ทูลกระหม่อมฯ เผยชีวิตสามัญชน การอยู่ต่างแดน ทำให้ได้เห็นทั้งสุขและทุกข์
ย้อนไปสู่เหตุการณ์ภายหลัง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงลาออกจาฐานันดรศักดิ์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2515 ได้ทรงเผยชีวิตส่วนพระองค์ เมื่อปี 2547 ตอนหนึ่ง ว่า
“เรียกว่าเป็นการเลือกวิถีชีวิตผิดไปตรงที่ไปแต่งงาน เป็นเวรเป็นกรรมไง ในเมื่อเราเลือกแต่งงานกับเขาก็ต้องอยู่อย่างนั้น ใครจะรู้บ้างว่า กวาดบ้าน ล้างห้องน้ำ เราก็ต้องทำ สามีถามว่า…ทำไมยูกวาดบ้านไม่ได้…ชีวิตเราผ่านอะไรมาเยอะ อาจลำบากกว่าอีกหลายคน คนอื่นอาจมองว่าชีวิตทูลกระหม่อมนี้ดี
แต่ไม่เคยมีใครรู้ชีวิตจริงๆ ของเราที่เมืองนอก…ในตอนที่ลำบากก็ไม่นึกว่าอยากจะกลับไทย คิดว่าสู้ได้ อยู่ได้อย่างไรล่ะ เมื่อมีสามีเราก็ไม่อยากต้องหย่าร้าง ยิ่งมีลูกเราก็ต้องพยายามประคับประคองให้ถึงที่สุด แต่เมื่อถึงเวลาต้องแตกร้าว อย่างน้อยก็รู้ว่าเราประคองจนถึงที่สุดแล้ว”
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ตรัสไว้ตอนหนึ่งว่า
“อย่างเราเลือกออกไปแต่งงาน ออกไปเมืองนอก ก็เป็นความผิดเหมือนกันที่ไม่ได้อยู่ในเมืองไทย แต่การที่เราเลือกออกไปเมืองนอก ทำให้ได้เห็นโลกเยอะแยะ ขณะเดียวกันก็ได้ความทุกข์กลับมาบ้าง แต่ถ้าอยู่ที่นี่ เราก็มีความสุขในการทำงาน แต่คล้ายๆ ว่าเหมือนเป็นหญิงต้องห้าม เป็นหุ่น เป็นตุ๊กตาสวยๆ ให้คนเก็บไว้มองดูเท่านั้น”
***ข้อมูลบางตอนจาก บทความ “บันทึกรักท่านหญิง : ความรักและการแต่งงานของเจ้านายสตรี หลัง พ.ศ.2475 เขียนโดย วีระยุทธ ปีสาลี นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับที่ 8 มิถุนายน 2559 อ้างจาก “บทประทานสัมภาษณ์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี แพรว ฉบับที่ 535 ประจำปักษ์ที่ 10 ธันวาคม 2544”