา อายุ 29 ปี น.ส.สมฤทัย เอี่ยมสอาด อายุ 32 ปี น.ส.กรรณิกา ปั่นแปง อายุ 37 ปี น.ส.ชุติกาญจน์ สาระสิงห์ อายุ 27 ปี น.ส.ทิพย์สุวรรณ โชคชัย อายุ 25 ปีและนายลิขิต ท้ายปาก อายุ 26 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระโขนง ในฐานความผิด “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันทายผลฟุตบอลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยผิดกฎหมาย เป็นอั้งยี่ และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิด ในลักษณะนำเทคโนโลยีมาใช้
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ต่อมาชุดสืบสวนสืบจนทราบว่า มีเว็บไซต์ที่จัดให้มีการเล่นพนันผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยมีผู้เล่นเป็นคนไทยจำนวนมาก มียอดเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนกว่า 200 ล้านบาท จึงรวบพยานหลักฐานจนทราบว่ามีนายกฤตภพ ชีธรรมรัตน์ เป็นเจ้าของเว๊บไซต์ มีการตั้งเซริฟเวอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน
จึงได้รวมรวมพยานหลักฐานต่อศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งเครือข่าย ก่อนจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วยสมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า จากการแกะรอยนานกว่า 2 เดือน พบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีด้วยกัน 12 คน กระทำการรวมตัวเป็นลักษณะขบวนการแบ่งงานกันทำ โดยทำมาแล้ว 2 ปี นายกฤตภพเป็นเจ้าของเว็บไซต์นายอดิศร ทำหน้าที่เป็นคนเปิดบัญชีของเครือข่าย น.ส.ชลธิชา น.ส.สมฤทัย ทำหน้าที่คอยรับเปิดบัญชีธนาคาร
น.ส.กรรณิกา น.ส.ชุติกาญจน์ ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลด้านการเงิน น.ส.ทิพย์สุวรรณ และนายลิขิต เป็นพนักงานโดยทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา หลังจากนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลของเครือข่ายดังกล่าว และประสานกับทางกสทช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการปิดเว็บไซต์ดังกล่าว นอกจากนี้ได้ประสานทางสำนักงานปปง.เพื่อดำเนินการยึดอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาต่อไปด้วย
“ทั้งนี้จากการที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการจับกุมการกระทำความผิดทั้ง 13 ความผิดมูลฐานตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ได้มีการจับกลุ่มไปมากกว่า 300 คดี โดยภายในสัปดาห์นี้ ทางสำนักงานปปง.จะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ก่อนประมวลเรื่องส่งให้อัยการสูงสุดดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อเฉลี่ยคืนเงินให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีการฉ้อโกงประชาชน” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว
