เจอแล้วหม้อต้มตีนไก่ เจ้าของไม่เอาเรื่องมือฉก แต่เป็นอุทาหรณ์คุกถึง 10 ปี
เจอแล้วหม้อต้มตีนไก่ – เมื่อวันที่ 10 ก.พ. จากกรณีที่คลิปเผยแพร่เหตุการณ์หญิงสวมกางเกงสามส่วนสีเขียวใส่ชุดเอี๊ยมกันเปื้อนและสวมเสื้อคลุมแขนยาว อำพรางใบหน้าพรางด้วยผ้าคลุมและสวมหมวกกันน็อก ขโมยหม้อต้มขนาดใหญ่เบอร์ 40 ภายในหม้อมีตีนไก่ต้มประมาณ 3 กิโลกรัมที่เจ้าของเตรียมไว้จำหน่ายหนีหายไป ล่าสุดเจ้าของให้สัมภาษณ์ว่า มีผู้แจ้งเบาะแสจนจับกุมมือฉกได้แล้ว
เหตุเกิดภายในร้านอาหาร “ใหญ่นครพิงค์” อยู่ใกล้กับศูนย์ราชการจังหวัด หรือ ถนนหน้าอำเภอ บริเวณสี่แยกถนนสมบูรณ์กุลตัดกับถนนอุดมสิริ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โดยมีนายพิเชฐ เฉลิมทรัพย์ หรือ ใหญ่ วัย 41 ปี เป็นเจ้าของร้าน
ต่อมาเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ราชบุรี แจ้งให้ทางผู้เสียหายทราบว่า จับกุมตัวโจรรายดังกล่าวพร้อมของกลาง “หม้อตุ๋นตีนไก่” ตามข้อมูลและเบาะแสที่ได้รับแจ้ง อยู่ในหมู่บ้านเจริญสุข ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี
เจ้าของหม้อต้มพบเจ้าหน้าที่
น.ส. เยาวลักษณ์ แดงเดช อายุ 59 ปี รับสารภาพว่า เข้าไปลักขโมยหม้อตุ๋นตีนไก่ใบดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านน.ส.กชกร และนายพิเชฐ เฉลิมทรัพย์ สามีภรรยา เจ้าของร้านใหญ่นครพิงค์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้ที่แจ้งเบาะแสเข้ามาและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุมได้ เดิมไม่คิดว่าจะติดตามตัวได้รวดเร็วขนาดนี้
ส่วนคนร้ายรายนี้ตนเองก็สงสัยมาอยู่แล้วว่าน่าจะต้องใช่คนเดียวกับกับที่เคยรับเข้ามาทำงาน หญิงรายนี้สารภาพเป็นผู้ก่อเหตุจริงตามคลิปภาพที่ปรากฏ ซึ่งหลังจากที่ขโมยไปที่บ้านแล้ว ก็อุ่นตีนไก่แบ่งไว้รับประทานและที่เหลือก็นำไปเลี้ยงสุนัข ส่วนหม้อล้างเก็บไว้
เจ้าของร้าน กล่าวอีกว่า ไม่ได้ติดใจเอาความใดๆ เพราะสงสาร แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความคดีอาญาที่เข้ามาลักทรัพย์ในยามวิกาล จึงต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
จึงอยากฝากถึงผู้ที่คิดจะเป็นขโมยขอให้คิดไตร่ตรอง เพราะตัวอย่างจากคดีนี้ เข้ามาขโมยเพียงแค่หม้อตุ๋นตีนไก่ แต่ต้องถูกลงโทษ อาจมีโทษถึงจำคุกเป็นเวลากว่า 10 ปี
หม้อของกลาง แต่ไม่เหลือตีนไก่แล้ว
ด้าน ร.ต.ท.หญิง ภูษณิศา จันทรัชภ์ พนักงานสอบสวนระบุว่า ในคดีนี้ถือว่าเป็นคดีอุทาหรสำหรับผู้ที่คิดจะเป็นโจรขโมย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหาไว้ 5 กระทงด้วยกัน ประกอบด้วย 1.ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 2.มอมหน้า หรือ ทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้ เห็นหรือจำ หน้าได้ 3.รับของโจร 4.ใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม 5.บุกรุกเคหสถาน โดยไม่ได้รับอนุญาต
รวมฐานความผิดแล้วมีโทษจำคุกกว่า 10 ปี หลังจากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องต่อศาลในคดีอาญาต่อไป และส่งตัวฝากขังเป็นเวลา 48 วัน หลังจากนี้จะเป็นดุลพินิจของศาลที่จะตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิดต่อไป
