พินัยกรรม หลวงพ่อคูณ ข้อที่สำคัญที่สุด ท่านหยั่งรู้…สยบปัญหาความวุ่นวาย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ม.ค. นพ.สุขชาติ เกิดผล อายุ 75 ปี อดีตผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ หนึ่งในพยานผู้รับรอง พินัยกรรมของ ครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้เปิดเผยกับ “ข่าวสดออนไลน์” ถึงการเขียนพินัยกรรม ว่า เมื่อปีต้นเดือน ม.ค. 2536 หลวงพ่อคูณได้มีประสงค์ที่จะบริจาคร่างกายให้กับคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น
หลังจากนั้นเมื่อตนขึ้นมาเป็นรองคณะบดีคณะแพทยศาสตร์ ตนก็ได้ทราบข่าวเรื่องนี้ ตนมองดูแล้วว่าหลวงพ่อคูณมีคนรู้จักทั่วประเทศ ดังนั้นการจะทำอะไร ต้องมีความรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
ตนจึงไปขอใบบริจาคร่างกายของหลวงพ่อคูณมาตรวจสอบว่า ในใบนั้นมีช่องโหว่ ที่จะทำให้การบริจาคร่างการของหลวงพ่อคูณไม่เป็นไปตามประสงค์ของหลวงพ่อคูณหรือไม่
จากนั้นตนก็ได้ไปคุยกับคณบดีและผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อเดินทางไปหาหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ ให้ท่านยืนยันว่าต้องการบริจาคร่างกายหรือไม่ ท่านยืนยันว่าว่าจะบริจาคร่างกาย ทางคณะจึงแจ้งหลวงพ่อคูณว่าขอนำใบบริจาคร่างกายใส่เป็นพินัยกรรม ซึ่งท่านก็ได้อนุญาต
นพ.สุขชาติ กล่าวอีกว่า ตนจึงได้เริ่มร่างพินัยกรรมขึ้นมา ในพินัยกรรมฉบับนี้ ข้อที่สำคัญที่สุด และทำให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด ได้แก่ ข้อที่ 1 คือ เมื่อท่านล่ะสังขารแล้ว ให้นำสังขารท่านมาคณะแพทยศาสตร์ ภายใน 24 ชั่วโมง
ขณะที่ตนอ่านข้อนี้ให้หลวงพ่อคูณฟัง ก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งแย้งว่า หลวงพ่อมีลูกศิษย์มากมายทั้งประเทศ ถ้าหากหลวงพ่อเป็นอะไรไป ขอให้สังขารของหลวงพ่อไว้ที่วัดบ้านไร่ประมาณ 3-4 วันได้หรือไม่ เพื่อให้ลูกศิษย์ได้เคารพ
หลวงพ่อคูณถามตนว่า เห็นด้วยหรือไม่ ตนจึงเรียนถามหลวงพ่อว่ามีใครรับรองตนได้หรือไม่ว่าถ้าครบ 3-4 วัน ตนจะสามารถย้ายหลวงพ่อไปขอนแก่นได้
“เมื่อผมพูดเช่นนี้เสร็จ หลวงพ่อพูดขึ้นมาทันทีเลยว่า ไม่ต้องเอากูไว้ที่วัดบ้านไร่ เอากูไปขอนแก่นเลย ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะเดี๋ยวปัญหาจะตามมาเยอะ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญ และในจุดนี้ผมต้องขอชื่นชมหลวงพ่อคูณว่าท่านมีปฏิภาณไหวพริบที่ดีมาก ท่านรู้ว่าปัญหาอะไรมันจะเกิดขึ้น จากนั้นหลวงพ่อคูณก็ได้เซ็นพินัยกรรม ในวันที่ 25 พ.ค. ปีพ.ศ. 2543″ นพ.สุขชาติกล่าว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
