ดีเดย์บุกค้น จับกุม “พระธัมมชโย” ระดมกำลังหน่วยปราบจลาจล20 กองร้อยกว่า 3 พันนาย ทั้งทหาร ตำรวจ อส. ประกาศเขตควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย ปฏิบัติการลงมืออย่างรวดเร็วที่สุด จบภายใน 3 วัน หลังประเมินแล้วลูกศิษย์และสาวกอยู่ภายในวัดเริ่มบางตา ห้ามบุคคลภายนอกเดินทางเข้ามา แล้วส่งกำลังเข้าตรึงพื้นที่ภายในวัด เอาบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป คาดไม่เกิน 17 ก.พ.ยุติ

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ว่าอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ ส่วนการประชุมระหว่างดีเอสไอกับตำรวจ บช.ภาค 1 เมื่อเช้าที่ผ่านมา เป็นการประชุมร่วมกันตามปกติในทุกสัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ประสานมายังดีเอสไอ เพื่อขอข้อมูลแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ จึงส่งข้อมูลไปให้ ส่วนการขอหมายค้นวัดพระธรรมกายอีกรอบนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องรอประเมินสถานการณ์ความพร้อม

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. มารับผิดชอบการนำกำลังเข้าจับกุมตัวพระธัมมชโย แทน พล.ต.อ.ศรีวราห์ นั้น อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า เวลาที่ดีเอสไอขอกำลังตำรวจ จะประสานไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นหลัก ส่วนฝ่ายตำรวจจะมอบหมายใครนั้น ดีเอสไอก็ทำงานได้อยู่แล้ว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เดชณรงค์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่ายังไม่ทราบเรื่อง ยังไม่มีคำสั่งใดๆ จาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังเป็น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่รับผิดชอบงานนี้อยู่

ขณะที่ พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผบก.กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) บช.น. เปิดเผยว่า บช.ภาค 1 ประสานขอกำลัง 3 กองร้อย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันเคลื่อนย้ายกำลังแต่อย่างใด

มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจาก บช.ภาค 1 ประสานขอกำลังจาก บก.อคฝ. บช.น. จำนวน 3 กองร้อยแล้ว ยังทำเรื่องขอกำลังไปยัง บช.ภาค 7 ด้วย จำนวน 2 กองร้อย รวมกับกำลังจาก บก.อคฝ. รวมทั้งหมด 5 กองร้อย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) แจ้งด้วยว่าดีเอสไอประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย จำนวน 15 กองร้อย หรือประมาณ 1,350 นาย ล่าสุดได้วิทยุสั่งการไปยังผู้บังคับหน่วยคุมกำลังให้จัดเตรียมกำลัง ณ ที่ตั้ง

ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชประสงค์ กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดีเอสไอขอกำลังทหารกองทัพภาคที่ 1 เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ว่ายังไม่ทราบ คิดว่าคงไม่มี และ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ยังไม่ได้รายงานให้ทราบ

ส่วนสถานการณ์ที่วัดพระธรรมกาย อ.คลอง หลวง จ.ปทุมธานี นั้น บรรยากาศโดยรอบยังปกติ โดยเฉพาะที่ประตู 7 ติดกับถนนสายบางขัน-หนองเสือ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง ประตูหลักที่บรรดาลูกศิษย์ใช้เข้าออกนั้น เปิดเพียงประตูด้านขวาเท่านั้นส่วนประตูด้านซ้ายยังปิดอยู่ มีรปภ. 3 คนเฝ้าอำนวยความสะดวก ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจมาควบคุมในจุดนี้ แต่มีตำรวจ 2 นาย ตั้งจุดตรวจความสงบเรียบร้อยบริเวณริมถนนเลียบคลองสอง เป็น จุดสำคัญหนึ่งที่เชื่อมต่อไปยังประตู 8 โดย เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นการตรวจตราปกติ ไม่มี คำสั่งพิเศษอะไรจากผู้บังคับบัญชา

มีรายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า จากการประเมินสถานการณ์เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ระหว่าง ดีเอสไอ ร่วมกับตำรวจ และจังหวัดปทุมธานี มีความเห็นพ้องร่วมกันว่า สถานการณ์ภายในวัดพระธรรมกายถึงขณะนี้ บรรดาศิษย์และสาวกที่อยู่ภายในวัดเริ่มบางตา ถึงเวลาเหมาะสมสำหรับปฏิบัติการเพื่อตรวจค้นและจับกุมพระธัมมชโย จึงมีคำสั่งให้หน่วยกำลังด้านปราบจลาจล ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการของ ดีเอสไอ หน่วยควบคุมฝูงชนของ บช.ภาค 1 สมทบด้วยหน่วยควบคุมฝูงชน บช.ภาค 7 หน่วยควบคุมฝูงชนนครบาล

รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลจากกองทัพภาคที่ 1 เตรียมพร้อมเข้าร่วมปฏิบัติการ โดยให้เดินทางมารวมพลที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังเที่ยงคืนของวันที่ 15 ก.พ.นี้ โดยกำลังหน่วยปราบจลาจลและหน่วยควบคุมฝูงชนส่วนนี้จะมีทั้งสิ้น 20 กองร้อย และให้จังหวัดปทุมธานีจัดเจ้าหน้าที่อส.เข้ามาร่วมด้วยอีกส่วนหนึ่ง โดยให้จัดตั้งกองบัญชาการเหตุการณ์ขึ้นในกองบังคับการตชด.ภาค 1 อ.คลองหลวง มีอธิบดีดีเอสไอ ผบช.ภาค 1 และผู้ว่าฯ ร่วมเป็นผบ.เหตุการณ์

ข่าวแจ้งว่า สำหรับวันเวลาลงมือปฏิบัติการ ยังปกปิดเป็นความลับ เกรงว่าข่าวจะรั่วไหล ทำให้ฝ่ายวัดพระธรรมกายระดมมวลชนเข้ามาภายในวัด อันจะเป็นอุปสรรคของปฏิบัติการได้ แต่คาดว่าจะเร่งลงมือเร็วที่สุด โดยแผนปฏิบัติการ จะเริ่มจากการออกประกาศให้พื้นที่วัดธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่ใช้ในการเข้าสลายการชุมนุมที่ผ่านๆ มา ผลจากการประกาศพื้นที่ควบคุม ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีผลห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเดินทางเข้ามาในพื้นที่ควบคุมได้ ใครฝ่าฝืนมีผลผิดกฎหมายทันที

ส่วนคนที่อยู่ภายในวัดจะต้องออกจากพื้นที่ควบคุม โดยเจ้าหน้าที่จะจัดหน่วยคอมมานโดนเข้าตรึงภายในวัด และนำบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องที่ยังอยู่ในวัดขึ้นรถเดินทางออกไปทั้งหมด จากนั้นจะใช้หน่วยกำลังเข้าตรวจค้นอย่างละเอียด มีเป้าหมายคือ จับกุมตัวพระธัมมชโยตามหมายจับที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ประเมินว่า น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน คือภายในวันที่ 17 ก.พ. จะต้องควบคุมพื้นที่ในวัดได้หมด และต้องจับกุมพระธัมมชโยให้ได้

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายล่าสุดมีกว่า 300 คดี พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 2 โดยระยะเวลาการจับกุมอยู่ในกรอบเวลา 20 วัน ก่อนสรุปสำนวนมีความเห็นส่งให้พนักงานอัยการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน