“อัศวิน” ฟุ้ง แก้ฝุ่นพิษพีเอ็ม 2.5 ได้ ลั่น!! “ผมเชื่อว่าธรรมชาติเข้าข้างผม”

แก้ฝุ่นพิษพีเอ็ม 2.5 – วันที่ 11 ก.พ. ที่โรงพยาบาลกลาง สำนักการแพทย์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงสถานการณ์ฝุ่นละอองกับการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้บุคลากรเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองได้อย่างเข้าใจมากขึ้น

โดยมีนายศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผู้อำนวยการวิจัยและพัฒนาการป้องกันและการจัดการภัยพิบัติ คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมบรรยายเรื่อง “รู้เท่าทัน พีเอ็ม 2.5” และนางชุลีกร โวอุดร แพทย์ชำนาญการโรงพยาบาลสิรินธร บรรยายเรื่อง “การดูแลรักษาสุขภาพของประชาชนในสถานการณ์ฝุ่นละออง” ให้แก่ผู้บริหารกทม. บุคลากรกทม.ที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมประชุม

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (พีเอ็ม 2.5) ที่เกิดขึ้นเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล เป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วนและจริงจัง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน

โดยที่ผ่านมา กทม.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาเร่งด่วน พร้อมออกมาตรการระยะสั้นเพื่อบรรเทาฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 อาทิ การระดมรถฉีดน้ำและอุปกรณ์ทำความสะอาดพื้นถนนทั่วกรุงเทพฯ การประกาศปิดการเรียนการสอนโรงเรียนสังกัดกทม. 437 แห่ง ประสานภาคเอกชน ห้างหุ่นส่วนและผู้ประกอบการในการติดตั้งสปริงเกอร์ตามอาคารและฉีดน้ำ รวมถึงประสานโรงเรียนการบินกรุงเทพนำเครื่องบินเล็กร่วมปฏิบัติภารกิจขึ้นฉีดพ่นละอองน้ำ (สเปรย์) ในอากาศบริเวณพื้นที่ประสบวิกฤตค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานให้ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และกรมอุตุนิยมวิทยา ยังแจ้งว่าระหว่างวันที่ 13-15 ก.พ.นี้ สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานครอาจมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เนื่องจากอากาศปิด ซึ่งกทม.จะประสานให้โรงเรียนการบินกรุงเทพปฏิบัติภารกิจอีกครั้งในวันดังกล่าว สอดคล้องกับแนวทางของนักวิชาการที่มีข้อเสนอแนะให้กทม.ควรดำเนินการต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดที่ประสบวิกฤตจนกว่าสถานการณ์จะบรรเทาลง อย่างไรก็ตามสำหรับการดำเนินการมาตรการระยะสั้นนั้น กทม.สามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ โดยปัจจุบันค่าฝุ่นละอองลดลงและมีค่าฝุ่นละอองต่ำกว่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ทุกพื้นที่แล้ว

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักการแพทย์รายงานสถิติผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นในโรงพยาบาลสังกทม. พบสถานการณ์ฝุ่นละอองมักจะรุนแรง ระหว่างช่วงเดือนต.ค.-ม.ค.ของทุกปี โดยเฉพาะปี 2559-2561 มีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง ซึ่งพบมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษากว่า 70,000 ราย และปี 2562 มีจำนวนผู้ป่วยทะลุถึง 200,000 ราย

ดังนั้นสำนักการแพทย์ กทม. จึงเห็นควรจัดประชุมชี้แจงสถานการณ์ฝุ่นละอองเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ความเข้าใจทางวิชาการด้านอนามัยและสาธารณสุข โดยตนนำจะแนวทางและข้อสรุปของวันนี้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมกำหนดเป็นมาตรการระยะกลางและยาว พร้อมจะนำเสนอให้ปัญหาฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ เช่นเดียวกับหลายประเทศ ซึ่งปัจจุบันเฉพาะทวีปเอเชียมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7 ล้านคนต่อปี

“ผมเชื่อว่าธรรมชาติเข้าข้างผม เพราะตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมา มีลมช่วยปัดเป่าฝุ่นพิษในพื้นที่ออกไป” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงข้อเสนอของนักวิชาการให้กทม.เสนองบประมาณติดตั้งเครื่องกรองอากาศขนาดใหญ่เช่นเดียวกับประเทศจีน ว่า ประเด็นดังกล่าวจะนำไปเสนอต่อครม.ด้วย แต่เนื่องจากต้องใช้งบประมาณสูงมาก ประกอบกับระยะเวลาติดตั้ง โดยกทม.เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาระยะยาวอาจมีแนวทางอื่นด้วย ก็จะร่วมถกกับนักวิชาการและทุกภาคส่วนหาแนวทางอื่นนำไปประกอบการพิจารณา เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอย่างถาวรและยั่งยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน