หวยปลอม ที่แท้ใช้คอมพ์สแกนมาขายเอง แม่ค้ารับสารภาพแล้ว ร่วมกับเพื่อนอีกคน งวดที่แล้วทำมา 200 ใบขายเกลี้ยงที่ขอนแก่น งวดนี้เลยจัดมาอีกพันใบ แต่มาโดนจับซะก่อน ตร.จ่อหมายจับอีกราย ด้านกองสลาก ออกโรงเตือน พร้อมแนะวิธีดูสลากจริง-ปลอม เผยอีกเตรียมปรับพิมพ์เป็นใบละ 80 บาท และออกสลากชุด 5 ใบมาขายเอง
จากกรณีจับกุมสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอม โดยตำรวจ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จับกุม 4 พ่อค้าแม่ค้าที่นำสลากฯปลอม 693 ฉบับ (คู่) มาขายในวัดดังที่ จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี กล่าวว่า ได้ประสานไปยังสำนัก งานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยพล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มอบหมายให้ พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รองผอ.กองสลากกินแบ่งรัฐบาล นำเอาเครื่องมือ พร้อมผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบพิสูจน์สลากที่ตรวจยึดไว้ทั้งหมด และได้ยืนยันว่าเป็นของปลอมทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่จับกุมไว้ยังคงควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.นครชัยศรี
พ.ต.อ.สีหเดชกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนน.ส.ศิริมา รักขันแสง ผู้ต้องหาที่อ้างว่ารับซื้อสลากมาจากเฮียอ้วน วังสะพุงนั้น ได้รับสารภาพว่า เฮียอ้วนไม่มีตัวตนจริงเป็นเพียงข้ออ้างในครั้งแรก ข้อเท็จจริงคือ ได้ร่วมมือกับนายเจษฎากร วะรีฤทธิ์ ปลอมเอง โดยใช้สลากฯ ของจริงของงวดวันที่ 16 ก.พ. 60 ไปสแกนด้วยคอมพิวเตอร์ แล้วใช้โปรแกรมโฟโต้ช็อปตกแต่ง จากนั้นปรินต์และถ่ายเอกสาร แล้วนำมาตัดจัดเรียงชุดตัวเลข ใส่ซองพลาสติกออกจำหน่ายเป็นชุด ชุดละ 5 ใบ 10 ใบ ใบละ 90 บาท โดยทำครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง สำหรับครั้งแรกทำปลอมออกมา 200 ใบ จำหน่ายที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งราบรื่นไม่มีปัญหาขายหมด มาคราวนี้จึงทำปลอมมากกว่าเดิมโดยทำถึง 1 พันใบ กระทั่งมาถูกจับดังกล่าว
พ.ต.อ.สีหเดชกล่าวอีกว่า ในส่วนการดำเนินคดีจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลในวันที่ 16 ก.พ. โดยให้พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะหลบหนี อีกทั้งทางผู้บริหารกองสลากได้กำชับให้สอบสวนขยายผลให้ถึงตัวผู้เกี่ยวข้องและตัวการที่แท้จริง เพื่อจะได้นำตัวมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันจากการสอบปากคำน.ส.ศิริมาพบว่า ยังมีตัวการร่วมอีก 1 คน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนกำลังจะเสนอขออนุมัติหมายจับ ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด มีฐานความผิดตามกัน ต่างกรรม ต่างวาระ ทั้งร่วมกันฉ้อโกง มีและใช้เอกสารราชการปลอม และอื่นๆ
“ขอฝากเตือนประชาชนที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้ตรวจสอบสลากฯให้ดีก่อนซื้อว่าเป็นของจริงหรือไม่ โดยสังเกตจากเนื้อกระดาษที่มีลักษณะบางกว่าของจริง และหมึกด้านหน้าจะเห็นเป็นเงาทะลุด้านหลัง และสีจะออกคล้ำกว่าของจริงเล็กน้อย จึงขอให้ดูให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อสลากฯ เป็นไปได้ถ้าตัดสินใจซื้อให้ขอดูบัตรประจำตัวประชา ชนผู้ที่ขาย แล้วถ่ายภาพเก็บไว้ และให้ผู้ที่ขายสลากให้เรา ลงชื่อนามสกุลไว้ที่หลังสลากว่า เป็นผู้จำหน่ายสลากฉบับนี้แก่ผู้ซื้อ พร้อมลง วันที่ เดือน ปีที่ซื้อไว้เป็นหลักฐาน หากสลากที่ซื้อไปเกิดถูกรางวัล แล้วผู้ซื้อนำไปขึ้นเงินแล้วถูกตรวจพบว่า เป็นสลากปลอม ผู้ที่นำไปขึ้นเงินจะได้ไม่มีความผิด” พ.ต.อ.สีหเดชกล่าว
พ.ต.อ.สีหเดชกล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ค้าสลากที่ขายสลากแท้ ทำการค้าด้วยใจบริสุทธิ์ ควรนำบัตรประจำตัวประชาชนตนเองไปถ่ายขยายให้ใหญ่เห็นเด่นชัดขนาดเท่า A4 เคลือบติดแสดงไว้กับแผงสลาก เพื่อแสดงตัวตนผู้จำหน่ายให้ผู้ซื้อสลากมามีความมั่นใจก็ยิ่งดี
ด้านพล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผอ.สลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมผู้ค้าสลากฯปลอม ที่จ.นครปฐม ว่า ผู้ขายอ้างว่าได้ขายสลากฯไปแล้ว 6 ชุด หากสลากฯที่ขายออกไปถูกรางวัลจะไม่สามารถนำมาขึ้นเงินได้ ทั้งนี้สำนักงานสลากฯ มีความเป็นห่วงทั้งผู้แทนจำหน่ายและประชาชนผู้ซื้อ โดยได้มีการย้ำถึงการดูสลากฯ จริง และปลอม เพื่อรู้เท่าทันมิจฉาชีพ ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
พล.ต.ฉลองรัฐกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่าสลากฯดังกล่าวเป็นของปลอมแน่นอน โดยดูด้วยตาเปล่าไม่ปรากฏรูปนกวายุภักษ์ในเนื้อกระดาษ เมื่อนำน้ำมาลูบที่สลากฯ พบว่าหมึกจาง ต่างจากสลากฯจริงอย่างชัดเจน และเมื่อตรวจสอบด้วยแสงแบล็กไลต์พบความแตกต่างหลายจุด อาทิ ตัวสลากฯ ไม่มีเส้นไหมเรืองแสง ซึ่งสลากฯ จริงต้องมีเส้นไหมเรืองแสงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เส้นที่พาดผ่านตัวเลข 6 หลักไม่เรืองแสง และน้ำหมึกที่ใช้พิมพ์ตัวเลขสีส้มเพื่อป้องกันการปลอมแปลงสีหม่นไม่ชัดเจน
“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกตรวจพบการปลอมสลากฯ แล้วนำไปขาย จากการตรวจเจอสลากปลอมส่วนใหญ่จะทำมาแค่ใบหรือสองใบเพื่อนำไปขึ้นรางวัลตามร้านที่รับซื้อรางวัล แต่ครั้งนี้เป็นกระบวนการพิมพ์สลากปลอมขึ้นมาขาย จึงขอเตือนประชาชนที่นิยมซื้อสลากเลขชุดให้ตรวจสลากที่อยู่ในซองพลาสติกทุกฉบับ
พล.ต.ฉลองรัฐกล่าวอีกว่า อยากให้ประชา ชนสังเกตที่หมายเลขบาร์โค้ดบนสลากฯ หากเป็นสลากฯจริง หมายเลขแต่ละฉบับจะไม่ซ้ำกัน โดยในขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้ตรวจการทุกเขตลงพื้นที่สุ่มตรวจสลากฯ อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับคุณลักษณะพิเศษของสลากฯ จริง คือ กระดาษเมื่อส่องกับแสงสว่างหรือแสงไฟสีขาว จะมีลายน้ำเป็นรูปนกวายุภักษ์ปรากฏในเนื้อกระดาษ ลักษณะสีขาวและสีเทากระจายอยู่ทั่วใบสลากฯ ขณะที่สลากฯปลอมจะไม่มีลายน้ำปรากฏ รวมทั้งสลากฯ จริงเนื้อกระดาษเมื่อนำส่องกับแสงสีม่วง (แบล็กไลต์) จะมีเส้นไหมเรืองแสงสม่ำเสมอทั้งด้านหน้าและด้านหลังของสลากฯ ขณะที่สลากฯ ปลอมจะไม่มีเส้นไหมเรืองแสงดังกล่าว
นอกจากนี้ เส้นที่พาดผ่านตัวเลขสลากฯ 6 หลักนั้น หากเป็นสลากฯ จริง จะเรืองแสงพาดผ่านตัวเลขสลาก 6 หลัก ขณะที่สลากฯ ปลอม จะไม่เรืองแสงพาดผ่านตัวเลข 6 หลัก และหมึก Anti Copy (หมึกที่ใช้พิมพ์ตัวเลขสีส้มเพื่อป้องกันการปลอมแปลง) เมื่อมองด้วยตาเปล่านั้น หากเป็นสลากฯ จริง สีส้มจะสว่างชัดเจน ต่างกับสลากฯ ปลอมที่จะมีสีหม่นกว่า
พล.ต.ฉลองรัฐกล่าวด้วยว่า สำนักงานสลากฯเตรียมปรับรูปแบบการพิมพ์สลากฯ จากเดิมฉบับละ 40 บาท แต่พิมพ์จำหน่ายติดกันเป็น 2 ฉบับคู่ ขายในราคา 80 บาท โดยจะเสนอคณะกรรมการสลากฯ ให้ปรับการพิมพ์เป็นสลากใบเดียวขายในราคา 80 บาท เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมการซื้อของประชาชน ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาผล กระทบทั้งด้านการขายและจิตวิทยา รวมถึงความพร้อมเครื่องพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดออกสลากชุดมาจำหน่าย โดยอาจจะจำหน่ายเป็นชุดละ 5 ใบ ใบละ 80 บาท รวมราคาชุดละ 400 บาท โดยกันสลากฯ 5 ล้านฉบับมาออกเป็นสลากฯ ชุด ซึ่งสามารถใช้อำนาจของคณะกรรมการฯ อนุมัติได้โดยไม่ต้องรอการแก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานสลากฯ ทั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการในการจัดการเรื่องการขายสลากฯ เกินราคาที่ยังอยู่ระหว่างการศึกษา
