ชายแดนใต้กลับมาเดือดอีก 4 คนร้ายไอ้โม่งเอ็ม 16 อาก้าบุกโรงโม่หิน ยะลา 2 จุดซ้อน เผารถบรรทุก แบ๊กโฮ เครื่องโม่ ไหม้วายวอด มูลค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ปัตตานีก็ระอุ กลุ่มคนร้ายปิกอัพปาดหน้ายิงถล่มเกือบร้อยนัด ฆ่านายก อบต. ตายสยองคาปิกอัพ นราธิวาสป่วนด้วย 5 คนร้ายอาวุธปืนสงครามครบมือ บุกร้านรับซื้อเศษยางพารา ยิงพรุนเถ้าแก่เจ้าของร้านตายคาที่ ขณะหลบหนียิงเปิดทาง กระสุนโดนชาวบ้านตายอีกศพ
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 10 ก.พ. ร.ต.อ.สมเกียรติ ฉีดเกต รอง สว.สอบสวน สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุไฟไหม้โรงโม่หิน ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ลิดล อ.เมือง ภายหลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ยะลา พ.ต.อ.วิโรจน์ นวลแก้ว ผกก.สภ.ลำใหม่ พ.ท.ธานี เกียรติสาร ผบ.ฉก.ยะลา 12 นายก้องสกุล จันทราช นายอำเภอเมืองยะลา นำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองรุดไปยังที่เกิดเหตุ
พบเพลิงลุกไหม้อู่ซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล เป็นอาคารไม้ หลังคายกสูง พบซากรถบรรทุก รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ รถบรรทุกน้ำถูกไฟไหม้เสียหาย ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบรถบรรทุกสิบล้อ 11 คัน ถูกไฟไหม้ภายในบริเวณห้องคนขับ และยางล้อหน้า ใกล้กันพบรถแบ๊กโฮ 2 คัน ถูกไฟไหม้บริเวณห้องคนขับ
จากการสอบสวนนายกูฮารง มาหามะ ผู้จัดการ และนายมุสตอปา อิปง ผู้ดูแลโรงโม่ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุมีรปภ. 3 คนเฝ้าดูแลโรงโม่ มีชายฉกรรจ์ 4 คนสวมไอ้โม่งคลุมศีรษะ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้า บุกเข้ามาด้านหลังโรงโม่ ใช้อาวุธปืนจี้ 3 รปภ. และจับมัด ก่อนใช้ผ้าชุบน้ำมันเบนซินและจุดไฟเผารถ และพากันหลบหนีไปทางด้านหลังโรงโม่
ต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายไม่น้อยกว่า 4 คน บุกเข้าไปในโรงโม่หิน หจก.พีรพลศิลา ห่างจากโรงโม่หินจุดแรกประมาณ 200 เมตร ก่อนใช้ผ้าชุบน้ำมันเบนซินแล้ววางไว้บนสายพาน และเครื่องยนต์ของเครื่องโม่หิน ทำให้เกิดไฟลุกไหม้เสียหาย คาดมูลค่าความเสียหายของทั้ง 2 เหตุการณ์ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์ที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.อ.ธีระ เอียดชะตา รอง สว.สอบสวน สภ.ยะหริ่ม รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณสามแยกบ้านปาโต๊ะ หมู่ 5 ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปยังที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่โตโยต้า รุ่นไฮลักซ์วีโก้ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง จ 9349 กทม. จอดติดเครื่องอยู่หน้าร้านน้ำชา มีรอยกระสุนปืนพรุนทั้งคัน พบศพนายสมาแอ ดอเลาะ อายุ 64 ปี นายก อบต.ปิยามุมัง ถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้า และเอ็ม 16 เข้าลำตัวและศีรษะหลายนัดเสียชีวิตคาที่นั่งคนขับ และพบปลอกกระสุนปืนตกเกลื่อนถนนเกือบ 100 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายขับรถออกจากบ้านพักจะไปทำงานที่ อบต.ปิยามุมัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสามแยก จังหวะที่ผู้ตายชะลอรถ มีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน 4 ประตู สีเงิน ไม่ทราบทะเบียน ปาดหน้ารถผู้ตาย ก่อนที่ 3 คนร้ายสวมหมวกไหมพรมนั่งกระบะท้ายลงจากรถยิงกระหน่ำใส่ผู้ตายด้วยอาวุธปืนสงคราม อุกอาจท่ามกลางชาวบ้านในร้านน้ำชา ก่อนที่คนร้ายวิ่งขึ้นรถและหลบหนีไปทางบ้านพังกับ ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนเสาไฟฟ้า จับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจนทั้ง 3 คน สวมใส่เสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ สวมหมวกไหมพรม พร้อมอาวุธปืนสงคราม จะใช้เป็นเบาะแสติดตามจับกุมตัวต่อไป ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นอาจเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ แต่ไม่ตัดทิ้งปมขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น
ต่อมา พล.ต.โภชน์ นวลบุญ ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ปัตตานี พ.ต.อ.มนตรี คงวัดใหม่ ผกก.สภ.ยะหริ่ง และฝ่ายสืบสวน ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยนำวัตถุพยานในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนอาก้า 41 ปลอก และปลอกกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 41 ปลอก ที่มาจากอาวุธปืน 3 กระบอกของคนร้ายว่าเคยก่อเหตุใดมาบ้าง และเชื่อมโยงกับกลุ่มใด
พล.ต.ต.ปิยวัฒน์กล่าวว่าพุ่งเป้าไปในเรื่องขัดแย้งส่วนตัวเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น และอาจจะโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เพราะผู้ตายรู้ตัวมาตลอดว่าจะถูกลอบยิง และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยนำรถหุ้มเกราะมาใช้ป้องกันตัว เมื่อเห็นว่าเรื่องเงียบจึงคืนรถหุ้มเกราะ จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น และผู้ตายถือเป็นบุคคลที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการด้วยดีมาตลอด
ขณะที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.อ.รัฐศักดิ์ เตี้ยนวล รอง สว.สอบสวน สภ.ยี่งอ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 104 ถนนรามโกมุท หมู่ 3 ต.ยี่งอ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.ยี่งอ นำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปยังที่เกิดเหตุเป็นร้านรับซื้อเศษยางพารา พบศพนายปกรณ์ ลิปิการวงศ์ อายุ 66 ปี เจ้าของร้านถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 พรุนทั้งร่าง เสียชีวิตคาเก้าอี้โยก พบรถโฟล์กลิฟต์ หรือรถยกสินค้า ถูกไฟไหม้เสียหาย และพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 กว่า 10 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบศพนายอุสมาน สะหะบูดิง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 5 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส จมกองเลือดอยู่บริเวณหน้าร้านขายรถจักรยานยนต์มือ 2 ห่างจากจุดเกิดเหตุแรก 150 เมตร สภาพศพถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าที่หน้าอกและลำตัว 2 นัด พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 กว่า 10 ปลอกบนถนน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นายปกรณ์เป็นเถ้าแก่รับซื้อเศษยางพารา และลูกจ้างอีกคน อยู่ภายในร้าน มีคนร้าย 5 คน ผ้าคลุมอำพรางใบหน้า ถืออาวุธปืนเอ็ม 16 คนละกระบอกบุกเข้ามาในร้าน และยิงถล่มใส่นายปกรณ์เสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกจ้างวิ่งหลบหนีไปได้ จากนั้นคนร้ายเผารถยกสินค้า และวิ่งไปปากซอย ระหว่างนั้นยิงเปิดทางไปด้วย แต่กระสุนพลาดไปถูกนายอุสมานที่นั่งรอซื้อรถจักรยานยนต์เสียชีวิต
พ.ต.อ.ดุลยมานสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุดที่มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด เพื่อหาเบาะแสกลุ่มคนร้าย ว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยลอบวางระเบิดร้านของนายปกรณ์ มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนหรือไม่ ในเบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่
