ไอ้หื่น ข่มขืนยาย โร่ขอขมายายวัย 82 ยังอ้างยายสมยอมเอง ชาวบ้านต่างด่าทอไม่พอใจ จนต้องรีบคุมตัวกลับ เมียหนุ่มหื่นรับสามีแอบไปกินเหล้ามา เดินผ่านบ้านยายจึงเข้าไปก่อเหตุ โต้ลั่นสามีไม่ได้ข่มขืนหมู

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพและประกาศตามจับคนร้าย หลังชายในภาพแอบเข้ามาภายในบ้าน และก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราคุณยายวัย 82 ปี แต่ปรากฏว่าลูกหลานกล้บเข้าบ้านมาเห็นเหตุการณ์พอดี และบันทึกภาพเอาไว้ได้ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ข่มขืนยาย / เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่คุมตัว นายบุญส่ง มีพันธ์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา หลังจากภรรยาของผู้ต้องหาพามามอบตัว และสอบปากคำ โดย พ.ต.ท.เชิดชัย เบ้ามา สว.(สอบสวน) สภ.กุดสลา ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา นายบุญส่ง เดินทางมาขอเข้ามอบตัว ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตัวเองอยู่ในที่เกิดเหตุช่วงเวลาดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปชี้จุดเกิดเหตุ โดยเบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ 1.ข้อหาบุรุกเคหสถาน 2.กระทำอนาจารผู้อื่น และ 3.พยายามกระทำชำเรา

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหาบุกรุกเคหสถาน และข้อหากระทำอนาจารผู้อื่นจริง แต่ปฏิเสธในข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเรา โดยอ้างว่า ยายที่เป็นผู้เสียหายได้กวักมือเรียกให้ตัวเองเข้าไปหาในบ้านพัก ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้พยายามที่จะข่มขืน แต่เป็นการสมยอมกัน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายบุญส่งไปยังบ้านพักจุดเกิดเหตุ เพื่อขอขมายายวัย 82 ปี ซึ่งนายบุญส่งก็ยินยอมที่จะไปขอขมา โดยมีชาวบ้านต่างมารอดูเหตุการณ์จำนวนมาก ก่อนที่นายบุญส่งจะเดินเข้าไปกราบที่ยาย แล้วกล่าวว่า “ขอโทษเด้อยายเด้อที่ทำแบบนั้น” พร้อมกราบขอขมา 3 ครั้ง โดยผู้ต้องหามีสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งยายก็ตอบเพียงว่า “ขอบคุณ” โดยที่ยายไม่รู้เรื่องว่าเขามาขอโทษอะไร และคิดว่าลูกหลานมาไหว้ให้พร เพราะยายเป็นอัลไซเมอร์

โดยระหว่างที่นายบุญส่งกราบขอขมา มีเสียงชาวบ้านต่างด่าทอ และไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบนำตัวนายบุญส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ต่อไป

ขณะที่เทศบาลตำบลสวนกล้วย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บ้านที่เกิดเหตุ นางบี (นามสมมติ) ลูกสาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ช่วงประมาณเที่ยง ซึ่งในวันนั้นตนอยู่กับแม่เพียงลำพัง ตนอยู่ด้านหลังบ้าน แต่ไม่ได้ล็อกประตูหน้าบ้านไว้ ส่วนแม่นอนอยู่นอกห้องบริเวณหน้าบ้าน จากนั้น ตนได้ยินเสียงแม่ร้องว่า “โอ๊ย โอ๊ย” ตนจึงเปิดประตูห้องออกมา ชะโงกหน้าดู เห็นคนร้ายกำลังก่อเหตุกับแม่อยู่ ตนจึงรีบกดถ่ายรูปคนร้ายไว้ จากนั้นก็ตะโกนว่า “มึงทำอะไรแม่กูๆ มึงเฮ็ดหยังแม่กู” คนร้ายตกใจจึงวิ่งหนีออกประตูไป

ทั้งนี้ แม่ของตนอายุ 82 ปี ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน โรคไต อีกทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับสมอง ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ หูไม่ได้ยิน และสายตาฟาง หลังเกิดเหตุ ตนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว ตนเองกับบรรดาญาติพี่น้องก็สบายใจขึ้น แต่กลัวว่าหลังจากนี้คนร้ายจะไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก เพราะตนได้ยินชาวบ้านพูดคุยกันว่าคนร้ายเคยก่อเหตุกระทำชำเราหมู และกระทำชำเราคนแก่ที่หมู่บ้านอื่น ซึ่งตนเองไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก โดยหากคนร้ายถูกดำเนินคดีจำคุกไป ตนก็ขอให้จำคุกไปตลอดชีวิต ไม่ต้องออกมา เพราะคนแบบนี้ถือเป็นภัยต่อสังคม

นางเมี่ยง (นามสมมติ) ภรรยาของผู้ต้องหา เปิดใจว่า วันเกิดเหตุ นายบุญส่งบอกว่าจะออกไปทำงาน ตอนเย็นจะกลับมา แต่ในช่วงเย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาที่บ้านตน 2 รอบ ถามว่าสามีตนไปไหน ตนก็บอกไม่ทราบ กระทั่งสามีตนกลับมา เวลา 19.00 น.

ตนจึงสอบถามว่าเจ้าตัวไปทำอะไรผิดมา นายบุญส่งก็ยอมรับว่าไปทำผิดมาจริง และอยากจะเข้ามอบตัว แต่ขอเข้ามานอนในบ้านก่อน จากนั้นนายบุญส่ง ก็กราบไหว้ตน 3 ครั้ง เพื่อขอโทษ จากนั้นตอนเที่ยงคืนที่ผ่านมา สามีก็หายออกจากบ้านไป แล้ว กลับมาอีกทีในตอนเช้า ตนจึงพาไปมอบตัวที่โรงพัก

โดยสามีเล่าให้ฟังว่า ก่อนก่อเหตุดื่มสุรามา 2 เป๊ก แล้วมีอาการหน้ามืด แล้วเดินผ่านหน้าบ้านยาย เห็นยายนั่งอยู่ในบ้าน แล้วตะโกนเรียกว่า “มา มา เข้ามาหล้า” ประมาณ 2-3 ครั้ง จากนั้นก็เปิดประตูให้สามีตนเข้าไปด้านในบ้าน เมื่อสามีตนเข้าไปด้านในบ้าน ยายก็เอาผ้าปูที่นอนปูกลางบ้าน แล้วก็เอาหมอนมาวาง ก่อนจะเรียกสามีตน จากนั้นยายเปิดผ้าถุงขึ้นเอง สามีตนอดใจไม่ไหว จึงพยายามจะลงมือก่อเหตุข่มขืน แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว แต่จังหวะเดียวกัน ลูกสาวยายเดินออกมาเห็นพอดี สามีตนจึงรีบออกมา

ส่วนเรื่องที่สามีกระทำชำเราหมู ก็ไม่ใช่ความจริง เพราะคนที่กล่าวหาก็มีอาการประสาทหลอน แต่เขาคิดไปเอง ซึ่งภายหลังก็ตกลงกันได้ โดยตนยอมจ่ายเงินให้คนเลี้ยงหมูไป 500 บาท เพื่อขอให้จบเรื่อง อย่างไรก็ตาม ตนให้อภัยสามีได้ เขาจะชั่วหรือดี เขาก็เป็นพ่อของลูก ตนยังรักสามีเหมือนเดิม

นายกิจติชาติ พิมพาวัตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เปิดเผยว่า เมื่อช่วง 4-5 ปีก่อน ตนเคยได้รับแจ้งจากคนดูแลหมูในฟาร์ม อ้างว่าเจอนายบุญส่ง เข้าไปภายในคอกของหมูแม่พันธุ์ กับหมูแม่ลูกอ่อน จำนวน 3-4 ตัว แล้วมีการข่มขืนหมู โดยคนดูฟาร์มไม่ได้บอกว่าเห็นนายบุญส่งกำลังทำอนาจารหมู แต่เข้าไปอยู่ภายในคอก ทำให้ตั้งข้อสงสัยว่านายบุญส่งกำลังจะข่มขืนหมู

ตนจึงไปสอบถามและดูที่เกิดเหตุ พบนายบุญส่งที่ฟาร์มหมูจริง แต่เขาดูท่าทางเหมือนคนสติไม่ดี พูดจาไม่รู้เรื่อง อีกทั้งยังพูดภาษาไทยไม่ชัด ตนจึงเข้าใจว่าคงเป็นการกล่าวหากัน เพราะไม่มีพยานผู้อื่นรู้เห็น

นายกิจติชาติ ระบุว่า ส่วนตัวในความรู้สึกตอนนั้นคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องจริง แต่ในวันนี้ที่นายบุญส่งถูกจับกุมในข้อหาพยายามข่มขืนผู้อื่น ตนก็เริ่มคิดย้อนกลับไปว่าเขาอาจจะก่อเหตุกับหมูจริง ๆ เพราะพฤติกรรมของเขาลักษณะคล้ายกัน และตอนนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านก็เริ่มหวาดระแวง ตนจึงเตรียมประชุมหมู่บ้านให้ชาวบ้านระวังตัว

ที่มา รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน